3.1.8.3 มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระ

3.1.8.3 มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
1) ระยะก่อสร้าง
(1) การวางท่อในพื้นที่ที่พบคราบเกลือบนผิวดิน การขุดเปิดหน้าดินต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น การขุดเปิดหน้าดินและการกองดินควรจำกัดเฉพาะในพื้นที่ก่อสร้างเท่านั้น และไม่ควรนำดินที่ขุดออกนอกพื้นที่
(2) ปลูกพืชคลุมดินในบริเวณที่ดำเนินการเปิดหน้าดินเพื่อวางแนวท่อระบบเครือข่ายน้ำแล้วเสร็จ เพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน ปรับปรุงบำรุงดินที่เสื่อมโทรม ป้องกันวัชพืช ช่วยให้ดินอุ้มน้ำได้มากขึ้นและรักษาความชื้นไว้ในดินในฤดูแล้ง
(3) จำกัดพื้นที่ในการก่อสร้าง เพื่อให้ดินถูกรบกวนน้อยที่สุด
(4) จัดพื้นที่กองดินจากการขุดเปิดวางท่อส่งน้ำในพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อรอการฝังกลบ
2) ระยะดำเนินการ
(1) การเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน และการรักษาสมดุลย์ของธาตุอาหารในดินให้อยู่ในระดับที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยาวนาน
(2) การส่งเสริมให้ทำการเกษตรแบบยั่งยืน โดยกำหนดระบบการปลูกพืชที่เหมาะสมและเผยแพร่ความรู้ด้านการกำจัดศัตรูพืชโดยวิธีการทางชีวภาพหรือการใช้สารเคมีที่สลายตัวโดยขบวนการทางธรรมชาติได้เร็ว
(3) ควรส่งเสริมให้มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ได้แก่ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยพืชสด ให้มากขึ้นเพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมีตามความเหมาะสม สำหรับการลดการปนเปื้อนของสารเคมี สามารถกระทำได้โดย การเลือกใช้พันธุ์พืชที่ปราศจากโรคพืช เพื่อลดการใช้สารเคมี และส่งเสริมให้มีการใช้สารจุลชีวภาพในการกำจัดศัตรูพืช ปัจจุบันที่ใช้กันแพร่หลายได้แก่ สารที่ผลิตจากเชื้อแบคทีเรีย มีฤทธิ์ใน การฆ่าแมลงและสารที่ผลิตจากเชื้อรา และสารสกัดจากพืชต่างๆ เช่น สะเดา ขิง ข่า ตะไคร้ เป็นต้น- ติดต่อประสานงานขอความร่วมมือกับกรมพัฒนาที่ดินและกรมส่งเสริมการเกษตรในการให้ความรู้กับเกษตรกรในพื้นที่ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อลดการชะล้างพังทลายของดินและปริมาณตะกอนแขวนลอยในลำน้ำ
(4) การเพิ่มอินทรียวัตถุอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้ดินมีความสามารถในการดูดยึดธาตุอาหารได้มากขึ้น ทำให้ความจุในการแลกเปลี่ยนประจุบวก (CEC : Cation Exchange Capacity) สูงขึ้น ตลอดจนทำให้ดินรักษาโครงสร้างทางกายภาพของดินไม่ให้เกิดความแน่นทึบ
(5) การเพิ่มปุ๋ยเคมีให้กับดินในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อเป็นการเติมความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินที่ต้องสูญเสียไปกับการนำเอาธาตุอาหารไปกับผลผลิตพืชทุกฤดูกาลเพาะปลูกแมลงและสารที่ผลิตจากเชื้อรา และสารสกัดจากพืชต่างๆ เช่น สะเดา ขิง ข่า ตะไคร้ เป็นต้น
(6) ติดต่อประสานงานขอความร่วมมือกับกรมพัฒนาที่ดินและกรมส่งเสริมการเกษตรในการให้ความรู้กับเกษตรกรในพื้นที่ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อลดการชะล้างพังทลายของดินและปริมาณตะกอนแขวนลอยในลำน้ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.1.8.3 มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
