6 Ways to Make a Bad First Impressi

6 Ways to Make a Bad First Impression
1. Don't try so hard to be "memorable."
Consider these two people you meet for the first time:

One listens to you carefully and pauses before offering his responses. He seems thoughtful and a bit serious, but also interested in you as a person. It’s clear from the look on his face that he’s someone who would be interesting to get to know and would want to do his best to make you happy. You feel that he’s holding things back somewhat, but it doesn't bother you because you’ve never met him before.
The second person is funny, witty, and high in energy. She seems to know what you’re about to say before you say it and provides you with a series of personal anecdotes. Some of these reflect her successes and others reflect times that people weren’t nice to her or she missed on an important opportunity.
After a few minutes, you’re intrigued by Person A but a bit fatigued by Person B.

New research explains why you might have such different impressions of these two people. When it comes to forming first impressions, many of us turn out to be quite willing to give other people the benefit of the doubt. University of British Columbia psychologists Katherine Rogers and Jeremy Biesanz (2015) distinguished between the processes of “knowing” vs. “liking” in first impressions. They claim that we bring our own biases to bear when we meet someone for the first time. For example, you might have a positive outlook of yourself and therefore bring a positive bias toward the way you evaluate other people who you don’t know. On the other hand, you may judge people on the basis of what you believe to be the “average” person’s characteristics. Other cues enter into the process as well, such as what people wear, their facial expressions, and how attractive you find them.

Rogers and Biesanz cite the work of personality psychologist Lee Chronbach in the area of “stereotype accuracy” on how to form an accurate first impression. If you are good at figuring out what the “average” person is like, then you should be quite good at figuring out what the people you meet are like. This can be a big help in promoting your social life. As Rogers and Biesanz point out, “Understanding what people are generally like and applying this knowledge can lead to more successful interactions” (p. 1106). In a way, this is like emotional intelligence, where you’re accurately able to gauge the personalities of the people you meet. Alternatively, if you let social desirability guide your impressions, you’ll tend to be inaccurate because you overemphasize people's positive qualities. The average is an average for a reason: If you think someone is “average” on introversion, you won’t be that far off if the individual is quite introverted, on one hand, or slightly extroverted, on the other.

In a series of studies, Rogers and Biesanz show that the more you know about people, the more likely you’ll use the average as a guide rather than be swayed by your own biases. With regard to how you can best impress those you meet, seeming average might have advantages over seeming to be extreme on any particular dimension. Blending in might not always be the worst thing in the world when you first come across a stranger you want to impress.

Let’s return to Person A and Person B in our example. Person A probably seems more average to you. Thoughtful and interested in you (i.e., average in introversion), not overly dramatic and not boring; you might feel that it would be easy to warm up to him. Person B might appeal to you as well, but only if you’re high in extraversion yourself. You may be the type of person to tell all to a stranger, and although some people like that, others are turned off and might run in the opposite direction.

This analysis doesn’t mean you have to hide or lie about who you are. It just means that until you’re sure of who you’re with, it may be best to stay on the average track.

Now let’s get to those 6 big mistakes. You may already know what the first one is; the rest are based on general psychological principles of impression formation:

1.Don't try so hard to create a “memorable” impression. Seeming too different from the average might turn off the person you’re trying to impress. Stick with the average until you feel certain of whether your audience is prepared to handle the real you.

2.Don't try to connect to people by revealing your personal history. You don’t know what other people’s lives are like so if you talk too much about your own without learning about them, you might bump into embarrassing or uncomfortable disconnects.

3.Don't fill the space with a lot of talk. Person B didn’t seem to provide any room for you to contribute to the conversation. It’s exhausting to talk to people who expect you to follow along with everything they say.

