for example, which focuses on 10 ye

for example, which focuses on 10 year olds, reported that “there is a strong association between the amount of reading for pleasure children reported and their reading achievement.” Similarly, the Programmer for International Student Assessment (PISA), which is concerned with 15 year olds, reported in 2010 that “in almost all countries, students who enjoy reading are significantly more likely to be good readers.” Researchers in England2 have noted that “as students become engaged readers, they provide themselves with self-generated learning opportunities that are equivalent to several years of education.” They also reported that children with a positive attitude to reading are more likely to practice the reading skills they are learning at school. Children who are read to every day at age three have a vocabulary at age five which is nearly two months more advanced than those who are not. A child taken to the library on a monthly basis from ages three to five is two and a half months ahead of an equivalent child at age five who did not visit the library so regularly. 3 There is also evidence that reading for pleasure can benefit children and young people beyond the classroom and into their adult life, in turn enriching the world around us.
According to the International Reading Association4 : Adolescents entering the adult world in the 21st century will read and write more than at any other time in human history. They will need advanced levels of literacy to perform their jobs, run their households, act as citizens, and conduct their personal lives. They will need literacy to cope with the flood of information they will find everywhere they turn. They will need literacy to feed their imaginations so they can create the world of the future. In a complex and sometimes even dangerous world, their ability to read can be crucial. Poor reading skills correlate heavily with lack of employment, lower wages, and fewer opportunities for advancement. Significantly worse reading skills are found among prisoners than in the general adult population5. Research also indicates that reading and taking part in social reading activities such as reading groups help people relax, support learning, combat isolation and build social capital, help develop confidence and self-esteem and promote enjoyment and well-being6. Reading can provide an escape from day-to-day concerns and can be a wonderful way of relaxing and relieving stress. There is a developing evidence base for the health and well-being benefits of reading, with evidence suggesting a correlation between reading and a variety of physical and mental health outcomes7. For example, the NHS has introduced a ‘Reading and You’ scheme, which encourages mental health patients to read more as part of their therapy for reducing stress and overcoming anxiety, depression and social isolation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เช่นซึ่งมุ่งเน้นไปที่เด็กอายุ 10 ปีรายงานว่า "มีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างปริมาณของการอ่านสำหรับเด็กที่มีความสุขรายงานและผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านของพวกเขา." ในทำนองเดียวกัน, Programmer สำหรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA) ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ 15 ปีรายงานในปี 2010 ว่า "ในเกือบทุกประเทศนักเรียนที่สนุกกับการอ่านอย่างมีนัยสำคัญแนวโน้มที่จะเป็นผู้อ่านที่ดี." นักวิจัยใน England2 ได้ตั้งข้อสังเกตว่า "ในขณะที่นักเรียนเป็นผู้อ่านมีส่วนร่วมที่พวกเขาให้ตัวเองด้วยการเรียนรู้ด้วยตนเองที่สร้างโอกาสที่ เทียบเท่ากับหลายปีของการศึกษา. "พวกเขายังมีรายงานว่าเด็กที่มีทัศนคติที่ดีในการอ่านมีแนวโน้มที่จะฝึกทักษะการอ่านที่กำลังเรียนรู้ที่โรงเรียน เด็กที่กำลังอ่านให้ทุกวันที่อายุสามมีคำศัพท์ที่ห้าอายุซึ่งเป็นเกือบสองเดือนที่สูงขึ้นกว่าผู้ที่ไม่ได้ เด็กนำตัวไปที่ห้องสมุดเป็นประจำทุกเดือนจากทุกเพศทุกวัยสามถึงห้าสองเดือนครึ่งข้างหน้าของเด็กเทียบเท่าที่ห้าอายุที่ไม่ได้เข้าเยี่ยมชมห้องสมุดเพื่อให้เป็นประจำ 3 นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่าการอ่านเพื่อความสุขจะได้รับประโยชน์เด็กและเยาวชนนอกห้องเรียนและเข้าสู่ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของพวกเขาในทางกลับกันการเพิ่มคุณค่าโลกรอบตัวเรา.
