Scientists named John bar Dean (Joh

Scientists named John bar Dean (John Bardeen) and Walter Brett Trenton (Walter Brattain) has created what is called a transistor (transistor), the circuit was built using a mixture of elemental germanium. (germanium), they called it a transistor. (Point-contact transistor), but this finding was not as much attention. Until, in 1951, a scientist named William Shore, Hinckley (William Shockley) is adjusted according to the traditional concept of a Dean and Brett trend. Until a transistor junction (junction transistor), a transistor solid. Instead, the electrical properties similar to a vacuum tube. Moreover, it is inexpensive. Strength Use less power To work immediately And, most importantly, very small. The final result was the discovery of the transistor, these are works that made ​​the trio the Nobel Prize in Physics in 1956 for his contributions to the study of semiconductors and the discovery of the consequences. transistors
fabricated transistors and ICs (integrated circuit), it is an indicator that the beginning of microelectronics. The semiconductor industry is one that is driving the growth of nanotechnology. Many researchers currently are working to study the feasibility of building nanoscale transistor that contains chips (chip) that can be assembled on one leg for 10 million or more.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิทยาศาสตร์ชื่อจอห์นบาร์ดีน (จอห์นบาร์ดีน) และ Walter Brett Trenton (แบรตเทน Walter) ได้สร้างขึ้นที่เรียกว่าทรานซิสเตอร์ (ทรานซิสเตอร์) วงจรถูกสร้างโดยใช้ส่วนผสมของธาตุเจอร์เมเนียม (เจอร์เมเนียม), พวกเขาเรียกมันเป็นทรานซิสเตอร์ (ติดต่อจุดทรานซิสเตอร์), แต่นี้หาไม่ได้ให้ความสนใจมากขึ้น จนกระทั่ง ใน 1951 เป็นนักวิทยาศาสตร์ชื่อ William ชอร์ Hinckley (William แบรดฟอร์ดชอกลีย์) มีการปรับปรุงตามแนวคิดดั้งเดิมของคณบดีและเบรตต์แนวโน้ม จนถึงชุมทางทรานซิสเตอร์ (junction ทรานซิสเตอร์), ทรานซิสเตอร์ที่เป็นของแข็ง แทน คุณสมบัติทางไฟฟ้าเหมือนกับสุญญากาศหลอด นอกจากนี้ มีราคาไม่แพง ความแข็งแรงใช้พลังงานน้อยลงเพื่อทำงานทันที และ สำคัญ เล็กมาก ผลสุดท้ายคือ การค้นพบทรานซิสเตอร์ เหล่านี้เป็นงานที่ทำทริโอรางวัลโนเบลในสาขาฟิสิกส์ในปี 1956 สำหรับผลงานของเขาการศึกษาอิเล็กทรอนิกส์และการค้นพบผล transistors หลังสร้าง transistors และ ICs (วงจรรวม), เป็นตัวบ่งชี้ที่จุดเริ่มต้นของไมโครอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำเป็นหนึ่งว่าการเติบโตของนาโนเทคโนโลยี นักวิจัยจำนวนมากในขณะนี้กำลังทำงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของอาคาร nanoscale ทรานซิสเตอร์ที่ประกอบด้วยชิพ (ชิพ) ที่สามารถประกอบในเลกที่หนึ่งอย่างน้อย 10 ล้าน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิทยาศาสตร์ชื่อจอห์นบาร์ดีน (จอห์น Bardeen) และวอลเตอร์เบร็ทเทรนตัน (Walter Brattain) ได้สร้างสิ่งที่เรียกว่าทรานซิสเตอร์ (ทรานซิสเตอร์) วงจรที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ส่วนผสมของธาตุเจอร์เมเนียม (เจอร์เมเนียม) พวกเขาเรียกมันว่าทรานซิสเตอร์ (ทรานซิสเตอร์จุดติดต่อ) แต่การค้นพบนี้ไม่ได้เป็นความสนใจมาก จนกระทั่งในปี 1951 นักวิทยาศาสตร์ชื่อวิลเลียมชอร์คลีย์ (วิลเลียม Shockley) จะถูกปรับตามแนวคิดดั้งเดิมของคณบดีและแนวโน้มเบร็ท จนถึงทางแยกทรานซิสเตอร์ (จุดเชื่อมต่อทรานซิสเตอร์) ทรานซิสเตอร์ที่เป็นของแข็ง แต่คุณสมบัติทางไฟฟ้าคล้ายกับหลอดสูญญากาศ นอกจากนี้ยังมีราคาไม่แพง ความแข็งแรงใช้พลังงานน้อยลงในการทำงานได้ทันทีและที่สำคัญที่สุดคือมีขนาดเล็กมาก ผลสุดท้ายคือการค้นพบของทรานซิสเตอร์เหล่านี้เป็นผลงานที่ทำให้ทั้งสามคนได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1956 สำหรับผลงานของเขาเพื่อการศึกษาของเซมิคอนดักเตอร์และการค้นพบของผลที่ตามมา ทรานซิสเตอร์
ทรานซิสเตอร์ประดิษฐ์และของวงจรรวม (ไอซี) ก็เป็นตัวบ่งชี้ว่าจุดเริ่มต้นของไมโครอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เป็นหนึ่งที่ผลักดันการเติบโตของนาโนเทคโนโลยี นักวิจัยหลายคนขณะกำลังทำงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการสร้างทรานซิสเตอร์ระดับนาโนที่มีชิป (ชิพ) ที่สามารถชุมนุมกันอยู่บนขาข้างหนึ่ง 10 ล้านบาทขึ้นไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ จอห์น บาร์ดีน ( จอห์น บาร์ดีน ) และวอลเตอร์ แบรท เทรนตัน ( วอลเตอร์ แบรทเทน ) ได้สร้างสิ่งที่เรียกว่าทรานซิสเตอร์ ( ทรานซิสเตอร์ ) วงจรที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ส่วนผสมของเจอร์เมเนียมธาตุ ( สีผึ้ง ) พวกเขาเรียกว่าทรานซิสเตอร์ ( จุดติดต่อทรานซิสเตอร์ ) แต่การค้นหานี้ไม่เป็นที่สนใจมากนัก จนกระทั่ง ในปี 1951 , นักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ วิลเลี่ยม ฝั่งฮิงค์ลีย์ ( วิลเลียม ชอกลีย์ ) จะถูกปรับตามแนวคิดดั้งเดิมของคณบดี Brett และแนวโน้ม จนกระทั่งชุมทางทรานซิสเตอร์ ( ชุมทางทรานซิสเตอร์ ) เป็นทรานซิสเตอร์ที่เป็นของแข็ง แทน , ไฟฟ้า คุณสมบัติคล้ายกับสูญญากาศหลอด นอกจากนี้ราคาไม่แพง กำลังใช้พลังงานน้อยกว่าทำงานทันที และที่สำคัญที่สุดคือ มีขนาดเล็กมาก ผลสุดท้ายคือการค้นพบของทรานซิสเตอร์เหล่านี้คืองานที่ทำ​​สามที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1956 สำหรับผลงานของเขาเพื่อการศึกษาของนวัตกรรมและการค้นพบของผล ทรานซิสเตอร์
ประดิษฐ์ทรานซิสเตอร์และไอซี ( ไอซี ) นั้น เป็นตัวบ่งชี้ว่า จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี . อุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำเป็นหนึ่งที่ผลักดันการเติบโตของนาโนเทคโนโลยีนักวิจัยหลายคนกำลังทำงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการสร้างทรานซิสเตอร์ที่มี nanoscale ชิป ( ชิป ) ที่สามารถประกอบบนขาข้างหนึ่ง 10 ล้านหรือมากกว่า