4.Don't assume others agree with you. Especially in a political season, you can make invalid assumptions by imposing your own views on people you don’t know ver

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

6 วิธีสร้างความประทับใจแรกที่ดี1. อย่าพยายามอย่างหนักที่จะ "จดจำ"พิจารณาเหล่านี้สองคนที่คุณพบเป็นครั้งแรก:หนึ่งฟังคุณอย่างระมัดระวัง และหยุดก่อนที่จะนำเสนอการตอบสนองของเขา เขาดูเหมือนรอบคอบ และร้าย แรงบิต แต่ยัง สนใจในตัวคุณเป็นคน ได้ชัดเจนจากลักษณะบนใบหน้าของเขาว่า เขาเป็นคนที่จะสนใจรับรู้ และจะต้องทำดีที่สุดของเขาจะทำให้คุณมีความสุข คุณรู้สึกว่า เขาถือสิ่งหลังบ้าง แต่มันไม่รบกวนคุณเนื่องจากคุณไม่เคยพบมาก่อนคนสองเป็นตลก มีไหวพริบ และพลังงานสูง เธอน่าจะรู้ว่าสิ่งที่คุณกำลังเกี่ยวกับการพูดก่อนที่คุณพูด และให้คุณ มีชุดของเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยส่วนบุคคล บางส่วนของเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของเธอ และคนอื่น ๆ สะท้อนให้เห็นถึงเวลาที่ คนไม่ดีกับเธอ หรือเธอพลาดในโอกาสสำคัญหลังจากไม่กี่นาที คุณกำลังทึ่งกับบุคคล A แต่บิตเหนื่อย โดยบุคคลข.งานวิจัยใหม่อธิบายว่า ทำไมคุณอาจแสดงผลดังกล่าวแตกต่างกันของคนสองคนนี้ เมื่อมันมาถึงรูปแรก พวกเราหลายคนเปิดออกเพื่อจะสื่อสารให้ผู้อื่นใช้ประโยชน์ของความสงสัย นักจิตวิทยามหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียแคทเธอรีนโรเจอร์สและ Jeremy Biesanz (2015) ที่แตกต่างระหว่างกระบวนการของการ "รู้" กับ "ถูกใจ" ในหน้าแรก พวกเขาอ้างว่า เรานำอคติของเราเองต้องเมื่อเราพบบางคนครั้งแรก ตัวอย่างเช่น คุณอาจมีทัศนคติของตัวเอง และจึง นำอคติบวกต่อวิธีคุณประเมินคนอื่น ๆ ที่คุณไม่ทราบ บนมืออื่น ๆ คุณอาจตัดสินคนบนพื้นฐานของสิ่งที่คุณเชื่อว่าเป็น ลักษณะของบุคคล "เฉลี่ย" สัญลักษณ์อื่น ๆ ใส่ลงในกระบวนการเช่นนี้ เช่นสิ่งที่คนสวมใส่ ท่าหน้า และน่าสนใจคุณพบพวกเขาโรเจอร์สและ Biesanz นำงานของนักจิตวิทยาบุคลิกภาพ Chronbach ลีในพื้นที่ของ "ความถูกต้องของการเหมารวม" วิธีสร้างความประทับใจแรกที่ถูกต้อง ถ้าคุณมีดีที่หาคน "เฉลี่ย" คืออะไรเช่น แล้วคุณควรจะค่อนข้างดีที่หาคนที่คุณพบคืออะไรเช่น นี้สามารถเป็นตัวช่วยส่งเสริมชีวิตสังคมของคุณ โรเจอร์สและ Biesanz จุดออก "สิ่งที่ผู้คนได้โดยทั่วไปเช่นการทำความเข้าใจ และนำความรู้นี้สามารถนำไปสู่ปฏิสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จมากกว่า" (p. 1106) ในทาง อยู่เช่นความฉลาดทางอารมณ์ ที่คุณสามารถวัดลักษณะนิสัยของคนที่คุณพบได้อย่างถูกต้อง