As breast cancer survival improves,

As breast cancer survival improves, patients face the long-term consequences of the disease, its causes, and its treatment. The main objectives of this study were to investigate the relationship between cigarette smoking, radiation therapy, and the development of second primary lung cancer. We conducted a population-based nested case-control study of women who were listed in the Connecticut Tumor Registry as having a first primary breast cancer diagnosed from 1965–1989. Cases were those who developed a second primary cancer of the lung at least ten years after the first primary breast cancer diagnosis. Controls had survived at least as long as their case without being diagnosed with a second primary lung cancer. Medical records were abstracted for each case and control for information on history of cigarette smoking and breast cancer therapies. Unconditional logistic regression analysis was used to estimate odds ratios for the effects of cigarette smoking and RT, and their joint effects, on the risk of second primary lung cancer. Our sample included 119 cases and 380 controls; 68% of case patients had ever smoked cigarettes at the time of breast cancer diagnosis, compared with 26% of control patients. Current smokers at the time of breast cancer diagnosis were nearly 10 times more likely to develop a second primary lung cancer than never-smokers [OR = 9.70 (95% CI, 5.13–18.35)]. Assessment of potential interaction between smoking and RT resulted in an adjusted OR 26.25 for ever-smokers who received RT for their breast cancer (95% CI, 10.40–66.25). Polytomous regression models revealed that both RT and cigarette smoking had a greater effect in ipsilateral lung cancers compared to contralateral lung cancers. Smoking at the time of breast cancer diagnosis significantly increased the risk of lung cancer in this group of ≥10-year breast cancer survivors. Women who received RT as a part of their treatment for breast cancer were at much higher risk for a subsequent lung cancer if they were smokers than if they never smoked, did not receive RT, or had neither exposure.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ช่วยเพิ่มความอยู่รอดของโรคมะเร็งเต้านม ผู้ป่วยเผชิญกับผลกระทบระยะยาวของโรค สาเหตุการเกิด และการรักษา วัตถุประสงค์หลักของการศึกษานี้ได้ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่ รังสีรักษา และการพัฒนาของมะเร็งปอดหลักสอง เราดำเนินการตามประชากรซ้อนควบคุมกรณีศึกษาของผู้หญิงที่ถูกแสดงไว้ในรีจิสทรีคอนเนคติคัทเนื้องอกเป็นมะเร็งเต้านมหลักแรกได้รับการวินิจฉัยจาก 1965 – 1989 กรณีมีผู้พัฒนาเป็นสองหลักโรคมะเร็งปอดอย่างน้อยสิบปีหลังจากการวินิจฉัยมะเร็งเต้านมหลักแรก ควบคุมมีรอดน้อยนานถึงกรณีของพวกเขาโดยไม่มีการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดหลักสอง เวชระเบียนมีบทคัดย่ออยู่สำหรับแต่ละกรณีและการควบคุมสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของการสูบบุหรี่และรักษาโรคมะเร็งเต้านม วิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกแบบไม่มีเงื่อนไขคือใช้ในการประมาณอัตราส่วนราคาต่อรองสำหรับผลกระทบของการสูบบุหรี่ และ RT และร่วมผล ความเสี่ยงของมะเร็งปอดหลักสอง ตัวอย่างของเรารวม 119 คดีและควบคุม 380 68% ของผู้ป่วยกรณีเคยมีรมควันบุหรี่ขณะทำการตรวจวินิจฉัยมะเร็งเต้านม เปรียบเทียบกับ 26% ของผู้ป่วยที่ควบคุม ผู้สูบบุหรี่ในขณะมะเร็งเต้านมในปัจจุบันมีเกือบ 10 ครั้งโอกาสในการพัฒนามะเร็งปอดหลักสองกว่าไม่เคยสูบบุหรี่ [หรือ = 9.70 (95% CI, 5.13 – 18.35)] การประเมินศักยภาพการโต้ตอบระหว่างบุหรี่และ RT ผลใน 26.25 หรือการปรับปรุงสำหรับเคยสูบบุหรี่ที่ได้รับ RT ของมะเร็งเต้านม (95% CI, 10.40 – 66.25) แบบจำลองถดถอย Polytomous เผยว่า RT และการสูบบุหรี่มีผลต่อมากกว่าในมะเร็งปอด ipsilateral เมื่อเทียบกับมะเร็งปอดฝั่ง สูบบุหรี่ในขณะมะเร็งเต้านมเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปอดในกลุ่มของผู้รอดชีวิตมะเร็งเต้านม ≥10 ปีนี้ ผู้หญิงที่ได้รับ RT เป็นส่วนหนึ่งของการรักษามะเร็งเต้านม ได้ความเสี่ยงสูงสำหรับมะเร็งปอดตามมาก็สูบบุหรี่กว่าถ้าพวกเขาไม่เคยรมควัน ไม่ได้รับ RT หรือได้รับแสงไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในฐานะที่เป็นความอยู่รอดของมะเร็งเต้านมช่วยเพิ่มผู้ป่วยที่ต้องเผชิญกับผลกระทบระยะยาวของโรคสาเหตุและการรักษา