Luostarinen et al. (2009)reported s

Luostarinen et al. (2009)reported similar results during SS codigestion with grease trap sludge from a meat processing plant.
When grease trap sludge was increased from 46% to 58% of the feed
VS, the methane yield did not increase, but no signs of inhibition
were observed. Similarly,Luste and Luostarinen (2010)reported
a stable anaerobic co-digestion of SS with a mixture of animal
by-products when the HRT was decreased from 25–14 days, but
the highest methane yield was reported with an HRT of 20 days.
This reinforces the hypothesis that under these conditions, the
degradation kinetics of LCFAs is the rate-limiting stage, and inhibition phenomena are not relevant.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Luostarinen et al. (2009) รายงานผลที่คล้ายกันระหว่าง SS codigestion กับไขมันดักกากตะกอนจากโรงงานแปรรูปเนื้อเมื่อเพิ่มไขมันดักตะกอนจาก 46% เป็น 58% ของอาหารVS ผลผลิตมีเทนไม่เพิ่ม แต่ไม่มีสัญญาณของการยับยั้งถูกสังเกต ในทำนองเดียวกัน Luste และ Luostarinen (2010) รายงานความมั่นคงร่วมอังกฤษของ SS มีส่วนผสมของสัตว์ผลิตภัณฑ์เมื่อ HRT ลดลงจาก 25 – 14 วัน แต่มีรายงานผลผลิตมีเทนสูงกับ HRT เป็น 20 วันนี้ช่วยเสริมสมมติฐานภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ การจลนพลศาสตร์การสลายตัวของ LCFAs เป็นขั้นอัตราจำกัด และปรากฏการณ์ของการยับยั้งจะไม่เกี่ยวข้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Luostarinen et al, (2009) รายงานผลที่คล้ายกันในช่วง codigestion เอสเอสที่มีถังดักไขมันกากตะกอนจากโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์.
เมื่อถังดักไขมันตะกอนเพิ่มขึ้นจาก 46% เป็น 58% ของฟีด
VS ผลผลิตก๊าซมีเทนไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่มีสัญญาณของการยับยั้งการ
ถูกตั้งข้อสังเกต . ในทำนองเดียวกัน Luste และ Luostarinen (2010) รายงาน
มีเสถียรภาพแบบไม่ใช้ออกซิเจนร่วมการย่อยอาหารของเอสเอสที่มีส่วนผสมของสัตว์
โดยผลิตภัณฑ์เมื่อ HRT ลดลง 25-14 วัน แต่
ผลผลิตก๊าซมีเทนสูงสุดเป็นรายงานที่มีระยะเวลาเก็บกัก 20 วัน
นี้ตอกย้ำสมมติฐานที่ว่าภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้
จลนพลศาสตร์การย่อยสลายของ LCFAs เป็นขั้นตอนการ จำกัด อัตราและปรากฏการณ์การยับยั้งไม่เกี่ยวข้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

luostarinen et al . ( 2009 ) รายงานผลที่คล้ายกันใน SS codigestion กับกากตะกอนบ่อดักไขมันจากเนื้อสัตว์แปรรูปพืชเมื่อไขมันดักจับตะกอนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 46 ถึง 58 เปอร์เซ็นต์ของอาหารVS อัตราการผลิตก๊าซมีเทนไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่มีร่องรอยของการยับยั้งพบว่า และในทำนองเดียวกัน luste luostarinen ( 2553 ) รายงานมีถัง Co การย่อยอาหารของ SS ด้วยส่วนผสมของสัตว์ผลพลอยได้เมื่อ HRT ลดลงจาก 25 – 14 วัน แต่ผลผลิตก๊าซมีเทนสูงสุด คือ รายงานที่ HRT 20 วันนี้ตอกย้ำสมมติฐานว่าภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้จลนพลศาสตร์การสลายตัวของ lcfas คืออัตราการขั้นตอนและปรากฏการณ์และไม่เกี่ยวข้องกัน