เป็นนวนิยายที่เขียนขึ้นโดย Wilkie C

เป็นนวนิยายที่เขียนขึ้นโดย Wilkie Collins (1824-1889) นักประพันธ์ชาวอังกฤษ และเป็นชาวไบรตันคนแรกที่เขียนนวนิยายเชิงสืบสวนสอบสวน เขาเกิดที่ลอนดอน เคยประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจ และนักกฎหมายที่กลับมารู้สึกว่าตัวเองน่าจะชอบการเป็นนักเขียนมากกว่า พอดีได้มีโอกาสรู้จัก และสนิทสนมกับชาร์ลส์ ดิกเกนส์ใน ค.ศ.1851 จนได้ร่วมกันแต่งเรื่อง NoThoroughfare (1867) แล้วจึงเริ่มเขียนนวนิยายสองเรื่องของตัวเองคือ The Woman in White (1860) และ The Moonstone (1868) ซึ่งดิกเกนส์จัดพิมพ์ให้เป็นชุดๆ ทั้งสองเล่มกลายเป็นนวนิยายสืบสวนชิ้นโบว์แดง เป็นต้นแบบของการเขียนนวนิยายสืบสวนสอบสวนที่จะไม่เน้นความสำคัญของตัวละคร แต่เน้นการวางโครงเรื่องที่เร้าใจคนอ่านมากกว่า


สำหรับเรื่อง The Woman in White นี้ เป็นนวนิยายลึกลับที่กำหนดเนื้อเรื่องประมาณทศวรรษที่ 1850 สถานที่ของเรื่องคืออังกฤษที่ได้ตีพิมพ์ครั้งแรกใน ค.ศ.1860 ลักษณะการดำเนินเรื่องเป็นเสมือนการเก็บรวบรวมจากบันทึกของคนหลายคน เป็นโอกาสของผู้แต่งที่จะแสดงแนวทางการเขียนแบบต่างๆ ได้ไม่ซ้ำกัน คนอ่านจะสนใจเรื่องที่มีคนเล่าขานนั้นโดยไม่เบื่อ คุณลักษณะที่ชั่วร้ายของตัวละคร และเหยื่อถูกปรับให้ดูหมือนเป็นการเดินเรื่องในภาพยนตร์ ที่คนดูจะปะติดปะต่อความเข้าใจเนื้อหาโดยไม่ขาดตอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นนวนิยายที่เขียนขึ้นโดย Wilkie คอลลินส์ (1824-จาก 1889) นักประพันธ์ชาวอังกฤษและเป็นชาวไบรตันคนแรกที่เขียนนวนิยายเชิงสืบสวนสอบสวนเขาเกิดที่ลอนดอนเคยประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจ พอดีได้มีโอกาสรู้จักและสนิทสนมกับชาร์ลส์ดิกเกนส์ในคศ1851 จนได้ร่วมกันแต่งเรื่อง NoThoroughfare (1867) แล้วจึงเริ่มเขียนนวนิยายสองเรื่องของตัวเองคือผู้หญิงในสีขาว (1860) และทั้งสองเล่มกลายเป็นนวนิยายสืบสวนชิ้นโบว์แดงซึ่งดิกเกนส์จัดพิมพ์ให้เป็นชุด ๆ มุกดา (1868) แต่เน้นการวางโครงเรื่องที่เร้าใจคนอ่านมากกว่า


สำหรับเรื่องผู้หญิงในนี้สีขาวเป็นนวนิยายลึกลับที่กำหนดเนื้อเรื่องประมาณทศวรรษที่ 1850 สถานที่ของเรื่องคืออังกฤษที่ได้ตีพิมพ์ครั้งแรกในค.ศ1860 ลักษณะการดำเนินเรื่องเป็นเสมือนการเก็บรวบรวมจากบันทึกของคนหลายคนเป็นโอกาสของผู้แต่งที่จะแสดงแนวทางการเขียนแบบต่าง ๆ ได้ไม่ซ้ำกันคนอ่านจะสนใจเรื่องที่มีคนเล่าขานนั้นโดยไม่เบื่อ และเหยื่อถูกปรับให้ดูหมือนเป็นการเดินเรื่องในภาพยนตร์ที่คนดูจะปะติดปะต่อความเข้าใจเนื้อหาโดยไม่ขาดตอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นนวนิยายที่เขียนขึ้นโดยวิลคีคอลลิน (1824-1889) นักประพันธ์ชาวอังกฤษ เขาเกิดที่ลอนดอนเคยประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจ พอดีได้มีโอกาสรู้จักและสนิทสนมกับชาร์ลส์ดิกเกนส์ใน ค.ศ. 1851 จนได้ร่วมกันแต่งเรื่อง NoThoroughfare (1867) ผู้หญิงในสีขาว (1860) และสีน้ำเงิน (1868) ซึ่งดิกเกนส์จัดพิมพ์ให้เป็นชุด ๆ ผู้หญิงในสีขาวนี้ 1850 ค.ศ. 1860 ได้ไม่ซ้ำกัน คุณลักษณะที่ชั่วร้ายของตัวละคร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นนวนิยายที่เขียนขึ้นโดยวิลคีคอลลินส์ ( 1824-1889 ) นักประพันธ์ชาวอังกฤษและเป็นชาวไบรตันคนแรกที่เขียนนวนิยายเชิงสืบสวนสอบสวนเขาเกิดที่ลอนดอนเคยประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจพอดีได้มีโอกาสรู้จักและสนิทสนมกับชาร์ลส์ดิกเกนส์ในค .ศ .1851 จนได้ร่วมกันแต่งเรื่อง nothoroughfare ( 1867 ) แล้วจึงเริ่มเขียนนวนิยายสองเรื่องของตัวเองคือผู้หญิงในชุดขาว ( 1860 ) และมูนสโตน ( 1868 ) ซึ่งดิกเกนส์จัดพิมพ์ให้เป็นชุดๆทั้งสองเล่มกลายเป็นนวนิยายสืบสวนชิ้นโบว์แดงแต่เน้นการวางโครงเรื่องที่เร้าใจคนอ่านมากกว่า


สำหรับเรื่องผู้หญิงในชุดขาวนี้เป็นนวนิยายลึกลับที่กำหนดเนื้อเรื่องประมาณทศวรรษที่ 1850 สถานที่ของเรื่องคืออังกฤษที่ได้ตีพิมพ์ครั้งแรกในค . ศ .1860 ลักษณะการดำเนินเรื่องเป็นเสมือนการเก็บรวบรวมจากบันทึกของคนหลายคนเป็นโอกาสของผู้แต่งที่จะแสดงแนวทางการเขียนแบบต่างๆได้ไม่ซ้ำกันคนอ่านจะสนใจเรื่องที่มีคนเล่าขานนั้นโดยไม่เบื่อและเหยื่อถูกปรับให้ดูหมือนเป็นการเดินเรื่องในภาพยนตร์ที่คนดูจะปะติดปะต่อความเข้าใจเนื้อหาโดยไม่ขาดตอน