Papaya. The humble papaya is gainin

Papaya. The humble papaya is gaining credibility in Western medicine for anticancer powers that folk cultures have recognized for generations.
Credit: iStockphoto
The humble papaya is gaining credibility in Western medicine for anticancer powers that folk cultures have recognized for generations.
University of Florida researcher Nam Dang, M.D., Ph.D., and colleagues in Japan have documented papaya's dramatic anticancer effect against a broad range of lab-grown tumors, including cancers of the cervix, breast, liver, lung and pancreas. The researchers used an extract made from dried papaya leaves, and the anticancer effects were stronger when cells received larger doses of the tea.
In a paper published in the Feb. 17 issue of the Journal of Ethnopharmacology, Dang and his colleagues also documented for the first time that papaya leaf extract boosts the production of key signaling molecules called Th1-type cytokines. This regulation of the immune system, in addition to papaya's direct antitumor effect on various cancers, suggests possible therapeutic strategies that use the immune system to fight cancers.
The papaya extract did not have any toxic effects on normal cells, avoiding a common and devastating consequence of many cancer therapy regimens. The success of the papaya extract in acting on cancer without toxicity is consistent with reports from indigenous populations in Australia and his native Vietnam, said Dang, a professor of medicine and medical director of the UF Shands Cancer Center Clinical Trials Office.
"Based on what I have seen and heard in a clinical setting, nobody who takes this extract experiences demonstrable toxicity; it seems like you could take it for a long time -- as long as it is effective," he said.
Researchers exposed 10 different types of cancer cell cultures to four strengths of papaya leaf extract and measured the effect after 24 hours. Papaya slowed the growth of tumors in all the cultures.
To identify the mechanism by which papaya checked the growth of the cultures, the team focused on a cell line for T lymphoma. Their results suggested that at least one of the mechanisms employed by the papaya extract is inducing cell death.
In a similar analysis, the team also looked at the effect of papaya extract on the production of antitumor molecules known as cytokines. Papaya was shown to promote the production of Th1-type cytokines, important in the regulation of the immune system. For that reason, the study findings raise the possibility of future use of papaya extract components in immune-related conditions such as inflammation, autoimmune disease and some cancers.
Bharat B. Aggarwal, Ph.D., a researcher at the University of Texas M.D. Anderson Cancer Center in Houston, already is so convinced of papaya's restorative powers that he has a serving of the fruit every day.
"We have always known that papaya has a lot of interesting things in there," said Aggarwal, a professor in the center's department of experimental therapeutics who was not involved in the UF research. Foremost among papaya's health-promoting agents is papain, papaya's signature enzyme, which is found in both the fruit and the leaves.