อีกวิธีหนึ่งคือ ถ้าคุณให้สังคมปรารถนานำความประทับใจของคุณ คุณจะมักจะไม่ถูกต้องเนื่องจากคุณเน้นเรื่องคุณภาพของคนบวก ค่าเฉลี่ยเป็นการเฉลี่ยเหตุผล: หากคุณคิดว่า บุคคลนั้นเป็น "ค่าเฉลี่ย" ใน introversion คุณจะไม่ว่าไกลออกถ้าบุคคลเก็บ ตัวค่อนข้าง มือหนึ่ง หรือเล็กน้อย extroverted อื่น ๆในชุดของการศึกษา โรเจอร์สและ Biesanz แสดงว่า ยิ่งคุณรู้เกี่ยวกับคน มีแนวโน้มมากขึ้นคุณจะใช้ค่าเฉลี่ยเป็นคู่มือ มากกว่าต้องเปี่ยมไป ด้วยอคติของคุณเอง เกี่ยวกับวิธีคุณสามารถสุดประทับใจที่คุณ รวมตัว ด้วยเฉลี่ยอาจมีข้อได้เปรียบกว่าด้วยจะมากในมิติใด ๆ โดยเฉพาะ ผสมในอาจไม่เสมอมีสิ่งเลวร้ายที่สุดในโลกเมื่อคุณครั้งแรกเจอคนแปลกหน้าคุณต้องการสร้างความประทับใจลองกลับไปบุคคล A และ B คนในตัวอย่าง บุคคล A อาจจะดูเหมือนเฉลี่ยมากขึ้นเพื่อคุณ รอบคอบ และสนใจคุณ (นั่นคือ โดยเฉลี่ยใน introversion), มากเกินไปอย่างมาก และไม่น่า เบื่อ คุณอาจรู้สึกว่า มันจะง่ายอบอุ่นให้เขา บุคคล B อาจดึงดูดคุณเช่นกัน แต่เพียง ถ้าคุณสูง extraversion เอง คุณอาจจะประเภทของบุคคลจะบอกกับคนแปลกหน้าทั้งหมด และแม้ว่าบางคนเช่นนั้น อื่น ๆ จะถูกปิด และอาจทำงานในทิศทางตรงกันข้ามการวิเคราะห์นี้ไม่ได้หมายความ คุณต้องการซ่อน หรือโกหกคุณได้ เพียงหมายความ ว่า จนกว่าคุณจะแน่ใจว่าของที่คุณมี มันอาจจะสุดอยู่บนเส้นค่าเฉลี่ยตอนนี้ขอได้ที่ผู้ใหญ่ 6 ข้อผิดพลาด คุณอาจรู้อยู่แล้วว่าอันแรกคืออะไร ส่วนเหลือเป็นไปตามหลักจิตวิทยาทั่วไปของการสร้างความประทับใจ:1. อย่าพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างความประทับใจ "จดจำ" ด้วยความแตกต่างไปจากค่าเฉลี่ยอาจปิดบุคคลที่คุณกำลังพยายามสร้างความประทับใจ ติดกับค่าเฉลี่ยจนกว่าคุณจะแน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นเตรียมที่จะจัดการจริงคุณ 2. อย่าพยายามที่จะเชื่อมต่อกับบุคคล โดยการเปิดเผยประวัติส่วนตัวของคุณ คุณไม่ทราบคนอื่นชีวิตคืออะไรเช่นถ้าคุณพูดมากเกินไปเกี่ยวกับการเรียนรู้ของคุณเองโดยไม่เกี่ยวกับพวกเขา คุณอาจชนอาย หรืออึดอัดยก 3. ไม่เติมว่าง มีจำนวนมากพูดคุยกัน บุคคล B ไม่ได้ดูเหมือนจะ ให้บริการใด ๆ สำหรับคุณที่จะนำไปสู่การสนทนา เหน็ดเหนื่อยที่จะพูดคุยกับคนที่คาดหวังให้คุณทำตามพร้อมกับทุกสิ่งที่พวกเขาพูด ได้ 4. ไม่สมมติอื่น ๆ เห็นด้วยกับคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาลทางการเมือง คุณสามารถทำให้สมมติฐานที่ถูกต้องทางมุมมองของคุณเองกับคน ที่คุณไม่ทราบเห็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

