The core strength training (CST) pl

The core strength training (CST) plays an important role
in reducing and preventing lower and knee joint injuries
. In recent years, core strength training is widely
used in improving performance
reducing the risk of injuries in athletes, increasing physical fitness in healthy individuals , and rehabilitation of patients with a low back pain . Weak trunk extensor muscles may be a risk
factor for low back pain . The core has
been described as a muscular corset with the abdominals in
the front, erector spinae and gluteals in the back, the
diaphragm as the roof, and the pelvic floor and hip girdle
musculature in the bottom . The
core muscles stabilize the spine and trunk during movements
of lower and upper extremities such as jumping,
running, and throwing. Previous studies revealed that trunk
muscle fatigue led to decreased dynamic stability of the
trunk and loss of balance control
suggested that knee pain affected trunk
and knee motions during forehand lunges, and training
programs for badminton players with knee pain should
include core strength exercises

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การฝึกความแข็งแรงหลัก (CST) มีบทบาทสำคัญลด และป้องกันอาการบาดเจ็บข้อเข่าและต่ำกว่า. ในปี การฝึกอบรมแรงหลักเป็นอย่างกว้างขวางใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บในนักกีฬา เพิ่มขึ้นในบุคคลที่มีสุขภาพทางกาย และการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยมีอาการปวดหลัง กล้ามเนื้อเอกซ์เทลำต้นอ่อนอาจมีความเสี่ยงปัจจัยสำหรับอาการปวดหลัง มีหลักการได้อธิบายไว้ว่าเป็นรัดกล้ามเนื้อกับ abdominals ในหน้า ขึ้นรูปกล่อง spinae และ gluteals หลัง การไดอะแฟรมเป็น หลังคา และเชิงกราน และสะโพกผ้าคาดเอวกล้ามเนื้อด้านล่าง การกล้ามเนื้อหลักเสถียรภาพกระดูกสันหลังและลำตัวในระหว่างการเคลื่อนไหวของแขนขาล่าง และบนเช่นกระโดดเรียกใช้ และการขว้างปา ศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า ที่ลำต้นนำไปสู่ความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อลดลงแรงของการลำและสูญเสียการควบคุมยอดดุล แนะนำที่เข่าปวดกระทบลำและเคลื่อนไหวข้อเข่าระหว่าง forehand lunges และการฝึกอบรมโปรแกรมสำหรับเล่นแบดมินตันกับอาการปวดเข่าควรรวมหลักกาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การฝึกอบรมแรงหลัก (CST) มีบทบาทสำคัญในการลดและป้องกันการบาดเจ็บร่วมลดลงและหัวเข่า ในปีที่ผ่านการฝึกความแข็งแรงเป็นหลักอย่างกว้างขวางใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บในนักกีฬาเพิ่มสมรรถภาพทางกายในบุคคลที่มีสุขภาพดีและการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลัง อ่อนแอกล้ามเนื้อลำตัวยืดอาจจะเป็นความเสี่ยงปัจจัยสำหรับอาการปวดหลังส่วนล่าง แกนได้รับการอธิบายว่ารัดตัวของกล้ามเนื้อด้วย abdominals ในด้านหน้า spinae erector และ gluteals ในด้านหลังของไดอะแฟรมเป็นหลังคาและพื้นและสะโพกกระดูกเชิงกรานเอวกล้ามเนื้อในด้านล่าง กล้ามเนื้อหลักรักษาเสถียรภาพของกระดูกสันหลังและลำตัวในระหว่างการเคลื่อนไหวของแขนขาล่างและชั้นบนเช่นกระโดดทำงานและการขว้างปา การศึกษาก่อนหน้าเปิดเผยว่าลำต้นความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อนำไปสู่การลดลงเสถียรภาพพลวัตของลำตัวและสูญเสียการควบคุมความสมดุลบอกว่าอาการปวดเข่าได้รับผลกระทบลำต้นและหัวเข่าในระหว่างการเคลื่อนไหวกระตุกอยู่ข้างหน้าและการฝึกอบรมโปรแกรมสำหรับผู้เล่นแบดมินตันกับอาการปวดเข่าควรรวมถึงการออกกำลังกายแรงหลัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลักของการฝึกความแข็งแรง ( CST ) มีบทบาทสำคัญลดและป้องกันลดและข้อเข่าบาดเจ็บ. ในปีล่าสุด , การฝึกอบรมแรงหลักคือ กันอย่างแพร่หลายที่ใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บในนักกีฬา เพิ่มสมรรถภาพทางกายในบุคคลสุขภาพ และการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังต่ำ รถกล้ามเนื้ออ่อนแอ อาจจะเสี่ยงปัจจัยสำหรับอาการปวดหลัง หลักได้ได้รับการอธิบายเป็นกล้ามเนื้อรัดตัวกับ abdominals ในด้านหน้า , กล้ามเนื้อหลัง และ Gluteals ในกลับไดอะแฟรมเป็นหลังคา และอุ้งเชิงกราน และผ้าคาดเอว สะโพกกล้ามเนื้อในด้านล่าง ที่กล้ามเนื้อหลักทรงใบและลำต้นในการเคลื่อนไหวของบนและล่าง extremities เช่นกระโดดวิ่ง , การขว้างปา การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า ลำต้นความเมื่อยล้ากล้ามเนื้อลดลง นำไปสู่ความมั่นคงแบบไดนามิกของลำต้น และสูญเสียการควบคุมสมดุลพบว่าอาการปวดเข่ากระทบลำตัวและเข่าภาพเคลื่อนไหวในระหว่างการยก และการฝึกอบรมโปรแกรมสำหรับเล่นแบดมินตันกับอาการปวดเข่า ควรรวมถึงความแข็งแรงของแกนแบบฝึกหัด