individuals using independent rando

individuals using independent random effects that ignore
spatial connections between neighborhoods, the multilevel
model assumes that all spatial correlation can be reduced to
within-neighborhood correlation. This model is not spatial
because it does not incorporate any notion of space. Accordingly,
it allows quantifying the magnitude of neighborhood
variations, but it fails to provide information on their scale
and does not indicate whether neighborhood variability follows
a spatially organized pattern or consists of unstructured
variations.
Many ecologic studies have explicitly modeled the spatial
correlation of outcomes (28–31). However, there has been
less effort to do so with individual data (32–35). To obtain
information on the scale of spatial variations, we used a hierarchical
geostatistical model (32) that geocodes individuals
at the neighborhood level and splits neighborhood
variability into a spatially structured component and an unstructured
component (35, 36). Doing so allowed us to make
statistical inferences on not only the magnitude of correlation
within neighborhoods but also the range of correlation
in space (33, 34).
Regarding the association between contextual deprivation
and mental disorders, measuring deprivation within administrative
neighborhoods may be overly restrictive because
individual locational information was available. For one
thing, the administrative neighborhood scale may be too
broad to capture the effect of contextual deprivation. Moreover,
using fixed boundary areas may not enable capture of
contextual information in surrounding space for those individuals
residing on the margins of administrative neighborhoods.
Therefore, we measured contextual deprivation
within small circular areas centered on the residences of
individuals (i.e., within moving-window areas). Beyond
quantifying the strength of association, this approach allowed
us to examine whether contextual deprivation was
related to mental health on the administrative neighborhood
level commonly used in epidemiologic research or on
a smaller or larger scale.
In summary, we aimed to describe precisely the spatial
distribution of substance-related disorders (geoadditive
model), make inferences of relevance to public health on
the magnitude and scale of spatial variations (multilevel and
hierarchical geostatistical models), and investigate the
strength and spatial scale of the association between contextual
deprivation and mental disorders.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บุคคลที่ใช้ลักษณะสุ่มอิสระที่ละเว้นเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างละแวกใกล้เคียง การหลายระดับรูปแบบสันนิษฐานว่า ความสัมพันธ์ของพื้นที่ทั้งหมดสามารถลดลงไปความสัมพันธ์ระหว่างกันภายในพื้นที่ใกล้เคียง รุ่นนี้ไม่ใช่พื้นที่เพราะนอกจากนี้จะไม่รวมพื้นที่ความ ดังนั้นจะช่วยให้ quantifying ขนาดของพื้นที่ใกล้เคียงเปลี่ยนแปลง แต่ล้มเหลวในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับขนาดของพวกเขาและระบุว่า เป็นย่านสำหรับความผันผวนไปตามรูปแบบการจัด spatially หรือประกอบด้วยไม่มีโครงสร้างรูปแบบการศึกษาหลายทางธรรมชาติได้อย่างชัดเจนจำลองในปริภูมิความสัมพันธ์ของผล (28-31) อย่างไรก็ตาม มีน้อยพยายามทำกับข้อมูลส่วนบุคคล (32 – 35) จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับมาตราส่วนของรูปแบบพื้นที่ เราใช้แบบลำดับชั้นรุ่น geostatistical (32) บุคคลที่ geocodesระดับย่าน และแยกพื้นที่ใกล้เคียงความแปรผัน spatially โครงสร้างส่วนประกอบและการไม่มีโครงสร้างส่วนประกอบ (35, 36) ทำให้เราทำinferences สถิติบนไม่เพียงแต่ขนาดของความสัมพันธ์ในละแวกใกล้เคียง แต่ช่วงของความสัมพันธ์ในพื้นที่ (33, 34)เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างภาวะขาดบริบทโรคจิต