การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์(1)เพื่อศึกษาเพื่อศึกษาสภาพเศรษฐกิจและสังคม(2)เพื่อ
ศึกษาการใช้น้ำหมักชีวภาพ(3)เพื่อศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้น้ำหมักชีวภาพ(4)เพื่อศึกษาถึงปัญหา และข้อเสนอแนะของเกษตรกรที่ใช้น้ำหมักชีวภาพของ เกษตรกร ตำบลเทพาลัย อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ประชากรที่ศึกษา คือ เกษตรกรตำบลเทพาลัย อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 100 ราย ศึกษาจากประชากรทำการสุ่มตัวอย่างโดยไม่ใช้ความน่าจะเป็น เครื่องมือที่ใช้คือแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการแปลความหมายตามเกณฑ์ที่กำหนด
ผลการวิจัยพบว่า เกษตรกรตำบลเทพาลัย มากกว่าครึ่งเล็กน้อยเป็นเพศชาย จบการศึกษาระดับประถมศึกษา และมีประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้น้ำหมักชีวภาพ เฉลี่ย 3.9 ปีมากกว่าครึ่ง มีจำนวนสมาชิกในครัวเรือน 4-6 คน มีสมาชิกในครัวเรือนช่วยทำการเกษตรเฉลี่ย 2.06 คน รายได้หลักส่วนใหญ่มาจากอาชีพเกษตรกรรม(ทำนา)เกษตรกรตำบลเทพาลัยส่วนใหญ่ มีพื้นที่ทำการเกษตรเป็นของตัวเองรวมถึงส่วนใหญ่ใช้ทุนตัวเองในการทำนาปลูกข้าว หนี้สินของเกษตรกรเฉลี่ย 83,010.00 บาท รายได้รวมต่อครัวเรือนเฉลี่ย 116,350.00 บาทเกษตรส่วนใหญ่ได้รับความรู้เกี่ยวกับน้ำหมักชีวภาพจากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมจากองค์กรการเกษตรปกครองส่วนท้องถิ่น ความคิดเห็นต่อการใช้น้ำหมักชีวภาพของเกษตรกรตำบลเทพาลัย ประกอบด้วย ขั้นตอนการผลิต วิธีใช้ ระยะเวลาการใช้ และคุณสมบัติ ของเกษตรกรตำบลเทพาลัย มีความคิดเห็นต่อการใช้น้ำหมักชีวภาพของเกษตรกรตำบลเทพาลัย ในภาพรวมเห็นด้วยในระดับมาก การใช้น้ำหมักชีวภาพเกษตรกรจะใช้น้ำหมักชีวภาพระยะการเจริญเติบโตของพืช โดย ใช้วิธีฉีดพ่นทางใบ ในอัตราส่วน5 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 20 ลิตร และฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพ 7 วันต่อครั้ง ปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้น้ำหมักชีวภาพ พบว่า เกือบทั้งหมด ไม่มีปัญหากับวิธีการผลิตน้ำหมักชีวภาพ และการหาวัสดุการผลิตน้ำหมักชีวภาพเสนอแนะในเรื่องการหาวัสดุการผลิตน้ำหมักชีวภาพ และเรื่องวิธีการผลิต
คำสำคัญ น้ำหมักชีวภาพ,ความคิดเห็นและการใช้น้ำหมักชีวภาพ