substantial literature, dating back

substantial literature, dating back at least to Baumol [1959], Marris [1964], and Williamson [1964], holds that managers may undertake inefficient projects in order to extract private benefits. This problem is particularly severe when managers are entrenched and can resist hostile takeovers [Jensen and Ruback 1983; Shleifer and Vishny 1989]. Under this view, if capital expenditure increases following the adoption of new takeover defenses, this increase would be a net negative for firm value.
To examine the empirical relationship between capital expenditure and governance, we estimate annual median regressions for capital expenditure (CAPEX), scaled by either sales or assets, and net of the industry median. To control for the different investment opportunities available at value and growth firms, we include the log of the book-to-market ratio (BM) as a control variable in all specifications. Table X summarizes the results, with BM coefficients omitted. Columns (1) and (3) give results for the full sample, with G as the key regressor; columns (2) and (4) give results for the sample restricted to firms in the Democracy and Dictatorship Portfolios, with a Democracy dummy as the key regressor. The average coefficient on G is positive and significant in both sets of regressions. Consistent with these results, we find that the average coefficient on the Democracy dummy is negative and significant in both sets of regressions. We conclude that,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เอกสารประกอบการพบ มาน้อย Baumol [1959], Marris [1964], และ Williamson [1964], ถือว่า ผู้จัดการอาจทำโครงการต่ำเพื่อแยกผลประโยชน์ส่วนตัว ปัญหานี้จะรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้จัดการมั่นคงแห่งรัฐ และสามารถต้านทานศัตรู takeovers [เจนและ Ruback 1983 Shleifer ก Vishny 1989] ภายใต้มุมมองนี้ ถ้าจ่ายเพิ่มต่อมาตรการป้องกันแผ่นใหม่ เพิ่มจะลบสุทธิสำหรับค่าของบริษัทการตรวจสอบการรวมความสัมพันธ์ระหว่างการจ่ายและการบริหารงาน เราประเมิน regressions ทุนกลางปีสำหรับรายจ่ายทุน (CAPEX), ปรับสัดส่วนได้ โดยการขายหรือสินทรัพย์ และสุทธิของค่ามัธยฐานอุตสาหกรรม การควบคุมการลงทุนที่แตกต่างกันโอกาสที่บริษัทที่เติบโตและค่า เรารวมบันทึกอัตราส่วนของหนังสือการตลาด (BM) เป็นตัวแปรควบคุมในรายละเอียดทั้งหมด X ในตารางสรุปผล ด้วยสัมประสิทธิ์ BM ละ คอลัมน์ (1) และ (3) ให้ผลลัพธ์สำหรับตัวอย่างเต็มรูปแบบ มี G เป็น regressor สำคัญ คอลัมน์ (2) และ (4) ให้ผลลัพธ์สำหรับตัวอย่างบริษัทในประชาธิปไตยที่จำกัด และเผด็จการพอร์ตการลงทุน มีประชาธิปไตยหัวนมเทียมเป็น regressor คีย์ ค่าเฉลี่ยสัมประสิทธิ์ใน G เป็นบวก และที่สำคัญในทั้งสองชุด regressions สอดคล้องกับผลลัพธ์เหล่านี้ เราพบว่า สัมประสิทธิ์เฉลี่ยบนหุ่นประชาธิปไตยสำคัญในทั้งสองชุด regressions และลบ เราสรุปว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วรรณกรรมที่สำคัญย้อนหลังอย่างน้อย ปัญหานี้จะรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้จัดการยึดที่มั่นและสามารถต้านทานศัตรูกิจการ Shleifer ภายใต้มุมมองนี้หากการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายลงทุนดังต่อไปนี้การยอมรับของการป้องกันการปฏิวัติใหม่ที่เพิ่มขึ้นนี้จะเป็นเชิงลบสุทธิมูลค่า บริษัท
เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์เชิงประจักษ์ระหว่างใช้จ่ายเงินทุนและการกำกับดูแลเราคาดถดถอยเฉลี่ยประจำปีสำหรับรายจ่ายลงทุน ในการควบคุมสำหรับโอกาสในการลงทุนที่แตกต่างกันตามมูลค่าและ บริษัท การเจริญเติบโตของเรารวมถึงการเข้าสู่ระบบของหนังสือเล่มนี้ออกสู่ตลาดอัตราส่วน ตารางสรุปผล คอลัมน์ คอลัมน์ ค่าสัมประสิทธิ์เฉลี่ย สอดคล้องกับผลลัพธ์เหล่านี้เราจะพบว่าค่าสัมประสิทธิ์เฉลี่ยในหุ่นประชาธิปไตยเป็นลบและมีความสำคัญในทั้งสองชุดของการถดถอย เราสรุปได้ว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วรรณคดีที่สำคัญย้อนหลังอย่างน้อยก็เบาเมิล [ 1959 ] แมริส [ ] และ [ 1964 1964 , วิลเลียมสัน , ถือว่าผู้จัดการอาจดำเนินการโครงการไม่มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะแยกผลประโยชน์ส่วนตัว ปัญหานี้จะรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้จัดการเป็นที่ยึดที่มั่นและสามารถต้านทานซึ่งครอบครอง [ เจนเซ่นกับ ruback 1983 ; shleifer และ vishny 1989 ] ภายใต้มุมมอง