The mean age of the pregnant women,

The mean age of the pregnant women, in both the
groups, was comparable. Table 1 shows the detailed comparison
of all the maternal variables studied in the two groups.
The women exposed to ETS had higher parity and a greater
number of live births as compared to women not exposed to
ETS. The women exposed to ETS were less educated as compared
to those not exposed to ETS (11.3% vs. 4.8% illiterates
and 16.3% vs. 45% graduates or above, respectively) and fewer
were employed. Among the antenatal problems, there was a
significantly higher incidence of anaemia among the group
exposed to ETS (P=0.003). The median exposure index in the
study group was 115.8 (range 31 to 2880, inter-quartile range
133.5).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อายุของหญิงตั้งครรภ์ ทั้งในการกลุ่ม ได้เปรียบ ตารางที่ 1 แสดงการเปรียบเทียบรายละเอียดของตัวแปรที่มารดานักเรียนในกลุ่มสองผู้หญิงที่สัมผัสกับ ETS มีความเท่าเทียมกันสูงขึ้นและขึ้นจำนวนชีพเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้สัมผัสกับETS ผู้หญิงที่สัมผัสกับ ETS ได้น้อยศึกษาเปรียบให้กับผู้ที่ไม่ได้สัมผัสกับ ETS (11.3% เทียบกับ 4.8% ซึ่งและ 16.3% เทียบ กับบัณฑิต 45% หรือเหนือ ตามลำดับ) และน้อยกว่าได้เข้าทำงาน ในปัญหาครรภ์ มีเป็นแบบอย่างมีนัยสำคัญสูงขึ้นอุบัติการณ์ของโรคโลหิตจางในกลุ่มสัมผัสกับ ETS (P = 0.003) ดัชนีเฉลี่ยค่าแสงในการกลุ่มศึกษาคือ 115.8 (ช่วง 31 2880 ช่วงระหว่างควอไทล์133.5)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อายุเฉลี่ยของหญิงตั้งครรภ์ทั้งใน
กลุ่มเทียบเคียง ตารางที่ 1 แสดงให้เห็นถึงการเปรียบเทียบรายละเอียด
ของทุกตัวแปรมารดาศึกษาในทั้งสองกลุ่ม.
ผู้หญิงสัมผัสกับ ETS มีความเท่าเทียมกันที่สูงขึ้นและมากขึ้น
จำนวนการเกิดมีชีพเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้สัมผัสกับ
ETS ผู้หญิงสัมผัสกับ ETS ได้รับการศึกษาน้อยลงเมื่อเทียบ
กับผู้ที่ไม่ได้สัมผัสกับ ETS (11.3% เทียบกับ 4.8% ไม่รู้หนังสือ
และเทียบกับผู้สำเร็จการศึกษา 45% หรือสูงกว่าตามลำดับ 16.3%) และน้อยกว่า
ที่ถูกว่าจ้าง ท่ามกลางปัญหาฝากครรภ์มี
อุบัติการณ์สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของโรคโลหิตจางในหมู่กลุ่ม
สัมผัสกับ ETS (p = 0.003) ดัชนีเฉลี่ยการสัมผัสใน
กลุ่มการศึกษาเป็น 115.8 (ช่วง 31-2880 ระหว่างควอไทล์ช่วง
133.5)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อายุเฉลี่ยของหญิงตั้งครรภ์ ในทั้งกลุ่ม คือ เทียบเท่า ตารางที่ 1 แสดงการเปรียบเทียบรายละเอียดทั้งหมดของตัวแปรที่ศึกษาใน 2 กลุ่ม คือผู้หญิงตาก ETS และสูงกว่ากันมากขึ้นจํานวนเกิด อยู่ เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้สัมผัสets ผู้หญิงที่ได้รับการศึกษาน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนแผ่นผู้ที่ไม่ได้สัมผัสกับ ETS ( 11.3% เทียบกับ 4.8% illiterates16.3 % กับบัณฑิตและ 45 % ขึ้นไป ตามลำดับ ) และน้อยกว่างาน ท่ามกลางปัญหาการตั้งครรภ์ มีอุบัติการณ์ของภาวะโลหิตจางสูงกว่าของกลุ่มสัมผัสกับ ETS ( p = 0.003 ) ดัชนีความเสี่ยงเฉลี่ยในกลุ่มการศึกษา 115.8 ( ช่วง 31 ถึง 2880 ระหว่างควอไทล์ ช่วง133.5 )