For many years in the history of Br

For many years in the history of British Columbia, the presence of totem poles in the province came under threat by non-Aboriginal settlers who predominantly viewed the poles as paganistic, and an impediment to colonial efforts to Christianize and “civilize” First Nations people. Colonial officials attempted to assimilate Aboriginal peoples by banning cultural expressions and practices, such as the potlatch in 1884, based on the expectation that Aboriginal peoples would then adopt Christian traditions. Along with the outlawing of ceremonies, thousands of items, such as ceremonial regalia, were forcibly taken from Aboriginal peoples and sent to museums and private collectors throughout North America and Western Europe. This included totem poles. Much of this discriminatory legislation was not repealed until 1951, although the relocation and repatriation of stolen materials is ongoing

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับหลายปีในประวัติศาสตร์ของบริติชโคลัมเบีย การปรากฏตัวของ totem หมุนในจังหวัดมาคุกคาม โดยตั้งถิ่นฐานไม่ใช่อะที่ดูส่วนใหญ่เป็นเสาเป็น paganistic และกรวดในรองเท้าอาณานิคมพยายามนับถือศาสนาคริสต์ และ "มาตรฐาน" คนแรกของประเทศ เจ้าหน้าที่อาณานิคมพยายามดูดซึมคนพื้นเมือง โดยห้ามแสดงออกทางวัฒนธรรมและการปฏิบัติ เช่น potlatch ใน 1884 ตามความคาดหวังว่า คนพื้นเมืองจากนั้นจะนำประเพณีของศาสนาคริสต์ พร้อมกับการ outlawing ของพิธี พัน รายการเช่นราชกกุธภัณฑ์พระราชพิธี ถูกบังคับให้นำมาจากคนพื้นเมือง และส่งไปยังพิพิธภัณฑ์และนักสะสมส่วนตัวทั่วอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก Totem หมุนด้วย กฎหมายเลือกปฏิบัติมากที่สุดคือไม่ยกเลิกจนถึง 1951 แม้ว่าการขนย้ายและส่งกลับของวัสดุที่ถูกขโมยอย่างต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นเวลาหลายปีในประวัติศาสตร์ของบริติชโคลัมเบีย, การปรากฏตัวของเสา Totem ในจังหวัดมาภายใต้การคุกคามโดยการตั้งถิ่นฐานที่ไม่ใช่ดั้งเดิมที่ส่วนใหญ่มองว่าเป็นเสา paganistic และเป็นอุปสรรคต่อความพยายามของอาณานิคมนับถือศาสนาคริสต์และ "ศิวิไลซ์" คนแรกเนชั่น โคโลเนียลเจ้าหน้าที่พยายามที่จะดูดซึมตั้งแต่แรกผู้คนโดยห้ามการแสดงออกทางวัฒนธรรมและการปฏิบัติเช่น Potlatch ในปี 1884 บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าเกิดมาจากนั้นก็จะนำมาใช้ในประเพณีคริสเตียน พร้อมกับการประกาศของพิธีกรหลายพันรายการเช่นเครื่องราชกกุธภัณฑ์พระราชพิธีถูกนำกวาดต้อนมาจากชนชาติดั้งเดิมและส่งไปยังพิพิธภัณฑ์และนักสะสมเอกชนทั่วทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก นี้รวมถึงเสา Totem มากของการออกกฎหมายการเลือกปฏิบัตินี้ไม่ได้ยกเลิกจนถึงปี 1951 แม้ว่าการย้ายถิ่นฐานและการส่งกลับของวัสดุที่ถูกขโมยมาอย่างต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นเวลาหลายปีในประวัติของบริติชโคลัมเบีย การปรากฏตัวของเสา totem ในจังหวัดมาภายใต้การคุกคามด้วยไม่ใช่ดั้งเดิมตั้งถิ่นฐานที่เด่นด้วยเสาเป็น paganistic และเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการเปลี่ยนเป็นนับถือศาสนาคริสต์และ " ศิวิไลซ์ " ประเทศแรกที่คน เจ้าหน้าที่อาณานิคมพยายามกอบโกยชนชาติดั้งเดิมโดยห้ามการแสดงออกทางวัฒนธรรมและการปฏิบัติ เช่น ลงในปี 1884 , ขึ้นอยู่กับความคาดหวังว่าชนชาติดั้งเดิมจะใช้ประเพณีคริสเตียน พร้อมกับ outlawing ของพิธี นับพันรายการ เช่น เครื่องราชกกุธภัณฑ์ พิธี ถูกบังคับถ่ายจากชนชาติพื้นเมืองและส่งไปยังพิพิธภัณฑ์ และนักสะสมเอกชนทั่วอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก นี้รวมเสา totem . มากของกฎหมายเลือกปฏิบัตินี้ไม่ได้ถูกยกเลิกจนกว่า 1951 , แม้ว่าการย้ายและการส่งกลับของวัสดุที่ถูกขโมยอย่างต่อเนื่อง