In this manner, the Amazon server i

In this manner, the Amazon server is able to track Susan’s activity at the Amazon site. Although the Amazon Web site does not necessarily know Susan’s name, it knows exactly which pages user 1678 visited, in which order, and at what times! Amazon uses cookies to provide its shopping cart service—Amazon can maintain a list of all of Susan’s intended purchases, so that she can pay for them collectively at the end of the session. If Susan returns to Amazon’s site, say, one week later, her browser will continue to put the header line Cookie: 1678 in the request messages. Amazon also recommends products to Susan based on Web pages she has visited at Amazon in the past. If Susan also registers herself with Amazon—providing full name, e-mail address, postal address, and credit card information—Amazon can then include this information in its database, thereby associating Susan’s name with her identification number (and all of the pages she has visited at the site in the past!). This is how Amazon and other e-commerce sites provide “one-click shopping”—when Susan chooses to purchase an item during a subsequent visit, she doesn’t need to re-enter her name, credit card number, or address. From this discussion we see that cookies can be used to identify a user. The first time a user visits a site, the user can provide a user identification (possibly his or her name). During the subsequent sessions, the browser passes a cookie header to the server, thereby identifying the user to the server. Cookies can thus be used to create a user session layer on top of stateless HTTP. For example, when a user logs in to a Web-based e-mail application (such as Hotmail), the browser sends cookie information to the server, permitting the server to identify the user throughout the user’s session with the application. Although cookies often simplify the Internet shopping experience for the user, they are controversial because they can also be considered as an invasion of privacy. As we just saw, using a combination of cookies and user-supplied account information, a Web site can learn a lot about a user and potentially sell this information to a third party. Cookie Central [Cookie Central 2012] includes extensive information on the cookie controversy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในลักษณะนี้ เซิร์ฟเวอร์ Amazon จะสามารถติดตามกิจกรรมของซูซานที่ Amazon เว็บไซต์ แม้ว่า Amazon เว็บไซต์ไม่จำเป็นต้องทราบชื่อของซูซาน รู้ตรงหน้าผู้ใช้ที่สถานเยี่ยมชม ลำดับที่ และครั้งใด อเมซอนใช้คุกกี้เพื่อให้บริการรถเข็นช้อปปิ้ง — Amazon สามารถเก็บรักษารายการทั้งหมดของซูซานตั้งใจซื้อ ดังนั้นเธอสามารถชำระเงินโดยรวมเมื่อสิ้นสุดเซสชัน ถ้าซูซานกลับไปเว็บไซต์ของ Amazon กล่าวว่า หนึ่งสัปดาห์หลัง เบราว์เซอร์ของเธอจะใส่บรรทัดหัวข้อคุกกี้: สถานที่ในข้อความร้องขอ Amazon แนะนำผลิตภัณฑ์ให้ซูซานอิงตามหน้าเว็บเธอเข้าที่ในอดีต ถ้าซูซานยังลงทะเบียนตัวเองกับ Amazon ซึ่งให้ชื่อนามสกุล อีเมล์ ไปรษณีย์ และข้อมูลบัตรเครดิต — Amazon สามารถรวมข้อมูลในฐานข้อมูล เชื่อมโยงชื่อของซูซานจึง มีหมายเลขประจำตัวของเธอ (และหน้าเธอได้เข้าเยี่ยมชมไซต์ในอดีตทั้งหมด) นี้คือวิธี Amazon และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอื่น ๆ ให้ "คลิช้อปปิ้ง" — เมื่อซูซานเลือกที่จะซื้อสินค้าในขณะตามมา เธอไม่ต้องการใส่ชื่อ หมายเลขบัตรเครดิต หรือที่อยู่ จากการสนทนานี้ เราเห็นว่า สามารถใช้คุกกี้เพื่อระบุผู้ใช้ ครั้งแรกที่ผู้เยี่ยมชมไซต์ ผู้ใช้สามารถใส่รหัสผู้ใช้ (อาจเป็น ชื่อของ) ช่วงต่อมา เบราว์เซอร์ผ่านส่วนหัวของคุกกี้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ จึงระบุผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ จึงสามารถใช้คุกกี้เพื่อสร้างชั้นเซสชันผู้ใช้บน HTTP ไร้สัญชาติ ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ใช้เข้าสู่ในโปรแกรมอีเมลแบบใช้เว็บ (เช่น Hotmail), เบราว์เซอร์ส่งข้อมูลคุกกี้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ อนุญาตให้เซิร์ฟเวอร์เพื่อระบุผู้ใช้ตลอดเซสชันของผู้ใช้กับโปรแกรม แม้ว่าคุกกี้มักจะทำให้อินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ใช้ในการช็อปปิ้ง จะถกเถียงกันเนื่องจากพวกเขายังถือได้ว่าเป็นการบุกรุกความเป็นส่วนตัว เราแค่เห็น ใช้คุกกี้และข้อมูลให้ผู้ใช้บัญชี เว็บไซต์สามารถเรียนรู้มากเกี่ยวกับผู้ใช้ และอาจขายข้อมูลนี้กับบุคคลที่สาม เซ็นทรัลคุกกี้ [คุกกี้เซ็นทรัล 2012] ประกอบด้วยข้อมูลมากมายที่ถกเถียงคุกกี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในลักษณะนี้เซิร์ฟเวอร์ Amazon สามารถติดตามกิจกรรมของซูซานได้ที่เว็บไซต์อเมซอน แม้ว่าเว็บไซต์อเมซอนไม่จำเป็นต้องทราบชื่อของซูซานก็รู้ว่าที่ผู้เข้าเยี่ยมชมหน้า 1678 ซึ่งในการสั่งซื้อและสิ่งที่ครั้ง! อเมซอนใช้คุกกี้เพื่อให้รถเข็นของบริการ Amazon สามารถรักษารายการทั้งหมดของการสั่งซื้อของซูซานตั้งใจเพื่อที่เธอสามารถจ่ายสำหรับพวกเขาเรียกในตอนท้ายของเซสชั่น หากซูซานกลับไปยังเว็บไซต์ของ Amazon พูดหนึ่งสัปดาห์ต่อมาเบราว์เซอร์ของเธอจะยังคงที่จะนำสายหัวคุกกี้: 1678 ในข้อความร้องขอ Amazon ยังแนะนำผลิตภัณฑ์ให้กับซูซานขึ้นอยู่กับหน้าเว็บที่เธอได้เข้าเยี่ยมชมที่ Amazon ในอดีตที่ผ่านมา หากซูซานยังลงทะเบียนตัวเองกับ Amazon-ให้ชื่อเต็ม e-mail address ที่อยู่ทางไปรษณีย์และข้อมูลบัตรเครดิต-Amazon นั้นจะสามารถรวมข้อมูลนี้ในฐานข้อมูลของจึงเชื่อมโยงชื่อของซูซานที่มีหมายเลขประจำตัวของเธอ (และทุกหน้าของเธอ ได้เข้าเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ในอดีตที่ผ่านมา!) นี่คือวิธีที่ Amazon และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอื่น ๆ ให้ "หนึ่งคลิกช้อปปิ้ง" เมื่อมีซูซานเลือกที่จะซื้อสินค้าในระหว่างการเยือนต่อมาเธอไม่จำเป็นต้องใส่ชื่อของเธอหมายเลขบัตรเครดิตหรือที่อยู่ จากการสนทนานี้เราจะเห็นว่าคุกกี้สามารถใช้ในการระบุผู้ใช้ ครั้งแรกที่ผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์ที่ผู้ใช้สามารถให้ข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ (อาจจะเป็นชื่อของเขาหรือเธอ) การประชุมในช่วงต่อมาเบราว์เซอร์ผ่านส่วนหัวคุกกี้ไปยังเซิร์ฟเวอร์จึงระบุผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ คุกกี้จึงสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างเลเยอร์เซสชันของผู้ใช้ที่ด้านบนของ HTTP ไร้สัญชาติ ตัวอย่างเช่นเมื่อผู้ใช้ล็อกอินเข้าใช้แอพลิเคชันอีเมลทางเว็บ (เช่น Hotmail), เบราว์เซอร์จะส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์คุกกี้ที่อนุญาตให้เซิร์ฟเวอร์เพื่อระบุผู้ใช้ตลอดช่วงของผู้ใช้พร้อมกับใบสมัคร แม้ว่าคุกกี้มักจะลดความซับซ้อนของการช้อปปิ้งอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ใช้ที่พวกเขาจะแย้งเพราะพวกเขายังสามารถได้รับการพิจารณาเป็นการบุกรุกของความเป็นส่วนตัว ในฐานะที่เราเพิ่งเห็นโดยใช้การรวมกันของคุกกี้และข้อมูลบัญชีผู้ใช้จัดให้เว็บไซต์สามารถเรียนรู้มากเกี่ยวกับผู้ใช้และอาจขายข้อมูลนี้ไปยังบุคคลที่สาม คุกกี้กลาง [Cookie กลาง 2012] รวมถึงข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทคุกกี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในลักษณะนี้ , Amazon เซิร์ฟเวอร์สามารถติดตามกิจกรรมของซูซานที่อเมซอนเว็บไซต์ . แม้ว่าเว็บไซต์ Amazon ไม่จําเป็นต้องรู้ชื่อ ซูซาน มันรู้ว่าหน้าแถมที่ผู้ใช้เข้าชม ซึ่งในการสั่งซื้อและในสิ่งที่เวลา Amazon ใช้คุกกี้เพื่อให้การช้อปปิ้งรถเข็นบริการ Amazon สามารถรักษารายชื่อทั้งหมดของซูซานตั้งใจซื้อ เพื่อที่เธอจะสามารถจ่ายสำหรับพวกเขาซึ่งที่ส่วนท้ายของเซสชั่น ถ้าผมกลับไปเป็น Amazon เว็บไซต์ พูด หนึ่งสัปดาห์ต่อมา เบราว์เซอร์ของเธอจะยังคงใส่ส่วนหัวสายคุกกี้ : แถมในการร้องขอข้อความ Amazon ยังแนะนำผลิตภัณฑ์กับซูซานตามหน้าเว็บ เธอได้เดินทางไปที่ Amazon ในอดีต ถ้า ซูซาน ยังลงทะเบียนตัวเองกับอเมซอนให้เต็มชื่อ อีเมล์ ที่อยู่ , ที่อยู่ , และ Amazon ข้อมูลบัตรเครดิตสามารถรวมข้อมูลนี้ในฐานข้อมูลของ งบประกอบชื่อซูซานกับหมายเลขประจำตัวของเธอ ( และทั้งหมดของหน้าเว็บที่เธอได้เข้าเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ในอดีต ) นี่คือวิธีที่ Amazon และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอื่น ๆให้ " หนึ่งคลิกช็อปปิ้ง " - เมื่อซูซานเลือกซื้อสินค้าระหว่างการเยี่ยมชมที่ตามมา เธอไม่จำเป็นต้องใส่ชื่อ , หมายเลขบัตรเครดิต , ที่อยู่หรือ . จากการสนทนานี้เราเห็นคุกกี้ที่สามารถใช้เพื่อระบุผู้ใช้ ครั้งแรกที่ผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์ ผู้ใช้สามารถให้ผู้ใช้กำหนด ( อาจจะชื่อของเขาหรือเธอ ) ระหว่างการประชุมที่ตามมา , เบราว์เซอร์คุกกี้ผ่านหัวไปยังเซิร์ฟเวอร์ เพื่อระบุผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ คุกกี้ ดังนั้นจึงสามารถใช้ในการสร้างเซสชันของผู้ใช้ชั้นบนของโรงทาน http . ตัวอย่างเช่นเมื่อผู้ใช้ล็อกอินเข้าเว็บอีเมลโปรแกรมประยุกต์ ( เช่น Hotmail ) , คุกกี้เบราว์เซอร์ส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์การอนุญาตให้เซิร์ฟเวอร์เพื่อระบุผู้ใช้ตลอดเซสชันของผู้ใช้กับโปรแกรมประยุกต์ แม้ว่าคุกกี้มักจะลดความซับซ้อนของประสบการณ์การช้อปปิ้งอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ใช้ที่พวกเขาจะแย้งเพราะพวกเขายังสามารถถือเป็นการรุกรานของความเป็นส่วนตัว เท่าที่เราเห็น การรวมกันของคุกกี้และให้ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ เว็บไซต์สามารถเรียนรู้มากเกี่ยวกับผู้ใช้และอาจขายข้อมูลนี้ไปยังบุคคลที่สาม คุกกี้คุกกี้กลางกลาง [ 2012 ] รวมถึงข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับคุกกี้ข้อพิพาท