Results:On the basis of prevalence

Results:
On the basis of prevalence data, three types of work situation were detected to be at high risk of MSDs: cutting, sewing, and assembly preparation. The three types of work situations identified on the basis of incidence data (sewing preparation, mechanised assembling, and finishing) were different from those identified by prevalence data. At least one recognised risk factor for MSDs was identified for all groups of work situations. The ergonomic risk could be considered as serious for the four types
of work situation having the highest ergonomic scores (sewing, assembly preparation, pasting, and cutting).

Conclusion:
The results of the health surveillance method depend largely on the definition of the criteria used to define the risk of MSDs. The criteria based on incidence data are more valid than those based on prevalence data. Health and risk factor surveillance must be combined to predict the risk of MSDs in the company. However, exposure assessment plays a greater role in determining the priorities for ergonomic intervention.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์:ตามข้อมูลชุก ตรวจพบสามชนิดของสถานการณ์การทำงานให้ปลอดภัยเสี่ยงสูง: เตรียมตัด เย็บ และแอสเซมบลี สถานการณ์การทำงานที่ระบุตามข้อมูลอุบัติการณ์ (เตรียมสอบเย็บผ้า mechanised ประกอบ และจบ) สามชนิดได้แตกต่างจากที่ระบุข้อมูลชุก อย่างน้อยหนึ่งยังระบุปัจจัยเสี่ยงสำหรับข้อมูลความปลอดภัยสำหรับกลุ่มทั้งหมดของสถานการณ์การทำงาน อุปกรณ์ความเสี่ยงอาจจะพิจารณาเป็นร้ายแรง 4 ชนิดของสถานการณ์การทำงานมีคะแนนอุปกรณ์สูงสุด (เย็บ เตรียมสอบแอสเซมบลี วาง และตัด)สรุป: ผลลัพธ์ของวิธีการเฝ้าระวังสุขภาพส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับนิยามของเกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดความเสี่ยงของความปลอดภัย เงื่อนไขตามข้อมูลอุบัติการณ์ถูกยิ่งกว่าข้อมูลชุก เฝ้าระวังสุขภาพและปัจจัยเสี่ยงต้องรวมการทำนายความเสี่ยงของความปลอดภัยในบริษัท อย่างไรก็ตาม ประเมินความเสี่ยงมีบทบาทมากกว่าในการกำหนดระดับความสำคัญสำหรับการจัดการอุปกรณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลลัพธ์ :
บนพื้นฐานของข้อมูลที่มีสามประเภทของสถานการณ์การทำงานที่ถูกตรวจพบจะเสี่ยงสูงของบริการ : ตัด , เย็บ , และการประกอบ สามชนิดของสถานการณ์ที่ระบุบนพื้นฐานของข้อมูลการเย็บการเตรียม mechanised ประกอบและตกแต่ง ) แตกต่างจากที่ระบุข้อมูลชุกอย่างน้อยหนึ่งที่ได้รับการยอมรับเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับ MSDS ระบุสำหรับทุกกลุ่มของสถานการณ์ ความเสี่ยงตามหลักสรีรศาสตร์อาจถือว่าร้ายแรงสำหรับสี่ประเภท
สถานการณ์งานมีคะแนนสูงสุดตามหลักสรีรศาสตร์ ( เย็บประกอบเตรียมวางและตัด

สรุป :
)ผลของการเฝ้าระวังสุขภาพวิธีขึ้นอยู่มากในความหมายของเกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดความเสี่ยงของ MSDS . เกณฑ์ตามข้อมูลอุบัติการณ์จะถูกต้องมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ชุก สุขภาพ และการเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงต้องรวมกันเพื่อทำนายความเสี่ยงของบริการในบริษัท อย่างไรก็ตามการประเมินการสัมผัสมีบทบาทมากขึ้นในการกำหนดลำดับความสำคัญสำหรับการแทรกแซงทางการยศาสตร์