The median age of diagnosis of lung

The median age of diagnosis of lung cancer is in the mid 60's. This means that half of the people who get lung cancer are above this age and half are below it. This does not mean that only older people get lung cancer. The youngest patient that I have seen with smoking-related lung cancer was in her early 30's, and we are seeing increasing numbers of cases in people in their 40's. I have also seen lung cancer in patients in their 20's who were never-smokers. In the majority of cases, lung cancer is caused by years or decades of smoking. The risk of developing lung cancer increases with the duration of smoking and the amount smoked. However, there is no threshold of cigarette exposure above which one is at increased risk for getting lung cancer but below which there is very little risk. Even a small amount of cigarette exposure can cause permanent genetic damage to the lungs that could lead to lung cancer. The risk of getting lung cancer in someone who has ever smoked, even a small amount, will always be at least slightly higher than for someone who has never smoked. Even non-smokers who are exposed to cigarette smoke at home or at work (secondhand smoke) are at increased risk for lung cancer, although certainly nowhere near as great a risk as for those who smoke heavily.

What happens to the risk of getting lung cancer in people who have quit smoking? This question has been carefully addressed in a study by Halpern, et al (1). Surprisingly, the risk of developing lung cancer does not go down to zero after smoking cessation. It is interesting that about half of lung cancer patients who are diagnosed at the present time are former smokers. Some of them quit smoking decades before diagnosis. There is no "safe" level of cigarette exposure.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อายุเฉลี่ยของการวินิจฉัยโรคมะเร็งปอดอยู่ในกลางปี 60 ซึ่งหมายความ ว่า ครึ่งหนึ่งของคนที่เป็นมะเร็งปอดได้ยุคนี้และมีครึ่งล่าง นี้ไม่ได้หมายความ ว่า ผู้สูงอายุเท่านั้นได้รับมะเร็งปอด ผู้ป่วยอายุน้อยที่สุดที่ผมเห็น ด้วยโรคมะเร็งปอดที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ คือ 30-39 ของเธอก่อน และเราเห็นการเพิ่มหมายเลขของกรณีในคนใน 40's ของพวกเขา นอกจากนี้ฉันยังได้เห็นมะเร็งปอดในผู้ป่วยวัย 20-29 ของพวกเขาที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ในกรณีส่วนใหญ่ โรคมะเร็งปอดเกิดจากปีหรือทศวรรษของการสูบบุหรี่ ความเสี่ยงของมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นกับระยะเวลาของการสูบบุหรี่และเงินรมควัน อย่างไรก็ตาม ไม่มีขีดจำกัดของบุหรี่ข้างหนึ่งซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงสำหรับโรคมะเร็งปอด แต่ด้าน ล่างซึ่งมีความเสี่ยงน้อยมาก แม้เล็กน้อยสัมผัสบุหรี่อาจทำให้เกิดความเสียหายทางพันธุกรรมถาวรไปยังปอดที่อาจนำไปสู่โรคมะเร็งปอด ความเสี่ยงของมะเร็งปอดในคนที่มีเคยรมควัน แม้แต่น้อย จะน้อยสูงกว่าเล็กน้อยสำหรับคนที่เคยสูบ แม้ว่าจะไม่สูบบุหรี่ที่มีสัมผัสกับควันบุหรี่ที่บ้าน หรือ ที่ทำงาน (ควันบุหรี่มือสอง) จะเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งปอด แม้ว่าแน่นอนกินได้ดีมีความเสี่ยงเช่นผู้ที่สูบบุหรี่อย่างหนักเกิดอะไรขึ้นกับความเสี่ยงของมะเร็งปอดในคนที่มีเลิกสูบบุหรี่ คำถามนี้มีการระมัดระวังได้ในการศึกษา ด้วย Halpern, et al (1) น่าแปลกที่ ความเสี่ยงของมะเร็งปอดไปลงศูนย์หลังจากหยุดบุหรี่ เป็นที่น่าสนใจว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ได้รับการวินิจฉัยในปัจจุบันเป็นอดีตผู้สูบบุหรี่ บางคนเลิกบุหรี่ทศวรรษก่อนการวินิจฉัย ไม่มีระดับที่ปลอดภัย"บุหรี่แสงได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อายุเฉลี่ยของการวินิจฉัยของโรคมะเร็งปอดในช่วงกลางปี 60 ซึ่งหมายความว่าครึ่งหนึ่งของคนที่ได้รับโรคมะเร็งปอดสูงกว่ายุคนี้และครึ่งหนึ่งอยู่ด้านล่างมัน นี้ไม่ได้หมายความว่าคนที่มีอายุมากกว่าเพียงได้รับโรคมะเร็งปอด ผู้ป่วยที่อายุน้อยที่สุดที่ฉันได้เห็นด้วยโรคมะเร็งปอดสูบบุหรี่ที่เกี่ยวข้องคือตัวเธอ 30 ต้นและเราจะเห็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยในคนใน 40 ของพวกเขา ฉันยังได้เห็นโรคมะเร็งปอดในผู้ป่วยใน 20 ของพวกเขาที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ในกรณีส่วนใหญ่ที่เป็นโรคมะเร็งปอดที่เกิดจากปีหรือทศวรรษที่ผ่านมาของการสูบบุหรี่ ความเสี่ยงของการเพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งปอดที่มีระยะเวลาของการสูบบุหรี่และจำนวนเงินที่รมควัน แต่มีเกณฑ์ของการสัมผัสบุหรี่ดังกล่าวข้างต้นเป็นที่หนึ่งที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด แต่ต่ำกว่าที่ไม่มีมีความเสี่ยงน้อยมาก แม้เพียงเล็กน้อยของการสัมผัสบุหรี่สามารถทำให้เกิดความเสียหายทางพันธุกรรมถาวรไปยังปอดที่อาจนำไปสู่การเป็นโรคมะเร็งปอด ความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งปอดในคนที่ได้เคยรมควันแม้เพียงเล็กน้อยเสมอจะมีอย่างน้อยสูงกว่าคนที่ไม่เคยรมควันเล็กน้อย แม้ไม่สูบบุหรี่ที่มีการสัมผัสกับควันบุหรี่ที่บ้านหรือที่ทำงาน (ควันบุหรี่มือสอง) ที่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับโรคมะเร็งปอดแม้ว่าแน่นอนไม่มีที่ไหนเลยใกล้เป็นใหญ่มีความเสี่ยงสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่อย่างหนัก.

