Establishment in Beijing and reloca

Establishment in Beijing and relocation[edit]
The National Palace Museum was originally established as the Palace Museum in Beijing's Forbidden City on 10 October 1925, shortly after the expulsion of Puyi,[7][8] the last emperor of China, from the Forbidden City by warlord Feng Yü-hsiang. The articles in the museum consisted of the valuables of the former Imperial family.


The National Palace Museum treasure fleeing Japanese forces in the 1930s
In 1931, shortly after the Mukden Incident Generalissimo Chiang Kai-shek's Nationalist Government ordered the museum to make preparations to evacuate its most valuable pieces out of the city to prevent them from falling into the hands of the Imperial Japanese Army. As a result, from 6 February to 15 May 1933, the Palace Museum's 13,491 crates and 6,066 crates of objects from the Exhibition Office of Ancient Artifacts, the Yiheyuan and the Hanlin Yuan Imperial Academy were moved in five groups to Shanghai.[9] In 1936, the collection was moved to Nanjing after the construction of the storage in the Taoist monastery Chaotian Palace was complete.[10] As the Imperial Japanese Army advanced farther inland during the Second Sino-Japanese War, which merged into the greater conflict of World War II, the collection was moved westward via three routes to several places including Anshun and Leshan until the surrender of Japan in 1945. In 1947, it was shipped back to the Nanjing

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก่อตั้งในกรุงปักกิ่งและย้าย [แก้ไข]พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระราชวังเดิมก่อตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวังปักกิ่งพระราชวังต้องห้ามแห่งบน 1925 ตุลาคม 10 หลังจากขับไล่ของ Puyi, [7] [8] จักรพรรดิของจีน จากในเมืองโดยอุบล Feng Yü-hsiang บทความในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยมีของเดิมอิมพีเรียลพระราชวังพิพิธภัณฑ์สมบัติหลบหนีกองทัพญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1930ในปี 1931 หลังจากมุกเดนเหตุการณ์ Generalissimo เจียงไคเชกเป็นชาตินิยมของรัฐบาลพิพิธภัณฑ์สั่งให้เตรียมการอพยพของชิ้นดีที่สุดจากเมืองเพื่อป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของกองทัพญี่ปุ่นที่อิมพีเรียล ดัง 6 กุมภาพันธ์ถึง 15 1933 พฤษภาคม 13,491 ลังของพิพิธภัณฑ์พระราชวังและลัง 6,066 ของวัตถุ จากการแสดง Office ของ วัตถุโบราณ Yiheyuan ออสการ์ สาขาอิมพีเรียลหยวนจินานฮานลินถูกย้ายใน 5 กลุ่มเซี่ยงไฮ้ [9] ในค.ศ. 1936 คอลเลกชันถูกย้ายไปยังหนานจิงหลังจากการก่อสร้างเก็บในอารามเต๋าพา Chaotian ได้สมบูรณ์ [10] ขณะที่กองทัพญี่ปุ่นที่อิมพีเรียลขั้นสูงหน้าไกลออกไปในระหว่างสงครามจีน-ญี่ปุ่นที่สอง ที่ผสานเข้าไปในความขัดแย้งมากกว่าสงครามโลก คอลเลกชันถูกย้าย westward ผ่าน 3 เส้นทางไปยังสถานต่าง ๆ รวมถึง Anshun และเล่อซานจนยอมแพ้ของญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1945 ใน ก็ถูกส่งกลับไปหนานจิง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สถานประกอบการในกรุงปักกิ่งและการย้ายถิ่นฐาน [แก้ไข]
พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวังในเมืองต้องห้ามของปักกิ่งในวันที่ 10 ตุลาคม 1925 ไม่นานหลังจากที่การขับไล่ของ Puyi [7] [8] จักรพรรดิล่าสุดของจีนจากพระราชวังต้องห้าม โดยขุนพลเมืองฮ Yu-ยง บทความในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยสิ่งของมีค่าของอดีตครอบครัวอิมพีเรียล. สมบัติพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติหลบหนีกองทัพญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษที่ 1930 ในปี 1931 หลังจากที่กรณีมุกเดนจอมทัพเจียงไคเชกรัฐบาลไต้หวันได้รับคำสั่งพิพิธภัณฑ์เพื่อให้การเตรียมการอพยพไปที่ ชิ้นที่มีค่าที่สุดออกจากเมืองเพื่อป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น เป็นผลจาก 6 กุมภาพันธ์ - 15 พฤษภาคม 1933 พิพิธภัณฑ์พระราชวัง 13,491 ลังและ 6,066 ลังของวัตถุจากสำนักงานนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์โบราณ Yiheyuan และ Hanlin หยวนจักรวรรดิสถาบันถูกย้ายในห้ากลุ่มไปเซี่ยงไฮ้. [9] 1936 คอลเลกชันที่ถูกย้ายไปหนานจิงหลังจากการก่อสร้างของการจัดเก็บในลัทธิเต๋าวัด Chaotian พระราชวังเสร็จสมบูรณ์. [10] ในขณะที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นก้าวไกลภายในประเทศในช่วงที่สองชิโนญี่ปุ่นสงครามซึ่งผสานเข้ากับความขัดแย้งที่มากขึ้นของโลก สงครามโลกครั้งที่สองคอลเลกชันที่ถูกย้ายไปทางทิศตะวันตกผ่านทางสามเส้นทางไปยังสถานที่ต่างๆรวมทั้ง Anshun และเล่อซานจนยอมแพ้ของญี่ปุ่นในปี 1945 ในปี 1947 มันจะถูกส่งกลับไปยังหนานจิง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

I like justice. To help the innocent people being framed or seek truth from what is wrong.I like justice. To help the innocent people being framed or seek truth from what is wrong.I like justice. To help the innocent people being framed or seek truth from what is wrong.I like justice. To help the innocent people being framed or seek truth from what is wrong.