6 วิธีการสร้างความประทับใจแรก Bad
1. อย่าพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเป็น "ความทรงจำ".
พิจารณาทั้งสองคนที่คุณพบเป็นครั้งแรก:

ใครฟังกับคุณอย่างระมัดระวังและหยุดก่อนที่จะเสนอคำตอบของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะคิดและเครียดเล็กน้อย แต่ยังสนใจในตัวคุณเป็นคนที่ มันเป็นที่ชัดเจนจากรูปลักษณ์บนใบหน้าของเขาว่าเขาเป็นใครสักคนที่จะน่าสนใจที่จะได้รับรู้และต้องการจะทำสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณมีความสุข คุณรู้สึกว่าเขาถือสิ่งที่กลับมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้รบกวนคุณเพราะคุณไม่เคยพบเขาก่อน
คนที่สองเป็นเรื่องตลกขำขันและให้พลังงานสูง เธอดูเหมือนจะรู้ว่าสิ่งที่คุณกำลังจะบอกว่าก่อนที่คุณจะบอกว่ามันและให้คุณกับชุดของเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยส่วนบุคคล บางเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของเธอและคนอื่น ๆ สะท้อนให้เห็นถึงเวลาที่คนไม่ดีกับเธอหรือเธอพลาดโอกาสสำคัญ
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีคุณจะทึ่งโดยบุคคล แต่บิตเหนื่อยโดยบุคคล B.

งานวิจัยใหม่ที่อธิบายว่าทำไมคุณอาจจะมีการแสดงผลที่แตกต่างกันดังกล่าวของทั้งสองคน เมื่อมันมาถึงการสร้างความประทับใจครั้งแรกพวกเราหลายคนเปิดออกเพื่อจะค่อนข้างยินดีที่จะให้คนอื่นได้รับประโยชน์จากข้อสงสัย มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียนักจิตวิทยาแคเธอรีนโรเจอร์สและเจเรมี Biesanz (2015) พิเศษระหว่างกระบวนการของการ "รู้" กับ "โดนใจ" ในการแสดงครั้งแรก พวกเขาอ้างว่าเรานำอคติของเราเองที่จะแบกเมื่อเราเจอคนที่เป็นครั้งแรก ตัวอย่างเช่นคุณอาจจะมีมุมมองเชิงบวกของตัวเองและดังนั้นจึงนำอคติเชิงบวกต่อวิธีการที่คุณประเมินคนอื่น ๆ ที่คุณไม่ทราบ บนมืออื่น ๆ คุณอาจตัดสินคนที่อยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่คุณเชื่อว่าจะเป็นลักษณะบุคคล "ค่าเฉลี่ย" ของ ชี้นำอื่น ๆ เข้าสู่กระบวนการได้เป็นอย่างดีเช่นสิ่งที่ผู้คนสวมใส่การแสดงออกทางสีหน้าของพวกเขาและวิธีการที่น่าสนใจที่คุณพบพวกเขา

โรเจอร์สและ Biesanz กล่าวถึงการทำงานของนักจิตวิทยาบุคลิกภาพลี Chronbach ในพื้นที่ของ "ต้นแบบความถูกต้อง" ในวิธีการที่จะสร้างความประทับใจครั้งแรกที่ถูกต้อง หากคุณมีดีที่การหาสิ่งที่คน "ค่าเฉลี่ย" เป็นเช่นนั้นคุณควรจะค่อนข้างดีในการหาสิ่งที่คนที่คุณพบเป็นเหมือน นี้อาจจะเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ในการส่งเสริมชีวิตทางสังคมของคุณ ขณะที่โรเจอร์สและ Biesanz ชี้ "การทำความเข้าใจสิ่งที่ผู้คนมักชอบและการประยุกต์ใช้ความรู้นี้สามารถนำไปสู่การมีปฏิสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น" (พี. 1106) ในทางนี้เป็นเหมือนความฉลาดทางอารมณ์ที่คุณได้อย่างถูกต้องสามารถวัดบุคลิกของคนที่คุณตอบสนองความ หรือถ้าคุณปล่อยให้ความปรารถนาทางสังคมเป็นแนวทางในการแสดงผลของคุณคุณจะมีแนวโน้มที่จะไม่ถูกต้องเพราะคุณ overemphasize คุณภาพในเชิงบวกของผู้คน เฉลี่ยเป็นค่าเฉลี่ยสำหรับเหตุผล: ถ้าคุณคิดว่าคนที่เป็น "ค่าเฉลี่ย" ในการฝังตัวคุณจะไม่ไกลออกไปถ้าบุคคลเป็นเก็บตัวค่อนข้างบนมือข้างหนึ่งหรือไกลตัวเล็กน้อยในที่อื่น ๆ

