Outstanding Universal ValueBrief sy

Outstanding Universal Value

Brief synthesis

The Historic City of Ayutthaya, founded in 1350, was the second capital of the Siamese Kingdom. It flourished from the 14th to the 18th centuries, during which time it grew to be one of the world’s largest and most cosmopolitan urban areas and a center of global diplomacy and commerce. Ayutthaya was strategically located on an island surrounded by three rivers connecting the city to the sea. This site was chosen because it was located above the tidal bore of the Gulf of Siam as it existed at that time, thus preventing attack of the city by the sea-going warships of other nations. The location also helped to protect the city from seasonal flooding.
The city was attacked and razed by the Burmese army in 1767 who burned the city to the ground and forced the inhabitants to abandon the city. The city was never rebuilt in the same location and remains known today as an extensive archaeological site.
At present, it is located in Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya Province. The total area of the World Heritage property is 289 ha.
Once an important center of global diplomacy and commerce, Ayutthaya is now an archaeological ruin, characterized by the remains of tall prang (reliquary towers) and Buddhist monasteries of monumental proportions, which give an idea of the city’s past size and the splendor of its architecture.
Well-known from contemporary sources and maps, Ayutthaya was laid out according to a systematic and rigid city planning grid, consisting of roads, canals, and moats around all the principal structures. The scheme took maximum advantage of the city’s position in the midst of three rivers and had a hydraulic system for water management which was technologically extremely advanced and unique in the world.
The city was ideally situated at the head of the Gulf of Siam, equi-distant between India and China and well upstream to be protected from Arab and European powers who were expanding their influence in the region even as Ayutthaya was itself consolidating and extending its own power to fill the vacuum left by the fall of Angkor. As a result, Ayutthaya became a center of economics and trade at the regional and global levels, and an important connecting point between the East and the West. The Royal Court of Ayutthaya exchanged ambassadors far and wide, including with the French Court at Versailles and the Mughal Court in Delhi, as well as with imperial courts of Japan and China. Foreigners served in the employ of the government and also lived in the city as private individuals. Downstream from the Ayutthaya Royal Palace there were enclaves of foreign traders and missionaries, each building in their own architectural style. Foreign influences were many in the city and can still be seen in the surviving art and in the architectural ruins.
The Ayutthaya school of art showcases the ingenuity and the creativity of the Ayutthaya civilization as well as its ability to assimilate a multitude of foreign influences. The large palaces and the Buddhist monasteries constructed in the capital, for example at Wat Mahathat and Wat Phra Si Sanphet, are testimony to both the economic vitality and technological prowess of their builders, as well as to the appeal of the intellectual tradition they embodied. All buildings were elegantly decorated with the highest quality of crafts and mural paintings, which consisted of an eclectic mixture of traditional styles surviving from Sukhothai, inherited from Angkor, and borrowed from the 17th and 18th century art styles of Japan, China, India, Persia and Europe, creating a rich and unique expression of a cosmopolitan culture and laying the foundation for the fusion of styles of art and architecture popular throughout the succeeding Rattanakosin Era and onwards.
Indeed, when the capital of the restored kingdom was moved downstream and a new city built at Bangkok, there was a conscious attempt to recreate the urban template and architectural form of Ayutthaya. Many of the surviving architects and builders from Ayutthaya were brought in to work on building the new capital. This pattern of urban replication is in keeping with the urban planning concept in which cities of the world consciously try to emulate the perfection of the mythical city of Ayodhaya. In Thai, the official name for the new capital at Bangkok retains “Ayutthaya” as part of its formal title.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คุณค่าสากลที่โดดเด่น

สังเคราะห์สั้น ๆ

เมืองประวัติศาสตร์ของอยุธยาก่อตั้งขึ้นในปี 1350 เป็นเมืองหลวงที่สองของอาณาจักรสยาม มันเจริญรุ่งเรืองจาก 14 ไปยังศตวรรษที่ 18 ช่วงเวลาที่มันเติบโตขึ้นเป็นหนึ่งของโลกพื้นที่เมืองที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัย​​มากที่สุดและเป็นศูนย์กลางของการเจรจาต่อรองและการพาณิชย์ทั่วโลกอยุธยาตั้งอยู่เชิงกลยุทธ์บนเกาะที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำสามเมืองที่เชื่อมต่อกันไปในทะเล เว็บไซต์นี้ได้รับเลือกเพราะมันตั้งอยู่บนคลื่นของอ่าวไทยในขณะที่มันอยู่ในเวลานั้นดังนั้นการป้องกันการโจมตีของเมืองโดยเรือรบทะเลไปจากประเทศอื่น ๆ สถานที่ยังช่วยในการป้องกันเมืองจากน้ำท่วมตามฤดูกาล.
เมืองที่ถูกทำร้ายและรื้อถอนโดยกองทัพพม่าใน 1767 ที่เผาเมืองไปที่พื้นดินและบังคับให้คนที่อาศัยอยู่จะละทิ้งเมือง เมืองก็ไม่เคยสร้างขึ้นมาใหม่ในตำแหน่งเดียวกันและยังคงเป็นที่รู้จักกันในวันนี้เป็นโบราณส​​ถานที่กว้างขวาง
ในปัจจุบันจะอยู่ในพระนครศรีอยุธยาอำเภอพระนครศรีอยุธยาจังหวัดพื้นที่ทั้งหมดของทรัพย์สินมรดกโลกคือ 289 ฮ่า.
เคยเป็นศูนย์ที่สำคัญของการเจรจาต่อรองและการพาณิชย์ทั่วโลก, อยุธยาตอนนี้ก็คือซากปรักหักพังทางโบราณคดีที่โดดเด่นด้วยซากของปรางค์สูง (อาคารบูชา) และพุทธอารามของสัดส่วนอนุสาวรีย์ที่ให้ ความคิดที่ผ่านมาจากขนาดของเมืองและความงดงามของสถ​​าปัตยกรรม.
ที่รู้จักกันดีจากแหล่งที่ร่วมสมัยและแผนที่อยุธยาถูกวางออกไปตามเมืองตารางระบบและเข้มงวดการวางแผนประกอบด้วยถนนคลองและคูเมืองรอบโครงสร้างหลักโครงการใช้ประโยชน์สูงสุดจากตำแหน่งของเมืองอยู่ในท่ามกลางของแม่น้ำสามสายและมีระบบไฮดรอลิสำหรับการจัดการน้ำซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงมากและไม่ซ้ำกันในโลก
เมืองที่ถูกตั้งอยู่ที่หัวของอ่าวไทย,equi ไกลระหว่างอินเดียและจีนและดีต้นน้ำได้รับการคุ้มครองจากอำนาจอาหรับและยุโรปที่กำลังขยายอิทธิพลของตนในภูมิภาคแม้ในขณะที่อยุธยาเป็นตัวเองและขยายการรวมพลังของมันเองเพื่อเติมสูญญากาศที่เหลือด้วยการล่มสลายของนคร เป็นผลให้อยุธยากลายเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจและการค้าในระดับภูมิภาคและระดับโลก,และจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างตะวันออกและตะวันตก ในราชสำนักของอยุธยามีการแลกเปลี่ยนทูตและกว้างไกลรวมทั้งต่อศาลฝรั่งเศสที่แวร์ซายและโมกุลศาลในนิวเดลีเช่นเดียวกับศาลจักรพรรดิแห่งประเทศญี่ปุ่นและจีน ชาวต่างชาติที่ทำหน้าที่ในการจ้างงานของรัฐบาลและยังอาศัยอยู่ในเมืองที่เป็นเอกชนน้ำจากอยุธยาพระราชวังมี enclaves ของผู้ค้าต่างประเทศและมิชชันนารีในอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ของตัวเองแต่ละคน อิทธิพลจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากในเมืองและยังสามารถเห็นได้ในงานศิลปะมีชีวิตรอดและอยู่ในซากปรักหักพังของสถ​​าปัตยกรรม.
โรงเรียนอยุธยาโชว์ผลงานศิลปะของความฉลาดและความคิดสร้างสรรค์ของอารยธรรมอยุธยาเช่นเดียวกับความสามารถในการดูดซึมสารอาหารหลากหลายของอิทธิพลจากต่างประเทศ พระราชวังขนาดใหญ่และพุทธอารามที่สร้างขึ้นในเมืองหลวงเช่นที่วัดมหาธาตุและวัดพระศรีสรรเพชญ์เป็นพยานหลักฐานที่ทั้งสองพลังทางเศรษฐกิจและความกล้าหาญทางเทคโนโลยีของผู้สร้างของพวกเขา,เช่นเดียวกับการอุทธรณ์ของประเพณีทางปัญญาที่พวกเขาเป็นตัวเป็นตน อาคารทุกหลังได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรามีคุณภาพสูงสุดของงานฝีมือและภาพจิตรกรรมฝาผนังซึ่งประกอบไปด้วยส่วนผสมผสมผสานของรูปแบบดั้งเดิมที่รอดตายจากสุโขทัยได้รับมรดกมาจากนครและที่ยืมมาจากรูปแบบที่ 17 และศตวรรษที่ 18 ศิลปะของญี่ปุ่นจีน, อินเดีย, เปอร์เซีย และยุโรปการสร้างการแสดงออกที่อุดมไปด้วยและเป็นเอกลักษณ์ของว​​ัฒนธรรมที่เป็นสากลและการวางรากฐานสำหรับฟิวชั่นของรูปแบบศิลปะและสถาปัตยกรรมที่นิยมตลอดยุครัตนโกสินทร์ที่ประสบความสำเร็จและเป็นต้นไป
จริงเมื่อเมืองหลวงของอาณาจักรบูรณะถูกย้ายต่อเนื่องและเป็นเมืองที่สร้างขึ้นใหม่ที่ตั้ง bangkok,มีสติพยายามที่จะสร้างแม่แบบในเมืองและรูปแบบสถาปัตยกรรมของอยุธยาคือ หลายของสถ​​าปนิกที่รอดตายและผู้สร้างจากกรุงศรีอยุธยาถูกนำมาในการทำงานในการสร้างเมืองหลวงใหม่ รูปแบบของการจำลองแบบในเมืองนี้ในการรักษาด้วยแนวคิดการวางแผนในเมืองซึ่งเมืองของโลกอย่างมีสติพยายามที่จะเลียนแบบความสมบูรณ์แบบของเมืองในตำนานของอโยธยาในภาษาไทยชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับเมืองหลวงใหม่ที่กรุงเทพฯยังคงมี "อยุธยา" เป็นส่วนหนึ่งของชื่ออย่างเป็นทางการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดดเด่นสากลค่า

โดยย่อการสังเคราะห์

ประวัติศาสตร์เมืองอยุธยา ก่อตั้งขึ้นใน 1350 เป็นเมืองหลวงที่สองของราชอาณาจักรสยาม มันเจริญรุ่งเรืองจากที่ 14 ถึงศตวรรษ 18 ในช่วงเวลาที่จะเติบโตเป็น หนึ่งในที่ใหญ่ที่สุดในโลก และพื้นที่มากที่สุดแห่งเมือง และศูนย์การค้าและการทูตทั่วโลก อยุธยาห้องตั้งอยู่บนเกาะล้อมรอบ ด้วยแม่น้ำสามที่เชื่อมต่อเมืองทะเล เว็บไซต์นี้ถูกเลือก เพราะมันถูกอยู่เหนือกระบอกสูบบ่าของอ่าวไทยเป็นมันอยู่ที่นั้น ป้องกันการโจมตีของเมือง โดยเรือรบทะเลไปประเทศอื่น ๆ สถานที่ยังช่วยปกป้องเมืองจากน้ำท่วมตามฤดูกาล
เมืองถูกโจมตี และพินาศวอดวาย โดยกองทัพพม่าในปีพ.ศ. 2310 ผู้เขียนเมืองกับพื้น และบังคับให้คนละทิ้งเมือง เมืองไม่เคยถูกสร้างใหม่ในตำแหน่งเดิม และยังคงรู้จักวันนี้เป็นสถานกว้างขวาง
ในปัจจุบัน มันอยู่ในอำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พื้นที่มรดกโลกแห่งนี้เป็น 289 ฮา
เมื่อศูนย์การสำคัญของการทูตทั่วโลกและพาณิชย์ อยุธยาเป็นการทำลายทางโบราณคดี ลักษณะของสูง ปรางค์ (หีบวัตถุมงคลอาคาร) และพุทธอารามของสัดส่วนอนุสาวรีย์ ซึ่งทำให้ความคิดของอดีตขนาดและงดงามของสถาปัตยกรรม
รู้จักกันดีจากแหล่งร่วมสมัยและแผนที่ อยุธยาถูกวางตามเมืองระบบ และเข้มงวดการวางแผนตาราง ประกอบด้วยถนน คลอง และฮันนี้รอบโครงสร้างหลักทั้งหมด โครงร่างเอาประโยชน์สูงสุดของตำแหน่งกลางแม่น้ำสาม และมีระบบไฮโดรลิคสำหรับการจัดการน้ำซึ่งถูกมากเทคโนโลยีขั้นสูง และเฉพาะในโลก
เมืองที่พักในอ่าวไทย equi ไกลระหว่างอินเดียและจีน และดีขั้นต้นน้ำจะได้รับการป้องกันจากอำนาจอาหรับและยุโรปที่ได้ขยายอิทธิพลในภูมิภาคแม้เป็นอยุธยาเองรวม และขยายอำนาจของตนเองเพื่อเติมเต็มสุญญากาศที่เหลือจากการล่มสลายของนคร อยุธยากลายเป็น ศูนย์กลางของเศรษฐกิจและการค้าในระดับภูมิภาค และระดับโลก เป็นผล และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างตะวันออกและตะวันตก ศาลอยุธยารอยัลแลกแอมบาสเดอร์อื้อฉาว รวมทั้งศาลฝรั่งเศสที่เวอเซียลเลสและศาล Mughal ในเดลี เช่น เดียว กับศาลอิมพีเรียลของญี่ปุ่นและจีน ชาวต่างชาติในการว่าจ้างของรัฐบาล และยัง อาศัยอยู่ในเมืองเป็นส่วนตัวบุคคล ปลายน้ำจากอยุธยาพระราชวังมี enclaves ผู้ค้าต่างประเทศและผู้สอนศาสนา แต่ละอาคารในสถาปัตยกรรมของตนเอง อิทธิพลต่างประเทศมีหลายแห่ง และยังสามารถเห็นได้ ในศิลปะรอดตาย และการพัง
วิชาศิลปะอยุธยาโชว์ผลงานการประดิษฐ์คิดค้นและสร้างสรรค์อารยธรรมอยุธยารวมทั้งความสามารถในการสะท้อนความหลากหลายของต่างประเทศที่มีอิทธิพลต่อ พระราชวังใหญ่และอารามพุทธสร้างขึ้นในเมืองหลวง ตัวอย่างที่วัดมหาธาตุและวัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นพยานทั้งพลังทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีศักดาของผู้รับเหมา ตลอดจนรวบรวมให้ผู้อุทธรณ์ทราบประเพณีทางปัญญา พวกเขาไว้ อาคารทั้งหมดถูกตกแต่ง ด้วยคุณภาพงานฝีมือและภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งประกอบด้วยส่วนผสม eclectic ลักษณะดั้งเดิมที่รอดจากสุโขทัย สืบทอดจากอังกอร์ และยืมมาจาก 17 และศตวรรษที่ 18 ลักษณะศิลปะของญี่ปุ่น จีน อินเดีย เปอร์เซีย และ ยุโรป สร้างนิพจน์ที่มีความเฉพาะ และหลากหลายของวัฒนธรรมสากล และวางรากฐานสำหรับการผสมผสานรูปแบบของศิลปะและสถาปัตยกรรมที่นิยมรัตนโกสินทร์ประสบความสำเร็จ และเป็นต้นไป
แน่นอน เมื่อมีย้ายเมืองหลวงของราชอาณาจักรคืนน้ำ และสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่กรุงเทพมหานคร มีความพยายามใส่ใจการสร้างต้นแบบเมืองและรูปแบบสถาปัตยกรรมของอยุธยา สถาปนิกและผู้สร้างจากอยุธยารอดตายถูกนำในการทำงานในการสร้างเมืองหลวงใหม่ รูปแบบเมืองจำลองนี้จะเน้นแนวคิดวางแผนเมืองการเมืองของโลกสติพยายามจำลองที่สมบูรณ์แบบของเมืองในตำนานของอโยธยา ภาษาไทย ชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับเมืองหลวงใหม่ที่กรุงเทพยังคง "อยุธยา" เป็นส่วนหนึ่งของชื่อเรื่องอย่างเป็นทางการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Universal มูลค่าการ สังเคราะห์

บทสรุปที่โดดเด่น

เมืองแห่งประวัติศาสตร์ของอยุธยา 1350 เป็นก่อตั้งขึ้นในเมืองหลวงที่สองในพระบรมราชู ปถัมภ์ ราชอาณาจักร ตั้งมั่นอยู่จาก 14 เพื่อช่วงศตวรรษที่ 18 ที่อยู่ในระหว่างช่วงเวลานี้ก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ในเมืองมีขนาดใหญ่ที่สุดและที่สำคัญที่สุดเป็นเมืองมหานครของโลกและศูนย์กลางทางการค้าของโลกและทางการทูตพระนครศรีอยุธยาตั้งอยู่บนเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยสามแม่น้ำการเชื่อมต่อเมืองไปจนถึงทะเลได้ทางยุทธศาสตร์ เว็บไซต์นี้จะได้รับเลือกเพราะมันตั้งอยู่เหนือกระแสน้ำเชี่ยวที่ของ Gulf of สยามดังที่มันดำรงอยู่ในช่วงเวลาที่ทำให้การป้องกันการโจมตีของเมืองโดยเรือรบทะเล - ของประเทศอื่น ที่ตั้งที่ยังช่วยในการปกป้องเมืองจากน้ำท่วมตามฤดูกาล.
เมืองได้ถูกโจมตีและวอดวายโดยกองทัพพม่าใน 1767 ที่เผาเมืองเพื่อไปยังเขตพื้นที่และบังคับให้ผู้อยู่อาศัยก่อนที่จะทิ้งสายเมือง เมืองที่ไม่เคยถูกสร้างขึ้นใหม่ในที่ตั้งเดียวกันและยังคงเป็นที่รู้จักกันดีในวันนี้เป็นสถานที่ทางโบราณคดีที่หลากหลาย
ในปัจจุบันมันตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาพื้นที่ทั้งหมดของเมืองมรดกโลกที่พัก 289 Ha Long .
ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของการค้าและการทูตระดับโลกอยุธยาได้ทำลายทางโบราณคดีที่ยังคงอยู่ในความสูงของพระปรางค์(หอคอย reliquary )และวัดทางพระพุทธศาสนาของสัดส่วนเป็นอนุสรณ์ซึ่งช่วยให้ความคิดที่ผ่านมาของขนาดของเมืองและความสง่างามของสถาปัตยกรรม.
เป็นที่รู้จักกันอย่างดีจากแผนที่และแหล่งแบบร่วมสมัยอยุธยาถูกวางไว้ออกไปตามตารางการวางแผนการเมืองอย่างเป็นระบบและความแข็งแกร่งที่ประกอบด้วยถนนสาย moats ตามแนวลำคลองและโดยรอบโครงสร้างหลักทั้งหมดโครงการนี้ได้เกิดประโยชน์สูงสุดของตำแหน่งของเมืองที่อยู่ท่ามกลางของสามแม่น้ำและมีระบบไฮดรอลิกที่สำหรับการจัดการน้ำซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นอย่างมากและที่โดดเด่นในโลก
เมืองตั้งอยู่ที่หัวของ Gulf of Siam ที่ดีเยี่ยมเท่ากัน - อยู่ไกลออกไประหว่างอินเดียและจีนและได้รับการตกแต่งอย่างดีต้นน้ำเพื่อจะได้รับการคุ้มครองจากชาวอาหรับและยุโรปอำนาจที่เป็นการขยายของตนมีอิทธิพลต่อใน ภูมิภาค แม้จะเป็นอยุธยาเป็นตัวของมันเองการควบรวมและขยายเป็นของตัวเองเพื่อเติมน้ำลงในเครื่องดูดฝุ่นไปทางซ้ายโดยลดลงของนคร. เป็นผลที่อยุธยากลายเป็นศูนย์กลางของการค้าและเศรษฐกิจในระดับ ภูมิภาค และระดับโลกและจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างตะวันออกและตะวันตกได้. Royal Court ของอยุธยาการฟื้นฟูจากสึนามิเปลี่ยนไปไม่ไกลและหลากหลายรวมถึงกับฝรั่งเศสศาลที่ Versailles และ Mughal แบบราชวงศ์ศาลในกรุงนิวเดลีและพร้อมด้วยสนามอิมพีเรียลของญี่ปุ่นและจีน จัดให้บริการชาวต่างชาติในการใช้ของรัฐบาลที่มีอยู่และนอกจากนั้นยังอยู่ในเมืองที่เป็นผู้ใช้บริการแบบเฉพาะรายแบบส่วนตัวตามกระแสน้ำจากกรุงศรีอยุธยา Royal Palace ที่มีชนกลุ่มน้อยแห่ง Chinatown , Little India ของพ่อค้าจากต่างประเทศและด้านวรรณกรรมอาคารแต่ละหลังในสไตล์สถาปัตยกรรมของตนเอง อิทธิพลจากต่างประเทศจำนวนมากในเมืองและสามารถมองเห็นได้ในงานศิลปะส่วนประกอบ Ancient Wonders ที่ยังคงหลงเหลืออยู่และอยู่ในซากปรักหักพังทางสถาปัตยกรรมที่ยังคง.
โรงเรียนอยุธยาของศิลปะจัดแสดงความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ที่มีความเจริญทางอารยธรรมที่อยุธยาเป็นอย่างดีเป็นความสามารถของเอาอย่างมากมายของอิทธิพลต่างประเทศ พระราชวังขนาดใหญ่และวัดพุทธที่สร้างขึ้นในเมืองหลวงที่ยกตัวอย่างเช่นในวัดมหาธาตุและวัดพระศรีสรรเพชญ์มีพระโอวาทเพื่อเศรษฐกิจและกระปรี้กระเปร่าทางด้านเทคโนโลยีความกล้าหาญของผู้สร้างของพวกเขารวมทั้งเพื่อเป็นการดึงดูดใจของประเพณีทางปัญญาที่ปรากฏ อาคารทั้งหมดได้รับการตกแต่งด้วย คุณภาพ ที่ดีที่สุดของ ภาพ เขียนจิตรกรรมฝาผนังและงานฝีมือซึ่งประกอบไปด้วยการผสมผสานที่คัดสรรอย่างเป็นพิเศษในสไตล์แบบดั้งเดิมส่วนประกอบ Ancient Wonders ที่ยังคงหลงเหลืออยู่จากสุโขทัยสืบทอดมาจากอังกอร์และขอยืมจากสไตล์ทันสมัยแห่งศตวรรษที่ 17 และ 18 ของประเทศญี่ปุ่นจีนอินเดียและยุโรปอย่างสง่างามแห่งเปอร์เซียการสร้างการแสดงออกทางความคิดเห็นที่หลากหลายและที่โดดเด่นของวัฒนธรรมแห่งความเป็นสากลและวางรากฐานสำคัญสำหรับการผสมผสานของสไตล์ของศิลปะและสถาปัตยกรรมได้รับความนิยมตลอดทั่วทั้งพื้นที่รัตนโกสินทร์ยุคการประสบความสำเร็จและเป็นต้นไป
จริงๆแล้วเมื่อเงินทุนที่ได้รับการปรับปรุงในราชอาณาจักรจึงย้ายมาอยู่ตามกระแสน้ำและเมืองใหม่ที่สร้างขึ้นในกรุงเทพฯมีความพยายามความเอาใจใส่ที่จะสร้างเทมเพลตในเมืองและรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวนมากของสถาปนิกส่วนประกอบ Ancient Wonders ที่ยังคงหลงเหลืออยู่และผู้สร้างจากกรุงศรีอยุธยาถูกนำตัวมาในการทำงานบนอาคารเงินทุนใหม่นี้ รูปแบบนี้การจำลองแบบในเมืองอยู่ในการรักษาไว้ซึ่งพร้อมด้วยแนวความคิดแบบการวางผังเมืองที่เมืองของโลกที่พยายามที่จะเลียนแบบสำนึกความสมบูรณ์แบบของเมืองแห่งตำนาน ayodhayaในประเทศไทยชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับเงินทุนใหม่ที่กรุงเทพฯยังคงรักษาไว้ซึ่ง"อยุธยา"เป็นส่วนหนึ่งของชื่ออย่างเป็นทางการ