Nowadays, energy crisis and environ

Nowadays, energy crisis and environmental problems have become the serious issues facing all lives on the earth. It mainly attributed to more use of energy via combustion systems. The process that directly causes these problems is power generation using fossil fuel. The World Energy Outlook shows that about 80 to 90 % of the world’s energy consumption is derived from the burning/combustion of fossil fuels (31% coal, 35% oil and 23% natural gas) as primary energy [1, 2]. Moreover, it is predicted that these fossil energy sources will be depleted within the next 40–50 years [2]. The global energy demand is increasing due to the rapid increase in world’s population and economic development [3]. One reason for the increase in non-industrial electricity consumption is due to electrification and air conditioned buildings using electricity [4, 5]. During 2006 to 2030, the global green-house gas (GHG) emissions are expected to be increased by about 45% [3].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปัจจุบัน วิกฤตพลังงานและปัญหาสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็น ปัญหาร้ายแรงที่หันชีวิตทั้งหมดบนโลก ส่วนใหญ่มันเกิดจากการเพิ่มการใช้พลังงานผ่านระบบเผาไหม้ กระบวนการที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้โดยตรงคือ ไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล แนวโน้มพลังงานโลกแสดงที่ประมาณ 80-90% ของการใช้พลังงานของโลกที่ได้มาจากการเผาไหม้/สันดาปของเชื้อเพลิงฟอสซิล (ถ่านหิน 31%, 35% น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติร้อยละ 23) เป็นพลังงานหลัก [1, 2] นอกจากนี้ มันถูกคาดการณ์ว่า แหล่งพลังงานซากดึกดำบรรพ์เหล่านี้จะหมดลงภายในอีก 40-50 ปี [2] ความต้องการพลังงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของโลกประชากรและการพัฒนาเศรษฐกิจ [3] เหตุผลหนึ่งสำหรับการเพิ่มการใช้พลังงานไฟฟ้าไม่เป็นอุตสาหกรรมที่มีเนื่องจากไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศอาคารที่ใช้ไฟฟ้า [4, 5] ระหว่าง 2006 2030 ปล่อยโลกก๊าซเรือนกระจก (GHG) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 45% [3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัจจุบันวิกฤตพลังงานและปัญหาสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นปัญหาร้ายแรงหันหน้าไปทุกชีวิตบนแผ่นดินโลก ส่วนใหญ่จะนำมาประกอบกับการใช้งานมากขึ้นของพลังงานผ่านระบบการเผาไหม้ กระบวนการที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ได้โดยตรงคือการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล โลกแนวโน้มพลังงานแสดงให้เห็นว่าประมาณ 80 ถึง 90% ของการใช้พลังงานของโลกที่ได้รับมาจากการเผาไหม้ / การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล (31% ถ่านหิน 35% น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ 23%) เป็นพลังงานหลัก [1, 2] นอกจากนี้ยังเป็นที่คาดการณ์ว่าสิ่งเหล่านี้แหล่งพลังงานฟอสซิลจะหมดลงภายใน 40-50 ปีข้างหน้า [2] ความต้องการพลังงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประชากรโลกและการพัฒนาเศรษฐกิจ [3] เหตุผลหนึ่งที่เพิ่มขึ้นของปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมเกิดจากการใช้พลังงานไฟฟ้าในอาคารปรับอากาศใช้ไฟฟ้า [4, 5] ในช่วง 2006-2030 ก๊าซเรือนทั่วโลก (GHG) ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 45% [3]