ในชุดของการศึกษาที่โรเจอร์สและ Biesanz แสดงให้เห็นว่ายิ่งคุณรู้เกี่ยวกับคนที่มีแนวโน้มที่คุณจะใช้ค่าเฉลี่ยเป็นแนวทางมากกว่าจะเปี่ยมไปด้วยอคติของคุณเอง ในเรื่องเกี่ยวกับวิธีการที่คุณสามารถสร้างความประทับใจที่ดีที่สุดที่คุณได้พบกับค่าเฉลี่ยที่เห็นอาจจะมีข้อได้เปรียบกว่าดูเหมือนจะเป็นมากในมิติใด ๆ ผสมอาจจะไม่เสมอเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในโลกเมื่อคุณมาก่อนข้ามคนแปลกหน้าคุณต้องการที่จะสร้างความประทับใจ

ลองย้อนกลับไปยังบุคคลและนายขในตัวอย่างของเรา คนอาจจะดูเหมือนว่าค่าเฉลี่ยมากขึ้นเพื่อคุณ รอบคอบและสนใจในตัวคุณ (เช่นค่าเฉลี่ยในการฝังตัว) ไม่มากเกินไปอย่างมากและไม่น่าเบื่อ; คุณอาจรู้สึกว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะอุ่นเครื่องกับเขา คน B อาจจะดึงดูดให้คุณได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณอยู่ในระดับสูงในบุคลิกภาพตัวเอง คุณอาจจะเป็นคนประเภทที่จะบอกทุกคนแปลกหน้าและถึงแม้ว่าบางคนชอบว่าคนอื่น ๆ จะถูกปิดและอาจจะไปในทิศทางตรงกันข้าม

การวิเคราะห์นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องซ่อนหรือโกหกเกี่ยวกับว่าคุณเป็นใคร มันก็หมายความว่าจนกว่าคุณจะแน่ใจว่าคนที่คุณอยู่กับมันอาจจะดีที่สุดที่จะอยู่ในการติดตามค่าเฉลี่ย

ตอนนี้ขอให้ผู้ที่ 6 ข้อผิดพลาดใหญ่ คุณอาจทราบแล้วสิ่งที่คนแรกคือ; ส่วนที่เหลือจะอยู่บนพื้นฐานของหลักการทางจิตวิทยาทั่วไปของการสร้างความประทับใจ:

1.Don't พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะสร้าง "ความทรงจำ" ความประทับใจ ดูเหมือนแตกต่างกันเกินไปจากค่าเฉลี่ยอาจปิดคนที่คุณกำลังพยายามที่จะสร้างความประทับใจ ติดกับค่าเฉลี่ยจนกว่าคุณจะรู้สึกบางอย่างที่ว่าผู้ชมของคุณได้เตรียมที่จะจัดการกับตัวจริงของคุณ

2.Don't พยายามเชื่อมต่อกับผู้คนด้วยการเปิดเผยประวัติส่วนตัวของคุณ คุณไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่คนอื่นเป็นเหมือนชีวิตดังนั้นหากคุณพูดมากเกินไปเกี่ยวกับของคุณเองโดยไม่ต้องมีการเรียนรู้เกี่ยวกับพวกเขาคุณอาจชนในการเชื่อมต่อที่น่าอายหรืออึดอัด

3.Don't เติมช่องว่างที่มีจำนวนมากของการพูดคุย นายขไม่ได้ดูเหมือนจะให้ห้องใดสำหรับคุณที่จะมีส่วนร่วมในการสนทนา มันเหนื่อยที่จะพูดคุยกับคนที่คาดหวังให้คุณทำตามพร้อมกับทุกสิ่งที่พวกเขากล่าวว่า