วัตถุประสงค์หลักของการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่, การรักษาด้วยการฉายรังสีและการพัฒนาของโรคมะเร็งปอดสองหลัก เราดำเนินการศึกษาที่ซ้อนกันกรณีการควบคุมประชากร-based ของผู้หญิงที่ถูกระบุไว้ในคอนเนตทิคัเนื้องอก Registry ว่ามีมะเร็งเต้านมหลักแรกที่ได้รับการวินิจฉัยจาก 1965-1989 กรณีผู้ที่ได้รับการพัฒนามะเร็งหลักที่สองของปอดอย่างน้อยสิบปีหลังจากการวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมหลักแรก การควบคุมการมีชีวิตอยู่อย่างน้อยเป็นเวลานานเป็นกรณีของพวกเขาโดยไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเ​​ป็นโรคมะเร็งปอดสองหลัก เวชระเบียนที่ถูกแยกสำหรับแต่ละกรณีและการควบคุมสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของการสูบบุหรี่และการบำบัดรักษาโรคมะเร็งเต้านม การวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกไม่มีเงื่อนไขถูกนำมาใช้ในการประมาณการอัตราส่วนราคาต่อรองสำหรับผลกระทบของการสูบบุหรี่และ RT และผลกระทบร่วมกันของพวกเขาเกี่ยวกับความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอดสองหลัก ตัวอย่างของเรารวม 119 รายและ 380 การควบคุม; 68% ของผู้ป่วยกรณีที่เคยรมควันบุหรี่ในช่วงเวลาของการวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมเมื่อเทียบกับ 26% ของผู้ป่วยที่ควบคุม สูบบุหรี่ในปัจจุบันในช่วงเวลาของการวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมเกือบ 10 ครั้งมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเป็นโรคมะเร็งปอดสองหลักกว่าไม่สูบบุหรี่ [OR = 9.70 (95% CI, 5.13-18.35)] การประเมินศักยภาพของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่และ RT ผลในการปรับเปลี่ยนหรือ 26.25 สำหรับที่เคยสูบบุหรี่ที่ได้รับ RT สำหรับโรคมะเร็งเต้านมของพวกเขา (95% CI, 10.40-66.25) แบบจำลองการถดถอยพหุวิภาคเปิดเผยว่าทั้งสอง RT และการสูบบุหรี่มีผลกระทบมากขึ้นในการเกิดโรคมะเร็งปอด ipsilateral เมื่อเทียบกับการเกิดโรคมะเร็งปอด contralateral การสูบบุหรี่ในช่วงเวลาของการวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอดในกลุ่มของ≥10ปีผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมนี้ ผู้หญิงที่ได้รับ RT เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาของพวกเขาสำหรับมะเร็งเต้านมมีความเสี่ยงสูงมากสำหรับโรคมะเร็งปอดตามมาว่าพวกเขาเป็นผู้สูบบุหรี่กว่าถ้าพวกเขาไม่เคยรมควันไม่ได้รับ RT หรือมีการเปิดรับแสงค่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่รอดชีวิตมะเร็งเต้านม ซึ่งผู้ป่วยต้องเผชิญผลกระทบระยะยาวของโรค สาเหตุ และการรักษา วัตถุประสงค์หลักของการศึกษานี้ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่ รังสีรักษา และการพัฒนาที่สองหลักมะเร็งปอด เราทำการซ้อน - ตามจำนวนประชากรการศึกษาระบาดวิทยาของผู้หญิงที่ถูกระบุไว้ในรีจิสทรีคอนเนื้องอกมีมะเร็งเต้านมขั้นแรกก่อนการวินิจฉัยจาก 1965 – 1989 กรณีเป็นผู้พัฒนาสองหลัก มะเร็งที่ปอด อย่างน้อยสิบปีหลังจากที่ครั้งแรกหลักการวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านม . การควบคุมมีรอดอย่างน้อยตราบเท่าที่กรณีของพวกเขาโดยไม่ได้รับการวินิจฉัยกับมะเร็งปอด 2 ประวัติทางการแพทย์สรุปสำหรับแต่ละกรณีและการควบคุมสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของการสูบบุหรี่และการรักษามะเร็งเต้านม การวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกแบบใช้ประมาณการอัตราต่อรองต่อผลกระทบของการสูบบุหรี่และ RT และผลกระทบร่วมของพวกเขาเกี่ยวกับความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอดสองหลัก . ตัวอย่างของเรารวม 119 ราย และมีการควบคุม ; 68 % ของผู้ป่วย กรณีเคยรมควันบุหรี่ในเวลาของการวินิจฉัยมะเร็งเต้านมเมื่อเทียบกับ 26 % ของผู้ป่วยที่ควบคุม คนปัจจุบันที่เวลาของการวินิจฉัยมะเร็งเต้านมเกือบ 10 ครั้งมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเป็นสองหลักโรคมะเร็งปอดมากกว่าไม่เคยสูบบุหรี่หรือ = 9.70 ( 95% CI , 5.13 และ 18.35 ) ] การประเมินศักยภาพของปฏิสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่และ RT มีผลทำให้มีการปรับ หรือเคยสูบบุหรี่ที่ได้รับ 26.25 สำหรับ RT สำหรับมะเร็งเต้านม ( 95% CI , 10.40 – 66.25 ) การถดถอยแบบพหุวิภาค พบว่าทั้ง RT และการสูบบุหรี่มีผลกระทบมากขึ้นใน ipsilateral มะเร็งปอดโรคมะเร็งปอดเมื่อเทียบกับรูปขนาดย่อ . สูบบุหรี่ในเวลาของการวินิจฉัยมะเร็งเต้านมอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอดในกลุ่มนี้≥ 10 ปี ผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านม . ผู้หญิงที่ได้รับการพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาของโรคมะเร็งเต้านมมีความเสี่ยงสูงมากสำหรับโรคมะเร็งปอดตามมาหากพวกเขาสูบบุหรี่มากกว่าถ้าพวกเขาไม่ได้สูบบุหรี่ ไม่ได้รับครับ หรือมีทั้งแสง