1) ระยะก่อสร้าง
(1) เช่นการวางท่อในพื้นที่ที่พบคราบเกลือบนผิวดินการขุดเปิดหน้าดินต้องระมัดระวังเป็นพิเศษการขุดเปิดหน้าดินและการกองดินควรจำกัดเฉพาะในพื้นที่ก่อสร้างเท่านั้นและไม่ควรนำดินที่ขุดออกนอกพื้นที่
(2) ปลูกพืชคลุมดินในบริเวณที่ดำเนินการเปิดหน้าดินเพื่อวางแนวท่อระบบเครือข่ายน้ำแล้วเสร็จเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดินปรับปรุงบำรุงดินที่เสื่อมโทรมป้องกันวัชพืช (3) จำกัดพื้นที่ในการก่อสร้างเพื่อให้ดินถูกรบกวนน้อยที่สุด
เพื่อรอการฝังกลบจัดพื้นที่กองดินจากการขุดเปิดวางท่อส่งน้ำในพื้นที่ที่เหมาะสม (4)
2) ระยะดำเนินการ
(1) การเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินและการรักษาสมดุลย์ของธาตุอาหารในดินให้อยู่ในระดับที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยาวนาน
(2) การส่งเสริมให้ทำการเกษตรแบบยั่งยืนโดยกำหนดระบบการปลูกพืชที่เหมาะสมและเผยแพร่ความรู้ด้านการกำจัดศัตรูพืชโดยวิธีการทางชีวภาพหรือการใช้สารเคมีที่สลายตัวโดยขบวนการทางธรรมชาติได้เร็ว
(3) ควรส่งเสริมให้มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ได้แก่ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยพืชสดให้มากขึ้นเพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมีตามความเหมาะสมสำหรับการลดการปนเปื้อนของสารเคมีสามารถกระทำได้โดย เพื่อลดการใช้สารเคมีและส่งเสริมให้มีการใช้สารจุลชีวภาพในการกำจัดศัตรูพืชปัจจุบันที่ใช้กันแพร่หลายได้แก่สารที่ผลิตจากเชื้อแบคทีเรียมีฤทธิ์ในการฆ่าแมลงและสารที่ผลิตจากเชื้อราและสารสกัดจากพืชต่าง ๆ สะเดาขิงข่าตะไคร้เป็นต้น-ติดต่อประสานงานขอความร่วมมือกับกรมพัฒนาที่ดินและกรมส่งเสริมการเกษตรในการให้ความรู้กับเกษตรกรในพื้นที่ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ (4) การเพิ่มอินทรียวัตถุอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้ดินมีความสามารถในการดูดยึดธาตุอาหารได้มากขึ้นทำให้ความจุในการแลกเปลี่ยนประจุบวก (พบกับ CEC: ตลอดจนทำให้ดินรักษาโครงสร้างทางกายภาพของดินไม่ให้เกิดความแน่นทึบสูงขึ้น cation Exchange กำลัง)
(5) การเพิ่มปุ๋ยเคมีให้กับดินในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อเป็นการเติมความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินที่ต้องสูญเสียไปกับการนำเอาธาตุอาหารไปกับผลผลิตพืชทุกฤดูกาลเพาะปลูกแมลงและสารที่ผลิตจากเชื้อรา เช่นสะเดาขิงข่าตะไคร้เป็นต้น
(6) ติดต่อประสานงานขอความร่วมมือกับกรมพัฒนาที่ดินและกรมส่งเสริมการเกษตรในการให้ความรู้กับเกษตรกรในพื้นที่ในการอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อลดการชะล้างพังทลายของดินและปริมาณตะกอนแขวนลอยในลำน้ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.1.8.3
ระยะก่อสร้าง
(1) เช่น
ปรับปรุงบำรุงดินที่เสื่อมโทรมป้องกันวัชพืช
ที่สุด จำกัด พื้นที่ในการก่อสร้างเพื่อให้ดินถูกรบกวนน้อย
(4) เพื่อรอการฝังกลบ
2) ระยะดำเนินการ