วัดมาภายในดูแลและละแวกใกล้เคียงอาจจะเข้มงวดมากเกินไปเนื่องจากข้อมูลแต่ละสถานพร้อมใช้งาน อย่างใดอย่างหนึ่งสิ่ง สเกลใกล้เคียงดูแลอาจเกินไปกว้างจับผลของภาวะขาดบริบท นอกจากนี้ใช้พื้นที่เขตแดนถาวรไม่สามารถจับกุมข้อมูลบริบทในพื้นที่สำหรับบุคคลเหล่านั้นแห่งบนขอบของดูแลละแวกใกล้เคียงดังนั้น เราวัดมาตามบริบทภายในศูนย์กลางในเดอะเรสซิเดนท์ของพื้นที่วงกลมขนาดเล็กบุคคล (เช่น ภายในหน้าต่างการย้ายพื้นที่) นอกเหนือจากquantifying แรงของสมาคม วิธีการนี้ได้เราสามารถตรวจสอบว่ามีบริบทมาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตในพื้นที่ใกล้เคียงดูแลระดับที่ใช้ ในการวิจัย epidemiologicขนาดเล็กกว่า หรือใหญ่กว่าในสรุป เรามีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายตรงพื้นที่การกระจายของโรคที่เกี่ยวข้องกับสาร (geoadditiveรุ่น), ทำการ inferences ความเกี่ยวข้องกับสาธารณสุขขนาดและมาตราส่วนของรูปแบบปริภูมิ (หลายระดับ และgeostatistical ลำดับรุ่น), และตรวจสอบการความแข็งแรงและขนาดพื้นที่ของความสัมพันธ์ระหว่างบริบทมาและโรคจิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บุคคลที่ใช้เทคนิคการสุ่มอิสระที่ไม่สนใจ
การเชื่อมต่อระหว่างเชิงพื้นที่ละแวกใกล้เคียงหลาย
รูปแบบอนุมานว่าทุกความสัมพันธ์เชิงพื้นที่สามารถลด
ความสัมพันธ์ภายในพื้นที่ใกล้เคียง รุ่นนี้ไม่ได้เชิงพื้นที่
เพราะมันไม่ได้รวมความคิดใด ๆ ของพื้นที่ ดังนั้น
มันจะช่วยให้ปริมาณขนาดของพื้นที่ใกล้เคียง
รูปแบบ แต่ก็ล้มเหลวในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับขนาดของพวกเขา
และไม่ได้ระบุว่าความแปรปรวนละแวกดังต่อไปนี้
รูปแบบการจัดสันนิฐานหรือประกอบด้วยที่ไม่มีโครงสร้าง
รูปแบบ.
การศึกษาระบบนิเวศน์หลายคนได้สร้างแบบจำลองเชิงพื้นที่อย่างชัดเจน
ความสัมพันธ์ของผล ( 28-31) อย่างไรก็ตามได้มีการ
ใช้ความพยายามน้อยที่จะทำเช่นนั้นกับข้อมูลบุคคล (32-35) ที่จะได้รับ
ข้อมูลเกี่ยวกับขนาดของการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ที่เราใช้ลำดับชั้น
แบบ geostatistical (32) ที่ geocodes บุคคล
ในระดับที่ใกล้เคียงและแยกพื้นที่ใกล้เคียง
ความแปรปรวนเป็นส่วนประกอบโครงสร้างเชิงพื้นที่และไม่มีโครงสร้าง
ส่วนประกอบ (35, 36) การทำเช่นนี้ช่วยให้เราสร้าง
การหาข้อสรุปสถิติไม่เพียง แต่ความสำคัญของความสัมพันธ์
ภายในละแวกใกล้เคียง แต่ยังช่วงของความสัมพันธ์
ในพื้นที่ (33, 34).
เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการกีดกันบริบท
และความผิดปกติทางจิต, วัดกีดกันการบริหารภายใน
ละแวกใกล้เคียงที่อาจจะเข้มงวดมากเกินไป เพราะ
ข้อมูลที่ตั้งของแต่ละคนที่มีอยู่ หนึ่ง
สิ่งในระดับใกล้เคียงบริหารอาจจะเกินไป
ในวงกว้างในการจับภาพผลกระทบของการกีดกันบริบท นอกจากนี้
การใช้พื้นที่เขตแดนคงที่อาจจะไม่ช่วยให้การจับภาพของ
ข้อมูลบริบทในพื้นที่โดยรอบสำหรับบุคคลผู้
ที่อาศัยอยู่บนขอบของที่อยู่อาศัยการบริหาร.
ดังนั้นเราจึงวัดกีดกันบริบท
ภายในพื้นที่วงกลมขนาดเล็กเป็นศูนย์กลางในการอยู่อาศัยของ
บุคคล (เช่นภายในเคลื่อนไหวหน้าต่าง พื้นที่) นอกเหนือจาก
ปริมาณความแข็งแรงของการเชื่อมโยงวิธีการนี้ได้รับอนุญาตให้
เราเพื่อตรวจสอบว่าถูกกีดกันบริบท
ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตในย่านการบริหาร
ในระดับที่ใช้กันทั่วไปในการวิจัยทางระบาดวิทยาหรือใน
ขนาดที่เล็กกว่าหรือใหญ่กว่า.
โดยสรุปเรามุ่งที่จะอธิบายได้อย่างแม่นยำเชิงพื้นที่
การจัดจำหน่าย ความผิดปกติของสารที่เกี่ยวข้อง (geoadditive
รุ่น) ให้การวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชนเกี่ยวกับ
ความสำคัญและขนาดของการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ (หลายระดับและ
รูปแบบ geostatistical ลำดับชั้น) และการตรวจสอบ
ความแข็งแรงและอวกาศขนาดของความสัมพันธ์ระหว่างบริบท
กีดกันและความผิดปกติทางจิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บุคคลที่ใช้อิสระสุ่มผลที่ละเว้น
การเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างย่าน , หลายรูปแบบ
ถือว่าทั้งหมดมิติสัมพันธ์ความสัมพันธ์จะลดลง
ภายในความสัมพันธ์เพื่อนบ้าน รุ่นนี้ไม่ได้เป็นปริภูมิ
เพราะมันไม่รวมใด ๆความคิดของพื้นที่ ตาม ,
มันช่วยให้ปริมาณขนาดของละแวก
รูปแบบแต่ล้มเหลวที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับขนาดของพวกเขาและไม่ได้บ่งชี้ว่า ความแปรปรวน

