Piper aduncum L., Piperaceae, stand

Piper aduncum L., Piperaceae, stands out due to its biological activities, however, it is still found in the wild and little is known about its agronomic point of view. The aim of this study was to evaluate the growth and to analyze the chemical composition of essential oils from leaves of P. aduncum collected in two different sites of Cerrado as well as in cultivated plants. The cultivation was installed out in a greenhouse using cuttings of adult specimens. Essential oils were obtained from fresh leaves. Plants from the two studied locations showed erect growth habit and behavior of linear growth. The essential oils composition of P. aduncum from Bocaiuva did not differ between wild and cultivated plants, as the major substance identified as 1,8-cineole. The plants from Montes Claros site showed a distinct concentration for the two samples, being the major substance characterized as transocimene (13.4%) for wild and 1,8-cineole (31.3%) for cultivated plants. Samples from both locations showed a similar essential oil composition in cultivars. Our results showed that P. aduncum cultivation is feasible and the variation in chemical composition of the two sites may indicate an environmental influence, since chemical and isoenzyme analysis did not show great differences.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พริกไทย aduncum L., piperaceae เติมพลังงาน โดดเด่นเนื่องจากกิจกรรมทางชีวภาพ อย่างไรก็ตาม มันยังคงอยู่ในป่า และเกี่ยวกับเจตคติเป็นลักษณะทาง จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้เป็น การประเมินการเจริญเติบโต และ การวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยจากใบของ P. aduncum รวบรวมไว้ในไซต์ที่แตกต่างกันสองของ Cerrado เป็นอย่างดีเช่นปลูกพืช การเพาะปลูกมีการติดตั้งออกในเรือนกระจกที่ใช้ตัดของชิ้นงานทดสอบสำหรับผู้ใหญ่ น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากใบสด พืชจากสองตำแหน่งที่ศึกษาพบว่าเติบโตตั้งตรงนิสัยและพฤติกรรมของการเติบโตเชิงเส้น องค์ประกอบของน้ำมันหอมระเหยของ P. aduncum จาก Bocaiuva ไม่ได้แตกต่างกันระหว่างป่า และเพาะปลูกพืช เป็นสารสำคัญที่ถูกระบุว่าเป็น cineole 1, 8 พืชจากไซต์ Montes Claros แสดงให้เห็นว่าความเข้มข้นแตกต่างกันสำหรับตัวอย่างที่สอง เป็นสารสำคัญที่มีลักษณะเป็น transocimene (13.4%) สำหรับป่า และ 1, 8-cineole (31.3%) สำหรับปลูกพืช ตัวอย่างจากสถานทั้งสองแสดงให้เห็นองค์ประกอบคล้ายน้ำมันในสายพันธุ์ ผลของเราแสดงให้เห็นว่า P. aduncum เพาะปลูกเป็นไปได้ และการเปลี่ยนแปลงในองค์ประกอบทางเคมีของสองเว็บไซต์อาจแสดงอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วิเคราะห์เคมีและ isoenzyme ไม่ได้แสดงความแตกต่างที่ดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไพเพอร์ aduncum ลิตร Piperaceae ยืนออกเนื่องจากฤทธิ์ทางชีวภาพของ แต่มันก็ยังคงพบในป่าและเป็นที่รู้จักกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับประเด็นทางการเกษตรของมุมมอง จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการประเมินการเจริญเติบโตและการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยจากใบของพี aduncum เก็บในสองเว็บไซต์ที่แตกต่างกันของ Cerrado เช่นเดียวกับในการปลูกพืช การเพาะปลูกได้รับการติดตั้งออกมาในเรือนกระจกโดยใช้การตัดตัวอย่างผู้ใหญ่ น้ำมันหอมระเหยที่ได้รับจากใบสด พืชจากสองสถานศึกษาแสดงให้เห็นว่าการเจริญเติบโตสร้างนิสัยและพฤติกรรมของการเจริญเติบโตเชิงเส้น องค์ประกอบสำคัญของน้ำมันพี aduncum จาก Bocaiuva ไม่แตกต่างกันระหว่างพืชป่าและปลูกเป็นสารสำคัญที่ระบุว่าเป็น 1,8-cineole พืชจากเว็บไซต์ Montes Claros แสดงให้เห็นว่ามีความเข้มข้นแตกต่างกันสำหรับทั้งสองตัวอย่างเป็นสารสำคัญที่มีลักษณะเป็น transocimene (13.4%) สำหรับป่าและ 1,8-cineole (31.3%) สำหรับปลูกพืช ตัวอย่างจากสถานที่ทั้งสองพบว่ามีองค์ประกอบคล้ายน้ำมันหอมระเหยในสายพันธุ์ ผลของเราแสดงให้เห็นว่าการเพาะปลูกพี aduncum เป็นไปได้และการเปลี่ยนแปลงในองค์ประกอบทางเคมีของทั้งสองเว็บไซต์ที่อาจบ่งบอกถึงอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมเนื่องจากสารเคมีและการวิเคราะห์ isoenzyme ไม่แสดงความแตกต่างที่ดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไพเพอร์ aduncum ล. ช้าพลู , ยืนออกเนื่องจากกิจกรรมทางชีวภาพของตน แต่ก็ยังพบได้ในป่าและเป็นที่รู้จักกันเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับลักษณะทางการเกษตรของจุดของมุมมอง จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษาการเจริญเติบโต และวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยจากใบหน้า aduncum เก็บสองเว็บไซต์ที่แตกต่างกันของเซอราโด้เช่นเดียวกับในการปลูกพืช การติดตั้งในโรงเรือนโดยใช้การตัดตัวอย่างผู้ใหญ่ น้ํามันหอมระเหยที่ได้จากใบสด จากการศึกษาพบว่าพืชทั้งสองสถานที่สร้างนิสัยและพฤติกรรมการขยายตัวเชิงเส้น น้ํามันหอมระเหย องค์ประกอบของหน้า aduncum จาก bocaiuva ไม่แตกต่างกันระหว่างพืชป่าและปลูกเป็นหลัก สาร ระบุเป็น 1,8-cineole . พืชจากเว็บไซต์ พบว่ามีความเข้มข้นของเญินคลารอสที่แตกต่างกันสำหรับสองตัวอย่างเป็นหลัก สารลักษณะเป็น transocimene ( ร้อยละ 13.4 ) สำหรับป่าและ 1,8-cineole ( 31.3 % ) สำหรับการปลูกพืช ตัวอย่างจากสถานที่ทั้งสองมีองค์ประกอบคล้ายน้ำมันหอมระเหยในพันธุ์ ผลของเราแสดงให้เห็นว่าหน้า aduncum การเพาะปลูกมีความเป็นไปได้และการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางเคมีของทั้งสองเว็บไซต์ที่อาจบ่งชี้ถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การวิเคราะห์ทางเคมีและความรู้สึกไม่แสดงความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่