เกิดอะไรขึ้นกับความเสี่ยงของการปอด โรคมะเร็งในคนที่มีการเลิกสูบบุหรี่? คำถามนี้ได้รับการแก้ไขอย่างรอบคอบในการศึกษาโดย Halpern, et al (1) น่าแปลกที่ความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปอดไม่ได้ไปลงไปที่ศูนย์หลังจากการเลิกสูบบุหรี่ เป็นที่น่าสนใจว่าประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดที่ได้รับการวินิจฉัยในช่วงเวลาปัจจุบันที่มีการสูบบุหรี่ในอดีต บางคนเลิกสูบบุหรี่มานานหลายทศวรรษก่อนที่จะวินิจฉัย ไม่มีระดับ "ปลอดภัย" ของการสัมผัสบุหรี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อายุเฉลี่ยของการวินิจฉัยโรคมะเร็งปอดในช่วงกลาง 60 . ซึ่งหมายความ ว่า ครึ่งหนึ่งของคนที่ได้รับมะเร็งปอดสูงกว่าอายุนี้และครึ่งล่าง นี้ไม่ได้หมายความ ว่า คนรุ่นเก่าเท่านั้น เป็นมะเร็งปอด ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เห็นผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่เป็นมะเร็งปอดอายุ 30 ก่อน และเราจะเห็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของคดีในคนใน 40 . ฉันได้เห็นผู้ป่วยมะเร็งปอดใน 20 คนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ในส่วนใหญ่ของกรณีโรคมะเร็งปอด เกิดจากปีหรือทศวรรษที่ผ่านมาของการสูบบุหรี่ ความเสี่ยงของการพัฒนาโรคมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาของการสูบบุหรี่และจํานวนเงินรมควัน อย่างไรก็ตาม ไม่มีเกณฑ์การบุหรี่ข้างต้นอันไหนความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับโรคมะเร็งปอด แต่ด้านล่าง ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยมาก แม้เพียงเล็กน้อยของการสัมผัสบุหรี่สามารถทำให้เกิดความเสียหายถาวรไปยังปอดทางพันธุกรรมที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด ความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอดในคนที่เคยสูบ แม้แต่น้อย จะเสมอเป็นอย่างน้อยสูงกว่าเล็กน้อยสำหรับคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ไม่ก็ที่ตากควันบุหรี่ที่บ้าน หรือ ที่ทำงาน ( ควันบุหรี่มือสองมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับโรคมะเร็งปอด แต่ก็ไม่มีที่ไหนเลยใกล้ที่เสี่ยงสำหรับผู้สูบบุหรี่หนักเกิดอะไรขึ้นกับความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปอด ในผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ ? คำถามนี้ได้รับอย่างรอบคอบให้ความสนใจในการศึกษาโดย ลเพิร์น , et al ( 1 ) จู่ ๆ ความเสี่ยงของการพัฒนาโรคมะเร็งปอดไม่ไปศูนย์หลังจากการเลิกบุหรี่ เป็นที่น่าสนใจว่าประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ได้รับการวินิจฉัยในเวลาปัจจุบันเป็นอดีตผู้สูบบุหรี่ . บางส่วนของพวกเขาเลิกสูบบุหรี่ทศวรรษก่อนการวินิจฉัย ไม่มีระดับ " ความปลอดภัย " ของการสัมผัสบุหรี่