จัดบ้านตามเปลี่ยนรูปแบบหรือประกอบด้วยรูปแบบใหม่
.
ศึกษาระบบนิเวศน์นั้นความสัมพันธ์เชิงพื้นที่แบบหลาย
ของผล ( 28 - 31 ) อย่างไรก็ตาม มีความพยายามน้อย
ทํากับข้อมูลส่วนบุคคล ( 32 - 35 ) เพื่อขอรับ
ข้อมูลในระดับของการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ เราใช้รูปแบบลำดับชั้น
geostatistical ( 32 ) ที่ geocodes บุคคล
ในระดับพื้นที่ใกล้เคียงและแยกของละแวก
เป็นโครงสร้างส่วนประกอบและชิ้นส่วนเปลี่ยนใหม่
( 35 , 36 ) ทำดังนั้นอนุญาตให้ใช้สถิติไม่เพียงแต่

ขนาดของความสัมพันธ์ในย่าน แต่ยังช่วงของความสัมพันธ์
ในอวกาศ ( 33 , 34 )

เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการสูญเสียด้านบริบทและความผิดปกติทางจิต , วัดกีดกันภายในการบริหาร
ย่านอาจจะเข้มงวดเกินไป เพราะแต่ละ
ข้อมูลที่ตั้งเป็นใช้ได้ 1
, ระดับบริหาร อาจจะด้วย
ใกล้กับกว้างเพื่อจับภาพผลกระทบของบริบทการปลดจากตำแหน่ง นอกจากนี้ การกำหนดขอบเขตพื้นที่อาจไม่ได้

ช่วยให้จับภาพของข้อมูลบริบทในพื้นที่โดยรอบ เพื่อบุคคลเหล่านั้น
ที่อาศัยอยู่บนขอบของย่านบริหาร
ดังนั้นเราวัดภายในบริบทการกีดกัน
กลมขนาดเล็กพื้นที่เป็นศูนย์กลางในบ้านของ
บุคคล ( เช่น ภายในการย้ายพื้นที่หน้าต่าง )ค่าความแข็งแรงของสมาคมเกิน

เรา วิธีการนี้ได้รับอนุญาตเพื่อตรวจสอบว่าบริบทการเป็น
ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตในการบริหารชุมชน
ระดับที่ใช้กันทั่วไปในการวิจัยทางระบาดวิทยาหรือ

ที่มีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ โดยเรามุ่งที่จะอธิบายได้อย่างแม่นยำการกระจายเชิงพื้นที่ของวัตถุที่เกี่ยวข้องกับโรค
( แบบ geoadditive
)ให้ใช้ ความเกี่ยวข้องกับสาธารณสุขใน
ขนาดและขนาดของการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ ( หลายระดับและ
geostatistical แบบลำดับชั้น ) และศึกษา
ความแข็งแรงและขนาดพื้นที่ของความสัมพันธ์ระหว่างการสูญเสียด้านบริบท
และความผิดปกติทางจิต