Listing 19-2. Using EnumsmachineSta

Listing 19-2. Using Enums
machineState == State.Inactive ? println("Machine Inactive") :
println("Machine State Unknown")
In Listing 19-2, the text “Machine Inactive” will appear since the value of
machineState is State.Inactive.
Enum types can be defined as their own value types, or you can assign
other types to an enumeration, including integers, strings, and floating-point
numbers.
To assign another type to an enumeration, you must specify the enum type
and then use the assignment operator to assign the values. For instance, if
you wanted to define an enumeration for the alphabet while keeping track
of the position of each letter in the alphabet, you could use the code in
Listing 19-3.
Listing 19-3. Integer Enum
enum Alphabet:Int{
case A = 1
case B, C, D, E, F, G, H, I
case J, K, L, M, N, O, P, Q
case R, S, T, U, V, W, X, Y, Z
}
In Listing 19-3, you defined the enum type Alphabet as an Int. This means
each Alphabet value has a corresponding integer value. You also need to
provide each enum value with a corresponding integer value. You did this
for case A, which has a value of 1. Since this is an integer type, Swift can
figure out that you want the remaining enum values to correspond to integer
values in the order you listed them.
While you would use Alphabet in the same way as State, with Alphabet you
can reference the raw integer value using the toRaw() function.
For instance, if you want to add the integer value of A to the integer value
of B, you would use the code in Listing 19-4.
Listing 19-4. Accessing Raw Enum Values
let result = Alphabet.A.toRaw() + Alphabet.B.toRaw()
toRaw() is a function. See Chapter 27 for a detailed example of Swift
functions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รายการ 19-2 . การใช้ enums
machinestate = = รัฐ ใช้งาน ? println ( " เครื่องจักรงาน println ( " " ) :

สภาพเครื่องที่ไม่รู้จัก " ) ในรายการ 19-2 ข้อความ " เครื่องไม่ได้ใช้งาน " จะปรากฏขึ้นเนื่องจากค่า

machinestate คือรัฐ ไม่ได้ใช้งาน ประเภทนัมสามารถกําหนดเป็นประเภทตามตัวอักษรของตนเอง หรือคุณสามารถกำหนดประเภทอื่นๆ ที่แจง
, ได้แก่ จำนวนเต็ม , สตริง , จุด -

และตัวเลขเพื่อกำหนดชนิดอื่นที่มีการ คุณจะต้องระบุประเภทของนัม
แล้วใช้งานโอเปอเรเตอร์กำหนดค่า ตัวอย่างเช่นถ้าคุณต้องการที่จะมีการกำหนด

สำหรับตัวอักษรในขณะที่การติดตามของตำแหน่งของแต่ละตัวอักษร คุณสามารถใช้รหัสในรายการ 19-3
.
รายการ 19-3 . จำนวนเต็มนัมนัมตัวอักษร int {

: A = 1
B , C , D , E , F , G , H ,
กรณี J , K , L , M , N , O , P , Q
กรณี R , S , T , U , V , W , X , Y , Z
}
ในรายการ 19-3 คุณกำหนดนัมชนิดตัวอักษรเป็น int ซึ่งหมายความว่า
แต่ละตัวอักษรคุณค่าจะมีค่าจำนวนเต็มที่สอดคล้องกัน คุณต้อง
ให้แต่ละนัมค่าด้วยค่าจำนวนเต็มที่สอดคล้องกัน คุณ
สำหรับกรณี ซึ่งมีมูลค่า 1 ตั้งแต่นี้เป็นจำนวนเต็มชนิดรวดเร็วสามารถ
คิดออกว่าคุณต้องการที่เหลือนัมค่านิยมให้สอดคล้องกับค่าจำนวนเต็ม
ในลำดับที่คุณระบุไว้พวกเขา .
ในขณะที่คุณจะใช้ตัวอักษรในแบบเดียวกับรัฐ กับตัวอักษรที่คุณ
สามารถอ้างอิงค่าจำนวนเต็มดิบโดยใช้ฟังก์ชั่น toraw() .
ตัวอย่างเช่นหากคุณต้องการเพิ่มค่าจำนวนเต็มของ ค่าจำนวนเต็ม
B คุณจะใช้รหัสในรายการ 19-4 .
รายการ 19-4 .การเข้าถึงดิบนัมค่า
ให้ผล = ตัวอักษร . . toraw() ตัวอักษร B . toraw()
toraw() เป็นฟังก์ชัน เห็นบทที่ 27 ตัวอย่างรายละเอียดของการทำงานที่รวดเร็ว