While ostriches are relatively wild

While ostriches are relatively wild birds with a short period of domestication, some birds demonstrate a strong interest in humans. Human imprinting of chicks could therefore facilitate the cooperation of birds for assisted reproduction technology purposes, improving the quality of human–bird interactions and consequently promoting the welfare of the birds. We investigated the effect of 4 different husbandry practices performed at an early age (standard husbandry, two extended human care treatments and foster parent care) on the response of one-year-old ostrich chicks (N = 206) to human presence. Specifically, we tested whether chicks exposed to more human presence and care (Imprint 1 and 2) would be more docile towards humans, as opposed to those exposed to standard husbandry practices (Standard) or foster parenting (Foster). Behavioural observations were performed 3 times a week for a period of 3 months when the birds reached an age of approximately one year. The following behaviours towards the human observer were recorded: willingness to approach the human (approach), allowing touch by the human (touch), wing flapping, the keeping of a distance from the human (distance), sexual behaviour and aggressive behaviour. We consistently found that Imprint 1, Imprint 2 and Standard chicks were significantly more inclined to approach and create contact with the observer than Foster chicks. However, no differences in approaching, touching, keeping a distance or wing flapping was observed between Imprint 2 and Standard chicks. Furthermore, no sexual or aggressive behaviour repertoires were recorded during the observation period. These results suggest that human imprinted chicks and chicks reared under standard husbandry practices are more docile than chicks reared by foster parents. Hence, such expression of friendly behaviour and apparently reduced fear towards humans could potentially lead to tamer birds, improved welfare and subsequently more efficient production. However, the lack of differences between chicks subjected to a reduced intensity of imprinting and chicks reared under standard husbandry conditions stresses the need for further investigations in this species, and specifically in terms of sexual and/or aggressive display towards humans when the birds reach full sexual maturity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขณะ นกป่าค่อนข้าง มีระยะเวลาสั้นของ domestication ostriches นกบางแสดงให้เห็นถึงดอกเบี้ยที่แข็งแกร่งในมนุษย์ Imprinting มนุษย์ของลูกไก่จึงสามารถอำนวยความสะดวกของนกประสงค์สืบพันธุ์ช่วยเทคโนโลยี ปรับปรุงคุณภาพของมนุษย์ – นกโต้ตอบ และการส่งเสริมสวัสดิภาพของนกดังนั้น เราตรวจสอบผลของการปฏิบัติการเลี้ยงแตกต่างกัน 4 อายุต้น (เลี้ยงมาตรฐาน สองมนุษย์ขยายการดูแลรักษา และดูแลแม่เลี้ยง) ในการตอบสนองของลูกไก่นกกระจอกเทศอายุ 1 ปี (N = 206) ให้มนุษย์อยู่ โดยเฉพาะ เราทดสอบสัมผัสกับมนุษย์มากอยู่และดูแล (สำนักพิมพ์ 1 และ 2) ลูกไก่จะได้ docile มากต่อมนุษย์ ตรงข้ามกับผู้ที่สัมผัสกับวิธีการเลี้ยงที่มาตรฐาน (มาตรฐาน) หรือบุญธรรมไป (ฟอสเตอร์) สังเกตพฤติกรรมถูกทำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นระยะเวลา 3 เดือนเมื่อนกถึงอายุประมาณหนึ่งปี บันทึกพฤติกรรมต่อไปนี้ไปยังแหล่งมนุษย์: ยินดีที่จะเข้ามนุษย์ (วิธี), ให้สัมผัส โดยมนุษย์ (สัมผัส), วิง flapping เก็บของห่างจากมนุษย์ (ระยะ), พฤติกรรมทางเพศ และพฤติกรรมก้าวร้าว เราอย่างต่อเนื่องพบว่า ลูกไก่ 1 สำนักพิมพ์ สำนักพิมพ์ 2 และมาตรฐานได้อย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นเข้าใจวิธี และสร้างติดต่อกับนักการกว่าเลี้ยงลูกไก่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีความแตกต่างในกำลัง สัมผัส รักษาระยะห่างหรือวิง flapping ถูกสังเกตระหว่าง 2 สำนักพิมพ์และลูกไก่มาตรฐาน นอกจากนี้ repertoires พฤติกรรมทางเพศ หรือความก้าวร้าวไม่ได้บันทึกในระหว่างรอบระยะเวลาสังเกต ผลลัพธ์เหล่านี้แนะนำว่า มนุษย์ติดตราลูกไก่ และลูกไก่ผลิตภัณฑ์ภายใต้มาตรฐานเลี้ยงปฏิบัติ docile ยิ่งกว่าลูกไก่ผลิตภัณฑ์จากผู้ปกครองบ้าง ดังนั้น เช่นนิพจน์รูปแบบพฤติกรรมที่เป็นมิตรและความกลัวลดลงเห็นได้ชัดต่อมนุษย์อาจอาจ tamer นก ปรับปรุงสวัสดิการ และการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้นในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ความเข้มลดลงของ imprinting ต้องไม่มีความแตกต่างระหว่างลูกไก่ และลูกไก่ผลิตภัณฑ์ภายใต้มาตรฐานเลี้ยงสภาพเครียดต้องการสอบสวนเพิ่มเติม ในสายพันธุ์นี้ และในรูปแบบ ของการแสดงทางเพศ หรือก้าวร้าวต่อมนุษย์โดยเฉพาะเมื่อนกถึงวันครบกำหนดทางเพศเต็มที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในขณะที่นกกระจอกเทศจะค่อนข้างนกป่าที่มีระยะเวลาสั้น ๆ ของ domestication นกบางอย่างแสดงให้เห็นถึงความสนใจที่แข็งแกร่งในมนุษย์ ประทับของมนุษย์ลูกไก่จึงสามารถอำนวยความสะดวกความร่วมมือของนกเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีการทำสำเนา, การปรับปรุงคุณภาพของการมีปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์นกและจึงส่งเสริมสวัสดิการของนก เราตรวจสอบผลของการปฏิบัติที่ 4 การเลี้ยงที่แตกต่างกันดำเนินการในวัยเด็ก (เลี้ยงมาตรฐานสองขยายการดูแลรักษาของมนุษย์และการดูแลผู้ปกครองอุปถัมภ์) กับการตอบสนองของลูกไก่นกกระจอกเทศหนึ่งปี (จำนวน = 206) การปรากฏตัวของมนุษย์ โดยเฉพาะเราได้ทดสอบว่าลูกไก่สัมผัสกับการปรากฏตัวของมนุษย์มากขึ้นและการดูแลรักษา (สำนักพิมพ์ 1 และ 2) จะเชื่องมากขึ้นต่อมนุษย์เมื่อเทียบกับผู้ที่สัมผัสกับการปฏิบัติที่เลี้ยงมาตรฐาน (Standard) หรืออุปถัมภ์เลี้ยงดู (ฟอสเตอร์) การสังเกตพฤติกรรมได้ดำเนินการ 3 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นระยะเวลา 3 เดือนเมื่อนกถึงอายุประมาณหนึ่งปี พฤติกรรมดังต่อไปนี้ที่มีต่อการสังเกตการณ์ของมนุษย์ที่ถูกบันทึกไว้: ความตั้งใจที่จะเข้าใกล้มนุษย์ (วิธีการ) ที่ช่วยให้การสัมผัสโดยมนุษย์ (สัมผัส) กระพือปีกรักษาระยะห่างจากมนุษย์ (ระยะทาง), พฤติกรรมทางเพศและพฤติกรรมก้าวร้าว เราพบอย่างต่อเนื่องที่สำนักพิมพ์ 1, พิมพ์ที่ 2 และลูกไก่มาตรฐานอย่างมีนัยสำคัญแนวโน้มมากกว่าที่จะเข้าถึงและสร้างการติดต่อกับผู้สังเกตการณ์กว่าลูกไก่ฟอสเตอร์ อย่างไรก็ตามความแตกต่างในการแสวงหาไม่มีการสัมผัส, การเก็บรักษากระพือระยะทางหรือปีกก็สังเกตเห็นระหว่างสำนักพิมพ์ที่ 2 และลูกไก่มาตรฐาน นอกจากนี้ไม่มี repertoires พฤติกรรมทางเพศหรือก้าวร้าวถูกบันทึกไว้ในช่วงระยะเวลาการสังเกต ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าลูกไก่ตราตรึงใจของมนุษย์และลูกไก่เลี้ยงภายใต้การปฏิบัติมาตรฐานการเลี้ยงเชื่องมากกว่าลูกไก่เลี้ยงดูโดยพ่อแม่อุปถัมภ์ ดังนั้นการแสดงออกดังกล่าวของพฤติกรรมที่เป็นมิตรและความกลัวลดลงเห็นได้ชัดต่อมนุษย์อาจนำไปสู่​​นกครูบาสวัสดิการที่ดีขึ้นและการผลิตต่อมามีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ขาดความแตกต่างระหว่างลูกไก่ภายใต้ความเข้มลดลงของการประทับและลูกไก่เลี้ยงภายใต้เงื่อนไขการเลี้ยงมาตรฐานเน้นความจำเป็นที่จะต้องสืบสวนต่อไปในสายพันธุ์นี้และโดยเฉพาะในแง่ของการแสดงผลทางเพศและ / หรือก้าวร้าวต่อมนุษย์เมื่อนกถึงเต็มรูปแบบ วุฒิภาวะทางเพศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขณะที่นกกระจอกเทศนกป่าที่ค่อนข้างกับช่วงเวลาสั้น ๆของ domestication บางนก แสดงให้เห็นถึงความสนใจในตัวมนุษย์ มนุษย์พิมพ์ของลูกไก่สามารถจึงอำนวยความสะดวกในความร่วมมือของนกช่วยการเจริญพันธุ์เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงคุณภาพของปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และนกและดังนั้นการส่งเสริมสวัสดิภาพของนกเราทำการศึกษาผลของการปฏิบัติที่แตกต่างกัน 4 การแสดงที่อายุต้น ( พันธุ์มาตรฐาน สอง ขยายการดูแลรักษาและการดูแลของพ่อแม่บุญธรรม ) ต่อการตอบสนองของลูกไก่ตัวอายุหนึ่งปี ( n = 1 ) การแสดงตนของมนุษย์ โดยเฉพาะ เราทดสอบว่าลูกไก่เปิดเผยต่อหน้ามนุษย์มากขึ้น และการดูแล ( รอยที่ 1 และ 2 จะเชื่องกับมนุษย์ได้ซึ่งตรงข้ามกับผู้ที่สัมผัสกับการปฏิบัติตามมาตรฐาน ( Standard ) หรือพ่อแม่อุปถัมภ์ ( บุญธรรม ) การสังเกตพฤติกรรมจำนวน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน เมื่อนกถึงอายุประมาณ 1 ปี ต่อไปนี้พฤติกรรมต่อผู้สังเกตการณ์ มนุษย์ที่ถูกบันทึกไว้ : ความเต็มใจที่จะเข้าใกล้มนุษย์ ( แนวทาง ) ให้สัมผัสโดยมนุษย์ ( สัมผัส )กระพือปีก , การเก็บรักษาระยะห่างจากมนุษย์ ( ระยะทาง ) , พฤติกรรม และพฤติกรรมก้าวร้าว เราอย่างต่อเนื่องพบว่ารอย 1 รอย 2 มาตรฐาน และลูกไก่อย่างมีนัยสำคัญมากกว่าวิธีการและสร้างการติดต่อกับผู้สังเกตการณ์กว่าลูกไก่ ฟอสเตอร์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีความแตกต่างในการเข้าใกล้ สัมผัสการรักษาระยะห่าง หรือ กระพือปีกพบระหว่างประทับ 2 และลูกไก่มาตรฐาน ไม่พบทางเพศหรือพฤติกรรมก้าวร้าว repertoires ที่ถูกบันทึกไว้ในช่วงระยะเวลาการสังเกต ผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ามนุษย์และลูกไก่ที่เลี้ยงลูกไก่ไว้ภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติการจะเชื่องกว่าลูกไก่ที่เลี้ยงโดยพ่อแม่บุญธรรม ดังนั้นการแสดงออกของพฤติกรรม เช่น เป็นมิตรและเห็นได้ชัดลดความกลัวต่อมนุษย์อาจนำไปสู่ครูบานก ปรับปรุงสวัสดิการและมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการผลิต แต่ไม่มีความแตกต่างระหว่างลูกไก่ต้องลดความเข้มของ imprinting และลูกไก่ที่เลี้ยงภายใต้สภาพการเลี้ยงมาตรฐาน stresses ต้องสืบสวนต่อไปในนี้ ชนิดและโดยเฉพาะในแง่ของเพศและ / หรือแสดงก้าวร้าวต่อมนุษย์เมื่อนกถึงเต็มเรื่องวุฒิภาวะ