(1) การเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน ได้แก่ ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยพืชสด สำหรับการลดการปนเปื้อนของสารเคมีสามารถกระทำได้โดย เพื่อลดการใช้สารเคมี ปัจจุบันที่ใช้กันแพร่หลาย ได้แก่ สารที่ผลิตจากเชื้อแบคทีเรียมีฤทธิ์ฆ่าแมลงและสารที่ผลิตจากเชื้อราและสารสกัดจากพืชต่างๆเช่นสะเดาขิงข่าตะไคร้เป็นต้นในการ - (CEC: แลกเปลี่ยนแคทไอออนความจุ) สูงขึ้น และสารสกัดจากพืชต่างๆเช่นสะเดาขิงข่าตะไคร้เป็นต้น(6)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.1.8.3 มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมระยะก่อสร้าง

1 )( 1 ) การวางท่อในพื้นที่ที่พบคราบเกลือบนผิวดินการขุดเปิดหน้าดินต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเช่นการขุดเปิดหน้าดินและการกองดินควรจำกัดเฉพาะในพื้นที่ก่อสร้างเท่านั้นและไม่ควรนำดินที่ขุดออกนอกพื้นที่
( 2 ) ปลูกพืชคลุมดินในบริเวณที่ดำเนินการเปิดหน้าดินเพื่อวางแนวท่อระบบเครือข่ายน้ำแล้วเสร็จเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดินปรับปรุงบำรุงดินที่เสื่อมโทรมป้องกันวัชพืช( 3 ) จำกัดพื้นที่ในการก่อสร้างเพื่อให้ดินถูกรบกวนน้อยที่สุด
( 4 ) จัดพื้นที่กองดินจากการขุดเปิดวางท่อส่งน้ำในพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อรอการฝังกลบ
2 )
ระยะดำเนินการ( 1 ) การเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินและการรักษาสมดุลย์ของธาตุอาหารในดินให้อยู่ในระดับที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยาวนาน
( 2 ) การส่งเสริมให้ทำการเกษตรแบบยั่งยืนโดยกำหนดระบบการปลูกพืชที่เหมาะสมและเผยแพร่ความรู้ด้านการกำจัดศัตรูพืชโดยวิธีการทางชีวภาพหรือการใช้สารเคมีที่สลายตัวโดยขบวนการทางธรรมชาติได้เร็ว
( 3 ) ควรส่งเสริมให้มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ได้แก่ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยพืชสดให้มากขึ้นเพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมีตามความเหมาะสมสำหรับการลดการปนเปื้อนของสารเคมีสามารถกระทำได้โดยเพื่อลดการใช้สารเคมีและส่งเสริมให้มีการใช้สารจุลชีวภาพในการกำจัดศัตรูพืชปัจจุบันที่ใช้กันแพร่หลายได้แก่สารที่ผลิตจากเชื้อแบคทีเรียมีฤทธิ์ในการฆ่าแมลงและสารที่ผลิตจากเชื้อราและสารสกัดจากพืชต่างๆสะเดาขิงข่าตะไคร้เป็นต้น - ติดต่อประสานงานขอความร่วมมือกับกรมพัฒนาที่ดินและกรมส่งเสริมการเกษตรในการให้ความรู้กับเกษตรกรในพื้นที่ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ( 4 ) การเพิ่มอินทรียวัตถุอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้ดินมีความสามารถในการดูดยึดธาตุอาหารได้มากขึ้นทำให้ความจุในการแลกเปลี่ยนประจุบวก ( CEC :ความจุแลกเปลี่ยนไอออนบวก ) สูงขึ้นตลอดจนทำให้ดินรักษาโครงสร้างทางกายภาพของดินไม่ให้เกิดความแน่นทึบ
( 5 ) การเพิ่มปุ๋ยเคมีให้กับดินในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อเป็นการเติมความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินที่ต้องสูญเสียไปกับการนำเอาธาตุอาหารไปกับผลผลิตพืชทุกฤดูกาลเพาะปลูกแมลงและสารที่ผลิตจากเชื้อราเช่นสะเดาขิงข่าตะไคร้เป็นต้น
( 6 ) ติดต่อประสานงานขอความร่วมมือกับกรมพัฒนาที่ดินและกรมส่งเสริมการเกษตรในการให้ความรู้กับเกษตรกรในพื้นที่ในการอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อลดการชะล้างพังทลายของดินและปริมาณตะกอนแขวนลอยในลำน้ำ