1.2. Inventory performance measures

1.2. Inventory performance measures
In inventory management a set of performance measures are used to express the quality of the policy. A well known performance
measure is the stockout frequency A (percentage of time there is no stock). In case of a normal demand this measure
can be expressed using the normal cumulative distribution and its loss function. The stockout frequency expression may
vary depending on the replenishment policy. We will refer here to the ðr;QÞ policy in which an order of size Q is placed as
soon as the inventory position falls to or below the reorder point r. In Section 4.9 from Hadley and Within [10] the normal
demand approximation is already discussed and they make use of (5) to express the considered performance measure and an
additional root-finding method is assumed to compute the inverse function. Zipkin [11] expresses in Section 6.4.3 the stockout
frequency as (6) and this can be simplified in practice for most cases to (7). So computing the optimal reorder point r
value requires the function

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1.2. วัดสินค้าคงคลังการ ตั้งค่าของการประเมินประสิทธิภาพจะใช้เพื่อแสดงคุณภาพของนโยบาย ประสิทธิภาพการทำงานรู้จักวัดเป็นความถี่สต็อก (เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ไม่มีหุ้น) ในกรณีปกติต้องวัดนี้สามารถถูกแสดงโดยใช้การแจกแจงสะสมปกติและสูญเสียหน้าที่ สต็อกถี่นิพจน์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับนโยบายเพิ่มเติม เราจะดูที่นี่ ðr นโยบาย QÞ ซึ่งวางใบขนาด Q เป็นเร็ว ๆ นี้ เป็นตำแหน่งคง ตกไป หรือต่ำ กว่าการจุด r ในส่วน 4.9 Hadley และภาย ใน [10] ปกติแล้วมีการกล่าวถึงประมาณการความต้องการ และพวกเขาทำ (5) ใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพพิจารณาด่วนและเพิ่มเติมวิธีการค้นหารากสันนิษฐานการคำนวณฟังก์ชันผกผัน Zipkin [11] ที่แสดงในส่วน 6.4.3 การสต็อกความถี่ (6) และนี้สามารถทำได้ง่ายขึ้นในทางปฏิบัติสำหรับกรณีทั่วไป (7) ดังนั้น คำนวณ r จุดสั่งซื้อใหม่ดีที่สุดค่าที่ต้องการทำงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1.2
สินค้าคงคลังวัดประสิทธิภาพในการจัดการสินค้าคงคลังชุดของการวัดประสิทธิภาพที่ใช้ในการแสดงที่มีคุณภาพของนโยบาย ผลงานที่รู้จักกันดีวัดความถี่ stockout ก (ร้อยละของเวลาไม่มีหุ้น) ในกรณีที่มีความต้องการปกติวัดนี้สามารถแสดงโดยใช้การแจกแจงสะสมปกติและฟังก์ชั่นการสูญเสีย การแสดงออกความถี่ stockout อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับนโยบายการเติมเต็ม เราจะดูที่นี่เพื่อดรนโยบายQÞซึ่งในคำสั่งของ Q ขนาดจะถูกวางเป็นเร็วที่สุดเท่าที่ตำแหน่งสินค้าคงคลังตกลงไปด้านล่างหรือสั่งซื้ออาจุด ในมาตรา 4.9 จากนายอำเภอและภายใน [10] ปกติประมาณความต้องการที่จะกล่าวถึงแล้วและพวกเขาทำให้การใช้งาน(5) ที่จะแสดงวัดประสิทธิภาพการพิจารณาและวิธีการหารากที่เพิ่มขึ้นจะถือว่าคำนวณฟังก์ชั่นผกผัน Zipkin [11] เป็นการแสดงออกถึงความในมาตรา 6.4.3 stockout ความถี่เป็น (6) และเรื่องนี้ได้ง่ายในทางปฏิบัติสำหรับกรณีส่วนใหญ่การ (7) ดังนั้นการคำนวณจุดสั่งซื้อที่เหมาะสมอาค่าต้องมีฟังก์ชั่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1.2 คลังชี้วัด
ในการจัดการสินค้าคงคลังชุดของการวัดผลการปฏิบัติงานจะใช้แสดงคุณภาพของนโยบาย ที่รู้จักกันดีคือระบบความเชื่อการปฏิบัติ
วัดความถี่ ( ร้อยละของเวลาที่ไม่มี Stock ) ในกรณีของความต้องการปกติวัดนี้
สามารถแสดงได้โดยใช้ฟังก์ชันการแจกแจงสะสมปกติและการสูญเสียของ ในระบบความเชื่อความถี่การแสดงออกอาจ
ขึ้นอยู่กับการเติมเต็มนโยบาย เราจะอ้างนี่ไปð R ; Q Þนโยบาย ซึ่งเป็นคำสั่งของขนาด Q คือวาง
ทันทีที่สินค้าคงคลังตำแหน่งหล่นหรือด้านล่างจุดสั่งซื้อ อาร์ ในส่วน 4.9 จากแฮดลีย์และภายใน [ 10 ] การประมาณความต้องการปกติ
จะกล่าวแล้ว และพวกเขาใช้ประโยชน์จาก ( 5 ) ด่วน การพิจารณาประสิทธิภาพการวัดและ
เพิ่มเติมว่ารากการหาวิธีการคำนวณฟังก์ชันผกผัน zipkin [ 11 ] แสดงในส่วน 6.4.3 ในระบบความเชื่อ
ความถี่เป็น ( 6 ) และนี้สามารถประยุกต์ในการปฏิบัติสำหรับกรณีส่วนใหญ่ ( 7 ) ดังนั้นการคำนวณจุดสั่งซื้อที่เหมาะสม R
ค่าต้องใช้ฟังก์ชัน