Abstract Paclitaxel and carboplatin

Abstract Paclitaxel and carboplatin combination chemotherapy
has remained the standard of care in the frontline
therapy of advanced epithelial ovarian carcinoma
during the last decade. Maintenance chemotherapy or
immunotherapy has not been proven to impact on overall
survival and only one clinical trial that explored the
administration of monthly paclitaxel for 1 year showed a
benefit in terms of progression-free survival (PFS), but at
the cost of maintained alopecia and increased peripheral
neuropathy. This scenario may be changing with the
incorporation of targeted therapy to the frontline therapy of
ovarian cancer. In particular, anti-angiogenic therapy has
been identified as the most promising targeted therapy, and
the addition of bevacizumab to first-line chemotherapy
followed by a maintenance period of bevacizumab in
monotherapy has shown to prolong PFS. This was considered
the proof of concept of the value of anti-angiogenic
therapy in the frontline of ovarian cancer, and the results of
two additional clinical trials with anti-angiogenic tyrosinekinase
inhibitors have shown results in the same direction

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นามธรรม Paclitaxel และ carboplatin ผสมเคมีบำบัดมีอยู่มาตรฐานของการดูแลให้เกิดการบำบัดขั้นสูง carcinoma รังไข่ epithelialในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บำรุงรักษาเคมีบำบัด หรือพิสูจน์ immunotherapy เพื่อผลกระทบบนโดยรวมไม่อยู่รอดและการทดลองทางคลินิกเดียวที่อุดมการจัดการของ paclitaxel เดือน 1 ปีพบว่าการประโยชน์ในแง่ ของการรอดก้าวหน้าฟรี (รับมือ), แต่ที่ต้นทุนของร่วงยังคงอยู่และเพิ่มอุปกรณ์ต่อพ่วงneuropathy สถานการณ์นี้อาจเปลี่ยนแปลงด้วยการประสานเป้าหมายการรักษา ด้วยการบำบัดแนวหน้าของมะเร็งรังไข่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง anti angiogenic บำบัดได้การระบุว่าเป็นการรักษาเป้าหมายว่า และการเพิ่มของ bevacizumab ให้เคมีบำบัดก่อนสายตามระยะเวลาบำรุงรักษาของ bevacizumab ในมีแสดง monotherapy รั้งรอรับมือ นี้ถือเป็นหลักฐานของแนวคิดของค่าของ anti angiogenicบำบัดในการเกิดมะเร็งรังไข่ และผลลัพธ์ของสองเพิ่มเติมคลินิกกับ anti angiogenic tyrosinekinaseinhibitors ได้แสดงผลในทิศทางเดียวกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Paclitaxel บทคัดย่อเคมีบำบัดและการรวมกัน carboplatin
ยังคงมาตรฐานของการดูแลพนักงานใน
การรักษามะเร็งรังไข่เยื่อบุผิวขั้นสูง
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ยาเคมีบำบัดการบำรุงรักษาหรือ
วัคซีนภูมิแพ้ไม่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าส่งผลกระทบต่อภาพรวม
การอยู่รอดและมีเพียงหนึ่งการทดลองทางคลินิกที่มีการสำรวจ
การบริหารงานของยา paclitaxel รายเดือนเป็นเวลา 1 ปีพบว่ามี
ประโยชน์ในแง่ของการอยู่รอด progression-free (PFS) แต่ที่
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาผมร่วงและ อุปกรณ์ต่อพ่วงที่เพิ่มขึ้น
ของระบบประสาท สถานการณ์นี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงกับ
การรวมตัวกันของการรักษาที่กำหนดเป้าหมายเพื่อการรักษาพนักงานของ
โรคมะเร็งรังไข่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาด้วยการป้องกันเส้นเลือดได้
รับการระบุว่าการรักษาด้วยการกำหนดเป้าหมายที่มีแนวโน้มมากที่สุดและ
การเพิ่มขึ้นของ bevacizumab การรักษาด้วยเคมีบำบัดบรรทัดแรก
ตามระยะเวลาการบำรุงรักษาของ bevacizumab ใน
ยาได้แสดงให้เห็นเพื่อยืดอายุการ PFS นี้ได้รับการพิจารณา
หลักฐานการแนวคิดของมูลค่าของการป้องกันเส้นเลือด
ในการรักษาพนักงานของโรคมะเร็งรังไข่และผลของ
ทั้งสองการทดลองทางคลินิกเพิ่มเติมที่มีการป้องกันเส้นเลือด tyrosinekinase
ยับยั้งได้แสดงให้เห็นผลไปในทิศทางเดียวกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นนามธรรมและตัวผสมเคมีบำบัด
ยังคงมาตรฐานของการดูแลในโรงพยาบาลมะเร็งรังไข่เยื่อบุผิวของ

บำบัดขั้นสูงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การบํารุงรักษาเคมีบำบัดหรือ
immunotherapy ได้พิสูจน์แล้วว่าผลกระทบโดยรวม
การอยู่รอดและเพียงหนึ่งการทดลองทางคลินิกที่สํารวจ
การบริหารเป็นรายเดือน เป็นเวลา 1 ปี พบว่ามี
ประโยชน์ในแง่ของความก้าวหน้าในการอยู่รอดฟรี ( pfs ) แต่ที่ต้นทุนของการรักษาผมร่วงและ

( peripheral neuropathy สถานการณ์นี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงกับการรักษาเป้าหมาย
กับ frontline รักษามะเร็ง
รังไข่ โดยเฉพาะการรักษาต่อต้าน angiogenic ได้ถูกระบุว่าเป็นแนวโน้มมากที่สุด

กำหนดเป้าหมายการรักษานอกเหนือจากการวิจัยเพื่ออุตสาหกรรมเคมี
ตามด้วยการบำรุงรักษาในช่วงการวิจัยได้แสดงให้ pfs
โดยยืด . นี้ถือว่า
หลักฐานของแนวคิดของมูลค่าของการรักษาต่อต้าน angiogenic
ในแนวหน้าของมะเร็งรังไข่ และผลลัพธ์ของการทดลองทางคลินิกที่มีสองเพิ่มเติม

Anti angiogenic ไทโรซีนไคเนสโปรตีนได้แสดงผลลัพธ์ในทิศทางเดียวกัน