++ พันธุ์ของผักกระเฉดชะลูดน้ำ ++
การปลูกผักกระเฉดชะลูดน้ำนั้นไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแต่ต้องใช้เวลา และเป็นการพัมนาต่อิยอกมาจากการปลูกผักกระเฉดโดยทั่วไป ที่จะใช้พันธุ์ผักกระเฉดที่มีอยูุ่ 2 พันธุ์ ตามที่ชาวบ้านเรียกกันตามลักษณะของต้นจนติดปากว่า พันธุ์เล็ก และพันธุ์ใหญ่
พันธุ์ใหญ่ : จะมีขนาดลำต้นใหญ่ อวบอิ่ม ข้อเด่นชัดน่ารับประทาน แต่รสชาติด้อยกว่าพันธุ์เล็ก
พันธุ์เล็ก : ขนาดลำต้นเล็ก ข้อปล้องไม่เด่นชัดเท่าพันธุ์ใหย่ แต่รสชาติดีกว่า
ทั้งสองพันธุ์มีการปลูกและดูแลรักษาเหมือนกัน ดังนี้
การเตรียมบ่อสำหรับขยายพันธุ์ : ป้านึกเล่าให้ฟังว่าเตรียมคล้ายกับการปลูกผักกระเฉดทั่วไป โดยที่หมู่บ้านจะมีบ่อสาธารณะให้แก่เกษตรกรในหมู่บ้านได้ใช้ร่วมกัน ระยะปักหลักใช้ 1*1 เมตร ยิ่งระยะห่างการแตกยอดยิ่งดีมากขึ้น ขณะที่ความลึกของระดับน้ำประมาณ 1-1.2 เมตร เพื่อให้สะดวกในการเก็บเกี่ยวยอดพันธุ์ และต้องระวังสัตว์น้ำกินพืชซึ่งจะมีตาข่ายป้องกันเอาไว้ ส่วนพวกศัตรูพืช เช่น เพลี้ย ที่มักเข้ามากัดกินใบอ่อน ยอดอ่อน สร้างความเสียหายอยู่บ้าง
พบการระบาดไม่แน่นอน ไม่ได้เน้นการฉีดยาป้องกัน ปล่อยให้หยุดการระบาดไปเอง ไม่เกิน 1-2 อาทิตย์ หลังจากนั้นจึงนำท่อนพันธุ์ลงปลูกประมาณ 2-3 เดือน จึงเริ่มเก็บเกี่ยวยอดพันธุ์ไปเพาะเลี้ยงในบ่อที่จะทำผักกระเฉดชะลูดน้ำต่อ ไป
การดูแลให้ปุ๋ย : ในระหว่างนี้บำรุงด้วยการใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ใส่ทุกครั้งหลังการเก็บเกี่ยวยอดไปแล้ว ประมาณ 7-10 วัน/ครั้ง ใส่ประมาณ 1 กำมือ / หลัก ปลูกไว้จำนวน 50 หลัก ใช้ปุ๋ยประมาณ 1 กระสอบ / เดือน เมื่อเข้าฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม-เดือนมกราคมในปีถัดไป การแตกยอดจะเริ่มชะงักลงอาจใส่ปุ๋ยเพิ่มเติมจากปกติเล็กน้อย เพื่อเร่งการแตกยอดให้สามารถเก็บเกี่ยวได้บ้าง