"This paper has not gone too much into identifying the components responsible for the activity, which is just fine. I think that is a good beginning," Aggarwal said.
Aggarwal also noted that papaya extract's success in reducing cancer in laboratory cell cultures must next be replicated in animal and human studies.
"I hope Dr. Dang takes it further, because I think we need enthusiastic people like him to move it forward," Aggarwal said.
Dang and a colleague have applied to patent the process to distill the papaya extract through the University of Tokyo; the next step in the research is to identify the specific compounds in the papaya extract active against the cancer cell lines. For this stage, Dang has partnered with Hendrik Luesch, Ph.D., a fellow UF Shands Cancer Center member and a professor of medicinal chemistry. Luesch is an expert in the identification and synthesis of natural products for medicinal purposes, and recently discovered a coral reef compound that inhibits cancer cell growth in cell lines.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มะละกอ มะละกออ่อนน้อมถ่อมตนกำลังได้รับความเชื่อถือในยาต้านมะเร็งอำนาจตะวันตกพื้นบ้านที่มีการรับรู้วัฒนธรรมคนรุ่นเครดิต: iStockphotoมะละกออ่อนน้อมถ่อมตนกำลังได้รับความเชื่อถือในยาต้านมะเร็งอำนาจตะวันตกพื้นบ้านที่มีการรับรู้วัฒนธรรมคนรุ่นมหาวิทยาลัยฟลอริดาวิจัยน้ำดัง แพทยศาสตรบัณฑิต ปริญญาเอก และเพื่อนร่วมงานในญี่ปุ่นได้รับการบันทึกไว้ของมะละกอผลต้านมะเร็งอย่างมากกับความหลากหลายของห้องปฏิบัติการเติบโตเนื้องอก มะเร็งของปากมดลูก เต้านม ตับ ปอด และตับอ่อนรวมทั้งการ นักวิจัยใช้สารสกัดจากใบมะละกออบแห้ง และผลต้านมะเร็งได้มากขึ้นเมื่อเซลล์ได้รับปริมาณขนาดใหญ่ของชาในเอกสารที่เผยแพร่ในฉบับ 17 กุมภาพันธ์สมุด Ethnopharmacology แดง และเพื่อนร่วมงานของเขายัง ได้รับการบันทึกไว้สำหรับครั้งแรก เวลาที่สารสกัดจากใบมะละกอช่วยเพิ่มการผลิตของโมเลกุลส่งสัญญาณสำคัญที่เรียกว่า cytokines ชนิด Th1 กฎระเบียบนี้ของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากของมะละกอผล antitumor ตรงมะเร็งชนิดต่าง ๆ แนะนำกลยุทธ์การรักษาเป็นไปได้ที่ใช้ระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับโรคมะเร็งสารสกัดมะละกอไม่ได้มีผลเป็นพิษเซลล์ปกติ หลีกเลี่ยงผลทั่วไป และทำลายล้างจากกิจกรรมบำบัดมะเร็งหลาย ความสำเร็จของสารสกัดมะละกอในขึ้นโรคมะเร็งโดยไม่เป็นพิษไม่สอดคล้องกับรายงานจากประชากรพื้นเมืองในออสเตรเลียและเวียดนามเขาพื้นเมือง แดง อาจารย์ของแพทย์และผู้อำนวยการแพทย์ UF โรงพยาบาล Shands มะเร็งศูนย์คลินิกทดลอง Office กล่าว"จากสิ่งที่ผมได้เห็น และได้ยินในทางคลินิก ไม่มีใครที่ใช้สารสกัดนี้ประสบความเป็นพิษสามารถ เหมือนว่าคุณสามารถใช้เวลานาน - ตราบใดที่มีประสิทธิภาพ เขากล่าวว่านักวิจัยเปิดเผย 10 ชนิดของเซลล์มะเร็งเพื่อจุดแข็งสี่ใบมะละกอสารสกัด และวัดผลหลังจาก 24 ชั่วโมง มะละกอชะลอตัวการเติบโตของเนื้องอกในทุกวัฒนธรรมระบุกลไก โดยมะละกอซึ่งตรวจสอบการเจริญเติบโตของวัฒนธรรม ทีมเน้นสายเซลล์สำหรับแผล T ผลแนะนำว่า อย่างน้อยหนึ่งของกลไกที่ใช้ ด้วยสารสกัดจากมะละกอคือกระตุ้นให้เกิดเซลล์ตายในการวิเคราะห์คล้ายกัน กลุ่มคนดูที่ผลของมะละกอแยกของโมเลกุลที่เรียกว่า cytokines antitumor การผลิต