4.Don't ถือว่าคนอื่น ๆ เห็นด้วยกับคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาลทางการเมืองคุณสามารถทำให้สมมติฐานที่ไม่ถูกต้องโดยการกำหนดมุมมองของคุณเองกับคนที่คุณไม่รู้จัก Ver

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

6 วิธีที่จะทำให้ความประทับใจแรกไม่ดี1 . อย่าพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเป็น " น่าจดจำ "พิจารณาเหล่านี้สอง คน คุณพบกันครั้งแรก :ใครฟังคุณอย่างระมัดระวังและหยุดชั่วคราวก่อนเสนอการตอบสนองของเขา เขาดูรอบคอบและจริงจังไปหน่อย แต่ยังสนใจในตัวคุณเป็นคน มันชัดเจนจากสีหน้าของเขาว่า เขาเป็นคนที่ควรได้รับทราบ และจะทำของเขาที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณมีความสุข คุณรู้สึกว่าเขาถือมันกลับบ้าง แต่มันไม่กวนใจคุณ เพราะคุณไม่เคยพบเขามาก่อนคนที่สองคือ ตลก ฉลาด และให้พลังงานสูง ดูเหมือนเธอจะรู้สิ่งที่คุณกำลังจะพูดก่อนที่จะพูดและให้คุณกับชุดของ anecdotes ส่วนบุคคล บางส่วนของเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของเธอและคนอื่น ๆสะท้อนให้เห็นถึงเวลาที่คนไม่ได้ทำดีกับเธอหรือเธอพลาดในโอกาสสำคัญหลังจากไม่กี่นาที คุณจะทึ่งกับคน แต่บิตเหนื่อยด้วยคน .งานวิจัยใหม่อธิบายว่าทำไมคุณอาจจะแตกต่างกัน เช่นการแสดงผลของทั้งสองคน เมื่อมันมาเพื่อสร้างความประทับใจแรก พวกเราหลายคนเปิดออกจะค่อนข้างยินดีที่จะให้คนอื่นได้รับประโยชน์จากข้อสงสัย มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียนักจิตวิทยาแคทเธอรีน โรเจอร์ กับเจเรมี่ biesanz ( 2015 ) ที่แตกต่างระหว่างกระบวนการของการ " รู้ " และ " ชอบ " ในการแสดงผลแรก พวกเขาอ้างว่าเราเอาอคติของเราเองเพื่อหมีเมื่อเราพบใครเป็นครั้งแรก . ตัวอย่างเช่นคุณอาจมีมุมมองเชิงบวกของตนเองและดังนั้นจึงเอาอคติบวกต่อวิธีประเมินคนอื่นที่คุณไม่รู้จัก บนมืออื่น ๆที่คุณอาจตัดสินคนอื่นบนพื้นฐานของสิ่งที่คุณเชื่อว่าเป็นลักษณะ " เฉลี่ย " ของคนเรา ตัวอื่นๆ เข้าสู่กระบวนการด้วยเช่นกัน เช่น สิ่งที่ผู้คนสวมใส่การแสดงออกทางสีหน้าของพวกเขาและวิธีการที่น่าสนใจคุณจะพบพวกเขาโรเจอร์ กับ biesanz อ้างถึงงานของนักจิตวิทยาบุคลิกภาพลีค่าในพื้นที่ของ " ต้นแบบที่ถูกต้อง " ในการสร้างความประทับใจแรกถูกต้อง ถ้าคุณเก่งเรื่อง " เฉลี่ย " คนชอบ แล้วคุณควรจะค่อนข้างดีในการหาสิ่งที่คนที่คุณเจอเป็น นี้สามารถจะช่วยใหญ่ในการส่งเสริมชีวิตสังคมของคุณ ขณะที่ โรเจอร์ กับ biesanz ชี้ " การทำความเข้าใจสิ่งที่คนมักจะชอบและใช้ความรู้นี้สามารถนำไปสู่การโต้ตอบที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น " ( หน้า 1106 ) ในวิธีนี้เป็นเหมือนความฉลาดทางอารมณ์ที่คุณอย่างถูกต้องสามารถวัดบุคลิกภาพของคนที่คุณพบ อีกวิธีหนึ่งคือ ถ้าคุณปล่อยให้ความสังคมคู่มือการแสดงผลของคุณคุณจะมักจะไม่ถูกต้อง เพราะคุณเน้นย้ำบวกคุณภาพของคน เฉลี่ยเป็นค่าเฉลี่ยสำหรับเหตุผล : ถ้าคุณคิดว่าใครคือ " เฉลี่ย " ทิพย์ คุณจะไม่ไปไกลขนาดนั้น ถ้าแต่ละคนค่อนข้างขี้อาย บนมือข้างหนึ่ง , หรือเล็กน้อย extroverted ในอื่น ๆในชุดของการศึกษา โรเจอร์ กับ biesanz แสดงว่า ยิ่งคุณรู้เกี่ยวกับคน , มีโอกาสมากขึ้นที่คุณจะใช้ค่าเป็นคู่มือมากกว่าจะเอนเอียงด้วยอคติของคุณเอง เกี่ยวกับวิธีที่คุณสามารถสร้างความประทับใจให้คนที่คุณพบ เฉลี่ยที่อาจจะได้เปรียบกว่าที่ได้รับมากในมิติใดโดยเฉพาะ เจ้าหญิงอาจจะไม่เสมอเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในโลก เมื่อคุณเจอคนแปลกหน้าที่คุณต้องประทับใจให้กลับไปเป็นคน และคน บี ในตัวอย่างของเรา คนอาจจะดูเหมือนมีให้คุณ ใส่ใจและสนใจคุณ ( คือเฉลี่ย introversion ) ไม่สุดเหวี่ยงเร้าใจไม่น่าเบื่อ คุณอาจจะรู้สึกว่า มันง่ายที่จะอุ่นเครื่องกับ เขา นาย ขอาจจะอุทธรณ์ไปยังคุณเช่นกัน แต่ถ้าคุณกำลังสูง 2 ตัว คุณอาจเป็นคนที่จะบอกกับคนแปลกหน้า และแม้ว่าบางคนชอบว่าคนอื่นจะถูกปิดและจะวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามการวิเคราะห์นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องปิดบังหรือโกหกเกี่ยวกับว่าคุณเป็นใคร มันหมายความว่า จนกว่าคุณจะแน่ใจว่าของที่คุณมี มันอาจจะดีที่สุดที่จะอยู่ในการติดตามโดยเฉลี่ยตอนนี้ขอที่ 6 ใหญ่พลาด คุณอาจทราบแล้วว่าอันแรก ส่วนที่เหลือจะขึ้นอยู่กับหลักการทางจิตวิทยาทั่วไปของการเกิดความประทับใจ :1 . อย่าพยายามอย่างหนักเพื่อสร้าง " ความประทับใจที่น่าจดจำ " ที่เห็นต่างจากเฉลี่ยอาจปิดบุคคลที่คุณกำลังพยายามที่จะสร้างความประทับใจ ติดกับเฉลี่ยจนกว่าคุณจะรู้สึกแน่ใจว่าผู้ชมของคุณได้เตรียมที่จะจัดการจริงคุณ2 . อย่าพยายามที่จะเชื่อมต่อกับผู้คน โดยเปิดเผยประวัติส่วนตัวของคุณ คุณไม่รู้ว่าชีวิตคนอื่นเหมือนดังนั้นถ้าคุณพูดมากเกินไปเกี่ยวกับของคุณเองโดยไม่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับพวกเขา คุณอาจจะชนเขินหรืออึดอัด ยกเลิกการเชื่อมต่อ3 . อย่าเติมพื้นที่ที่มีการพูดกันมาก . นาย ขไม่ได้ดูเหมือนจะให้ห้องพักสำหรับคุณที่จะมีส่วนร่วมในการสนทนา มันเหนื่อยที่ต้องพูดคุยกับคนที่คาดหวังว่าเธอจะทำตามทุกอย่างที่พวกเขาพูด4 . อย่าคิดว่าคนอื่นเห็นด้วยกับคุณ โดยเฉพาะในฤดูกาลทางการเมือง , คุณสามารถ