ตามที่อ่านหนังสือนานาชาติ Association4: วัยรุ่นเข้าสู่โลกของผู้ใหญ่ในศตวรรษที่ 21 จะอ่าน และเขียนมากกว่าในเวลาอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ พวกเขาจะต้องอยู่ในระดับสูงของความรู้ในการดำเนินงานของพวกเขาเรียกผู้ประกอบการของพวกเขาทำหน้าที่เป็นพลเมืองและดำเนินชีวิตส่วนตัวของพวกเขา พวกเขาจะต้องความรู้ที่จะรับมือกับน้ำท่วมของข้อมูลที่พวกเขาจะได้พบกับทุกที่ที่พวกเขาเปิด พวกเขาจะต้องอ่านออกเขียนได้ให้อาหารจินตนาการของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างโลกในอนาคต ในที่ซับซ้อนและบางครั้งโลกอันตรายแม้กระทั่งความสามารถในการอ่านสามารถที่สำคัญ ทักษะการอ่านที่น่าสงสารมีความสัมพันธ์อย่างมากกับการขาดของการจ้างงานที่ต่ำกว่าค่าจ้างและโอกาสน้อยสำหรับความก้าวหน้า อย่างมีนัยสำคัญที่เลวร้ายยิ่งทักษะการอ่านจะพบว่าในหมู่นักโทษกว่าในผู้ใหญ่ทั่วไป population5 การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าการอ่านและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมการอ่านเช่นการอ่านกลุ่มช่วยให้ผู้คนผ่อนคลายการเรียนรู้ที่สนับสนุนการแยกการต่อสู้และสร้างทุนทางสังคมช่วยพัฒนาความเชื่อมั่นและความนับถือตนเองและส่งเสริมความเพลิดเพลินและความ being6 อ่านสามารถให้หนีออกมาจากความกังวลแบบวันต่อวันและสามารถเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมของการผ่อนคลายและบรรเทาความเครียด มีหลักฐานการพัฒนาประโยชน์ต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของการอ่านคือมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างการอ่านและความหลากหลายของ outcomes7 สุขภาพกายและสุขภาพจิต ยกตัวอย่างเช่นพลุกพล่านได้แนะนำ 'การอ่านและคุณ' โครงการซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้ป่วยสุขภาพจิตในการอ่านมากขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาของพวกเขาสำหรับการลดความเครียดและการเอาชนะความวิตกกังวลภาวะซึมเศร้าและการแยกทางสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตัวอย่างเช่น ซึ่งเน้น 10 ปี รายงานว่า " มีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างปริมาณการอ่านสำหรับเด็กความสุขรายงานและผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านของพวกเขา . " ในทำนองเดียวกัน โปรแกรมเมอร์สำหรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ ( PISA ) ซึ่งเกี่ยวข้องกับ 15 ปี รายงาน 2010 " ในประเทศเกือบทั้งหมดนักเรียนที่ชอบอ่านมีมากมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้อ่านที่ดี . " นักวิจัย england2 ได้กล่าวไว้ว่า " เป็นนักเรียนหมั้นผู้อ่านที่พวกเขาให้ตัวเอง ด้วยตนเองสร้างโอกาสการเรียนรู้ที่เทียบเท่ากับหลายปีของการศึกษา" พวกเขายังรายงานว่า เด็กที่มีทัศนคติที่ดีต่อการอ่าน ได้มีโอกาสฝึกทักษะการอ่านที่พวกเขาเรียนอยู่ที่โรงเรียน เด็กที่อ่านทุกวันตอนอายุ 3 ปี มีศัพท์ที่อายุห้าซึ่งเป็นเกือบสองเดือนที่สูงขึ้นกว่าผู้ที่ไม่ได้เด็กไปห้องสมุดบนพื้นฐานรายเดือนตั้งแต่วัยสามถึงห้า สองเดือนครึ่งข้างหน้าเทียบเท่าเด็กอายุห้าคนที่ไม่ได้ชมห้องสมุดอย่างสม่ําเสมอ 3 นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่า การอ่านเพื่อความเพลิดเพลินสามารถเป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน นอกห้องเรียนและในชีวิตผู้ใหญ่ของพวกเขา จะสมบูรณ์ โลกรอบตัวเรา
ตามไปอ่าน association4 นานาชาติ : วัยรุ่นเข้าสู่โลกของผู้ใหญ่ในศตวรรษที่ 21 จะอ่านและเขียนมากขึ้นกว่าเวลาอื่นใดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ พวกเขาจะต้องใช้ระดับสูงเพื่อดำเนินการงานของพวกเขา วิ่งครอบครัวของพวกเขาเป็นพลเมือง และนำชีวิตส่วนตัวของพวกเขาพวกเขาจะต้องใช้เพื่อรับมือกับน้ำท่วมของข้อมูลที่พวกเขาจะพบทุกที่ที่พวกเขาเปิด พวกเขาจะต้องใช้จินตนาการเพื่อให้อาหารของพวกเขาดังนั้นพวกเขาสามารถสร้างโลกแห่งอนาคต ในที่ซับซ้อนและบางครั้งแม้แต่โลกอันตรายของพวกเขาสามารถอ่านได้เรื่อยๆ ทักษะการอ่านจนมีความสัมพันธ์อย่างมากกับขาดการจ้างงานค่าจ้างลดลงและมีโอกาสน้อยลงสำหรับความก้าวหน้าเลวลงอย่างมากทักษะการอ่านที่พบในหมู่นักโทษกว่าใน population5 ผู้ใหญ่ทั่วไป การวิจัยยังพบว่า การอ่าน และมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม เช่น การอ่านการอ่านกลุ่มช่วยให้คนผ่อนคลายสนับสนุนการเรียนรู้การต่อสู้และสร้างทุนสังคม ช่วยพัฒนาความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตนเอง และส่งเสริมความเพลิดเพลินและ well-being6 .การอ่านสามารถให้หนีจากความกังวลแบบวันต่อวัน และสามารถเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมของการผ่อนคลายและบรรเทาความเครียด มีการพัฒนาหลักฐานฐานเพื่อประโยชน์สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของการอ่าน โดยมีหลักฐานชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างการอ่านและความหลากหลายของ outcomes7 สุขภาพกายและสุขภาพจิต ตัวอย่างเช่น รัฐบาล ได้เปิดตัว ' การอ่านและคุณแผนซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้ป่วยสุขภาพจิตเพื่ออ่านเพิ่มเติมเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาของพวกเขาเพื่อลดความเครียดและการเอาชนะความวิตกกังวลซึมเศร้าและการแยกทางสังคม .