มะละกอถูกแสดงเพื่อส่งเสริมการผลิตของ cytokines ชนิด Th1 สิ่งสำคัญในการควบคุมของระบบภูมิคุ้มกัน สำหรับเหตุผลที่ ผลการศึกษาวิจัยเพิ่มความเป็นไปได้ของการใช้งานของส่วนประกอบของสารสกัดจากมะละกอในเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันเช่นโรคภูมิ การอักเสบ และมะเร็งบางบารัท B. Aggarwal, Ph.D. นักวิจัยที่ศูนย์มะเร็งมหาวิทยาลัยเท็กซัสแพทยแอนเดอร์สันในฮูสตัน แล้วดังนั้นเชื่อมั่นของของมะละกอฟื้นฟูอำนาจที่เขามีการเสิร์ฟผลไม้ทุกวัน"เราได้ชื่อว่า มะละกอมีจำนวนมากสิ่งที่น่าสนใจใน กล่าวว่า Aggarwal อาจารย์ในแผนกของศูนย์ของ therapeutics ทดลองที่ไม่เกี่ยวข้องกับการวิจัย UF สำคัญที่สุดในหมู่ตัวแทนการส่งเสริมสุขภาพของมะละกอมีเอนไซม์ปาเปน เอนไซม์ลายเซ็นของมะละกอ ซึ่งพบในผลไม้และใบไม้"เอกสารนี้ไม่หายมากเกินไปในส่วนที่รับผิดชอบกิจกรรม ซึ่งเป็นเพียงการระบุมา ผมคิดว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี Aggarwal กล่าวAggarwal ยังตั้งข้อสังเกตว่า สารสกัดมะละกอประสบความสำเร็จในการลดมะเร็งในห้องปฏิบัติการเซลล์วัฒนธรรมต้องต่อถูกจำลองแบบในการศึกษาสัตว์ และมนุษย์"หวังว่าดร. Dang ใช้มันต่อไป เพราะผมคิดว่า เราต้องการคนมีความกระตือรือร้นชอบเขาเลื่อนไปข้างหน้า Aggarwal กล่าวแดงและเพื่อนร่วมงานได้ใช้กระบวนการกลั่นแยกมะละกอผ่านมหาวิทยาลัยโตเกียว สิทธิบัตร ขั้นตอนถัดไปในการวิจัยคือการ ระบุเฉพาะสารประกอบในสารสกัดมะละกอที่ใช้กับบรรทัดของเซลล์มะเร็ง สำหรับขั้นตอนนี้ แดงได้ร่วมมือกับเฮนดริก Luesch, Ph.D. ศูนย์มะเร็งโรงพยาบาล Shands UF สมาชิกเพื่อนและอาจารย์ของยาเคมี Luesch เป็นผู้เชี่ยวชาญในการระบุและการสังเคราะห์ของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อการรักษาโรค และเพิ่ง ค้นพบปะการังสารประกอบที่ยับยั้งเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในเซลล์บรรทัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะละกอ. มะละกออ่อนน้อมถ่อมตนกำลังได้รับความน่าเชื่อถือในการแพทย์ตะวันตกพลังต้านมะเร็งที่วัฒนธรรมพื้นบ้านได้รับการยอมรับสำหรับคนรุ่น.
เครดิต: iStockphoto
. มะละกออ่อนน้อมถ่อมตนกำลังได้รับความน่าเชื่อถือในการแพทย์ตะวันตกพลังต้านมะเร็งที่วัฒนธรรมพื้นบ้านได้รับการยอมรับสำหรับคนรุ่น
มหาวิทยาลัยฟลอริดาวิจัยน้ำดัง, MD, Ph.D. , และเพื่อนร่วมงานในประเทศญี่ปุ่นมีเอกสารผลมะละกอต้านมะเร็งอย่างมากกับความหลากหลายของเนื้องอกในห้องปฏิบัติการปลูกรวมทั้งโรคมะเร็งของปากมดลูกเต้านมตับปอดและตับอ่อน นักวิจัยได้ใช้สารสกัดทำจากใบมะละกออบแห้งและผลกระทบต้านมะเร็งแข็งแกร่งเมื่อเซลล์ได้รับในปริมาณที่มีขนาดใหญ่ของชา.
ในบทความที่ตีพิมพ์ในฉบับ 17 กุมภาพันธ์ของวารสาร ethnopharmacology แดงและเพื่อนร่วมงานของเขายังได้รับการบันทึกสำหรับ ครั้งแรกที่สารสกัดจากใบมะละกอช่วยเพิ่มการผลิตของสัญญาณโมเลกุลที่สำคัญที่เรียกว่า Th1 cytokines ชนิด กฎระเบียบของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนี้นอกเหนือไปจากผลต้านมะละกอโดยตรงต่อการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ แสดงให้เห็นกลยุทธ์การรักษาเป็นไปได้ที่ใช้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง.
สารสกัดจากมะละกอไม่ได้มีความเป็นพิษใด ๆ ในเซลล์ปกติหลีกเลี่ยงผลทั่วไปและการทำลายล้าง ของยารักษาโรคมะเร็งหลาย ความสำเร็จของสารสกัดจากมะละกอในการทำหน้าที่เกี่ยวกับมะเร็งโดยไม่เป็นพิษมีความสอดคล้องกับรายงานจากประชากรพื้นเมืองในออสเตรเลียและพื้นเมืองเวียดนามเขาแดงศาสตราจารย์ด้านการแพทย์และผู้อำนวยการแพทย์ของ UF เงื้อมมือศูนย์มะเร็งสำนักงานการทดลองทางคลินิกกล่าวว่า.
"ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ ผมได้เห็นและได้ยินในการตั้งค่าทางคลินิกไม่มีใครที่ใช้สารสกัดนี้แสดงให้เห็นความเป็นพิษประสบการณ์มันดูเหมือนว่าคุณอาจจะใช้มันเป็นเวลานาน - ตราบใดที่มันมีประสิทธิภาพ "เขากล่าว.
นักวิจัยสัมผัส 10 ชนิดที่แตกต่างกันของโรคมะเร็ง เซลล์เพาะเลี้ยงถึงสี่จุดแข็งของสารสกัดจากใบมะละกอและวัดผลที่ได้หลังจาก 24 ชั่วโมง มะละกอชะลอการเจริญเติบโตของเนื้องอกในวัฒนธรรมทั้งหมด.
เพื่อระบุกลไกที่มะละกอตรวจสอบการเจริญเติบโตของวัฒนธรรมทีมมุ่งเน้นไปที่สายพันธุ์ของเซลล์สำหรับ T โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ผลของพวกเขาชี้ให้เห็นว่าอย่างน้อยหนึ่งในกลไกการว่าจ้างจากสารสกัดจากมะละกอที่มีการกระตุ้นให้เกิดการตายของเซลล์.
ในการวิเคราะห์ที่คล้ายกันทีมยังมองผลของสารสกัดจากมะละกอในการผลิตของโมเลกุลต้านที่เรียกว่า cytokines มะละกอถูกนำมาแสดงเพื่อส่งเสริมการผลิตของ Th1 ชนิด cytokines ที่สำคัญในการควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน สำหรับเหตุผลที่ผลการศึกษายกไปได้ของการใช้งานในอนาคตของส่วนประกอบของสารสกัดจากมะละกอในสภาวะภูมิคุ้มกันที่เกี่ยวข้องเช่นการอักเสบ, โรคภูมิต้านทานผิดปกติและโรคมะเร็งบางชนิด. the
Bharat Aggarwal บี, Ph.D. , นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสแมรี่แลนด์ เดอร์สันศูนย์มะเร็งในเมืองฮุสตันแล้วเพื่อให้ความเชื่อมั่นของผู้มีอำนาจบูรณะมะละกอว่าเขามีการให้บริการของผลไม้ทุกวัน.
"เราได้รู้จักกันเสมอว่ามะละกอมีจำนวนมากของสิ่งที่น่าสนใจในการมี" Aggarwal เป็นอาจารย์ในศูนย์กล่าวว่า แผนกของการบำบัดการทดลองที่ไม่ได้เกี่ยวข้องในการวิจัย UF สำคัญที่สุดในหมู่ส่งเสริมสุขภาพตัวแทนมะละกอเป็นปาเปนเอนไซม์ลายเซ็นมะละกอซึ่งจะพบได้ในทั้งผลไม้และใบ.
"บทความนี้ไม่ได้ไปมากเกินไปในการระบุส่วนประกอบที่รับผิดชอบในกิจกรรมซึ่งเป็นเพียงแค่ปรับ. ผมคิดว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี "Aggarwal กล่าว.
Aggarwal ยังตั้งข้อสังเกตว่าประสบความสำเร็จสารสกัดจากมะละกอในการลดโรคมะเร็งในเซลล์เพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการจะต้องต่อไปทำซ้ำในสัตว์และการศึกษาของมนุษย์.
" ผมหวังว่าดร. แดงใช้มันต่อไปเพราะผมคิดว่าเราต้องการคนที่มีความกระตือรือร้น เหมือนเขาจะย้ายไปข้างหน้า "Aggarwal กล่าว.
แดงและเพื่อนร่วมงานได้นำไปใช้สิทธิบัตรกระบวนการที่จะสกัดสารสกัดจากมะละกอผ่านมหาวิทยาลัยโตเกียว; ขั้นตอนต่อไปในการวิจัยคือการระบุสารประกอบเฉพาะในสารสกัดจากมะละกอต้านเซลล์มะเร็ง สำหรับขั้นตอนนี้แดงได้ร่วมมือกับ Hendrik Luesch, Ph.D. , สมาชิก UF เงื้อมมือศูนย์มะเร็งเพื่อนและอาจารย์ของเคมีสมุนไพร Luesch เป็นผู้เชี่ยวชาญในการระบุและการสังเคราะห์ของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อการรักษาโรคและเพิ่งค้นพบสารประกอบแนวปะการังที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในเซลล์