To assess the status of, and factor

To assess the status of, and factors associated with, residents’ knowledge, attitudes, and practices (KAP) related to air pollution and respiratory health of children in Shanghai, we conducted a cross-sectional survey. Demographic factors associated with residents’ knowledge were identified by multiple logistic regressions. The questionnaires were completed by 972 participants, half from the Shanghai Children Hospital and the other half from the Jiading communities. Half of the participants’ scores of knowledge and attitudes were equal or greater than 8.0 on a 9-point scale, over 75% of respondents’ practice scores were equal to or less than 4.0. Our studies demonstrated a significant difference of average knowledge scores between the two groups (t = 1.27, p < 0.05). The parents’ educational level (OR = 1.89, 2.48) and average annual household income (AAHI) (OR = 2.37, 2.40, 2.12) were the two strongest factors on knowledge awareness. In addition, statistical analysis revealed a significant difference between the two groups in their attitudes towards air quality and their perception of the government’s efforts to alleviate it. The hospital and community groups also showed significant differences in practices geared towards protecting their children’s health. Nearly 90% of the respondents agreed that improving air quality is the responsibility of every citizen, and the joint action of governments and all citizens should be utilized for enhanced control. In addition, more resources should be allocated towards providing citizens with appropriate practices to help lessen the effects of poor air quality.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อประเมินสถานะของและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความรู้ประชาชนทัศนคติและการปฏิบัติ (KAP) ที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศและสุขภาพของระบบทางเดินหายใจของเด็กในเซี่ยงไฮ้เราดำเนินการสำรวจภาคตัดขวาง ปัจจัยทางด้านประชากรศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับความรู้ที่อยู่อาศัยถูกระบุโดยการถดถอยโลจิสติกหลาย แบบสอบถามเสร็จสมบูรณ์โดย 972 เข้าร่วมครึ่งหนึ่งจากโรงพยาบาลเด็กเซี่ยงไฮ้และอีกครึ่งหนึ่งจาก Jiading ชุมชน ครึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วม 'คะแนนของความรู้และทัศนคติที่เท่ากับหรือมากกว่า 8.0 ในระดับ 9 จุดกว่า 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามคะแนนการปฏิบัติเท่ากับหรือน้อยกว่า 4.0 การศึกษาของเราแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยความรู้ระหว่างสองกลุ่ม (t = 1.27, p <0.05) พ่อแม่ระดับการศึกษา (OR = 1.89, 2.48) และค่าเฉลี่ยรายได้ของครัวเรือนประจำปี (Aahi) (OR = 2.37, 2.40, 2.12) มีสองปัจจัยที่แข็งแกร่งในการรับรู้ของความรู้ นอกจากนี้การวิเคราะห์ทางสถิติเผยให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างทั้งสองกลุ่มในทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อคุณภาพอากาศและการรับรู้ของพวกเขามาจากความพยายามของรัฐบาลที่จะบรรเทาความมัน กลุ่มโรงพยาบาลและชุมชนยังแสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการปฏิบัติที่มุ่งสู่การปกป้องสุขภาพของเด็ก เกือบ 90% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าการปรับปรุงคุณภาพอากาศเป็นความรับผิดชอบของพลเมืองทุกคนและการดำเนินการร่วมกันของรัฐบาลและประชาชนทุกคนควรจะใช้สำหรับการควบคุมที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีทรัพยากรมากขึ้นควรจะจัดสรรที่มีต่อการให้บริการประชาชนกับการปฏิบัติที่เหมาะสมเพื่อช่วยลดผลกระทบจากอากาศที่มีคุณภาพไม่ดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อประเมินสภาพและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับผู้อยู่อาศัยของความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติ ( คับ ) ที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศและสุขภาพระบบทางเดินหายใจของเด็กในเซี่ยงไฮ้ เราได้ทำการสำรวจแบบภาคตัดขวาง ปัจจัยส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับความรู้ของชาวบ้านที่ถูกระบุโดย Multiple logistic สังกะสี แบบสอบถามที่สร้างจาก 972 คนครึ่งจากเซี่ยงไฮ้ โรงพยาบาลเด็ก และอีกครึ่งจาก Jiading ชุมชน ครึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วม ' คะแนนความรู้และเจตคติ มากกว่าหรือเท่ากับ 8.0 บนมาตราส่วนในกว่า 75 % ของคะแนนการปฏิบัติของกลุ่มตัวอย่างเท่ากับหรือน้อยกว่า 4.0 การศึกษาของเราแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้ระหว่างกลุ่ม ( t = 1.27 , p < 0.05 )ผู้ปกครองระดับการศึกษา ( OR = 1.89 , 2.48 ) และรายได้ของครัวเรือนเฉลี่ย ( aahi ) ( OR = 2.37 2.40 , 2.12 , ) เป็นสองปัจจัยสูงสุดในการรับรู้ความรู้ นอกจากนี้ ผลการวิเคราะห์ทางสถิติพบความแตกต่างระหว่างสองกลุ่มในทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อคุณภาพอากาศและการรับรู้ของพวกเขาจากความพยายามของรัฐบาลที่จะแก้ไขมันโรงพยาบาลชุมชนและกลุ่ม นอกจากนี้ยังพบความแตกต่างในการปฏิบัติ มุ่งสู่การปกป้องสุขภาพของลูก ๆ เกือบ 90% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่า การปรับปรุงคุณภาพอากาศ เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน และการกระทำร่วมกันของรัฐบาลและประชาชนทุกคนควรจะใช้สำหรับการควบคุมการเพิ่ม นอกจากนี้ทรัพยากรเพิ่มเติม ควรจัดสรรให้ประชาชนที่มีต่อแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมจะช่วยลดทอนผลกระทบคุณภาพอากาศไม่ดี