FindingsPhase 1: The Case StudyThe

Findings
Phase 1: The Case Study
The case study site was a South Australian government secondary school situated in the
metropolitan area, “Crystal Coast Secondary School” [a pseudonym]. The case study site had a
population of 1430 students from Years 8–12, with approximately 840 students in Years 8–10.
The existing middle school structures, organisation and teaching and learning practices were
largely based on authentic models of education (Kalantzis and Cope 2008). A high level of
technology integration existed within the school, with all students able to access their own
electronic device; an IPad from Years 8 and 9, or a Mac Book in the senior years. Given that the
1:1 program had been a strong driver for change in the case study school, teachers were
conscious of the need to integrate technology into teaching and learning practices in a variety of
ways. A redevelopment of the school infrastructure was also underway, in the form of new
buildings, classrooms and common areas with increased connectivity for students.
As shown in Table 3, four educators across three learning areas participated in this research,
implementing a total of seven iterations of collaborative learning design over two terms. Two
experienced teachers from Visual Arts and English participated, with two early career teachers
from Science and English also taking part in the research.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลการศึกษาระยะที่ 1: กรณีศึกษาเว็บไซต์กรณีศึกษาเป็นโรงเรียนมัธยมรัฐบาลออสเตรเลียใต้ในการนคร, "คริสตัลฝั่งมัธยม" [นามแฝง] กรณีศึกษาเว็บไซต์ได้ประชากรนักเรียน 1430 จากปี 8 – 12, 8 – 10 ปีประมาณ 840 นักโครงสร้างของโรงเรียนที่มี องค์กร และการเรียนการสอน และปฏิบัติการเรียนรู้ส่วนใหญ่ตามรูปแท้จริงของการศึกษา (Kalantzis และรับมือ 2008) ในระดับสูงเทคโนโลยีรวมอยู่ภายในโรงเรียน นักเรียนทุกคนสามารถเข้าถึงตัวเองอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ IPad จาก 8 ปี และ 9 หรือ หนังสือ Mac ในปีอาวุโส ระบุว่าการโปรแกรม 1:1 ได้รับโปรแกรมควบคุมที่แข็งแกร่งสำหรับการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนกรณีศึกษา ครูจิตสำนึกต้องบูรณาการเทคโนโลยีในการสอน และการเรียนรู้วิธีปฏิบัติได้หลากหลายวิธี ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในโรงเรียนก็ยังดำเนิน ในรูปแบบของใหม่อาคาร ห้องเรียน และมีการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นสำหรับนักเรียนดังแสดงในตารางที่ 3, 4 นักการศึกษาทั้งสามพื้นที่การเรียนรู้ที่เข้าร่วมในงานวิจัยการใช้จำนวนซ้ำที่เจ็ดของการออกแบบการเรียนรู้ร่วมกันมากกว่าสอง สองเข้าร่วมมีประสบการณ์ครูทัศนศิลป์และภาษาอังกฤษ กับสองต้นอาชีพครูจากวิทยาศาสตร์และอังกฤษนอกจากนี้ การมีส่วนร่วมในการวิจัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการวิจัย
ระยะที่ 1: กรณีศึกษา
เว็บไซต์กรณีศึกษาเป็นรัฐบาลออสเตรเลียใต้โรงเรียนมัธยมตั้งอยู่ใน
เขตเมือง "คริสตัลชายฝั่งโรงเรียนมัธยม" [นามแฝง] เว็บไซต์กรณีศึกษามี
ประชากรนักเรียน 1430 จาก 8-12 ปีที่มีประมาณ 840 นักเรียนในปีที่ผ่านมา 8-10.
มีอยู่โครงสร้างโรงเรียนกลางองค์กรและการเรียนการสอนและการเรียนรู้วิธีปฏิบัติที่ได้รับ
ส่วนใหญ่ในรูปแบบที่แท้จริงของการศึกษา (Kalantzis และรับมือ 2008) ระดับสูงของ
การรวมเทคโนโลยีที่มีอยู่ภายในโรงเรียนมีนักเรียนทั้งหมดสามารถเข้าถึงพวกเขาเอง
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไอแพดจากปีที่ 8 และ 9 หรือหนังสือ Mac ในปีอาวุโส ระบุว่า
1: 1 โปรแกรมที่เคยเป็นคนขับรถที่แข็งแกร่งสำหรับการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนกรณีศึกษาครูมี
จิตสำนึกของความจำเป็นที่จะต้องบูรณาการเทคโนโลยีในการเรียนการสอนและการเรียนรู้การปฏิบัติในความหลากหลายของ
วิธีการ พัฒนาขื้นใหม่ของโครงสร้างพื้นฐานของโรงเรียนก็ยังเป็นชิ้นในรูปแบบของใหม่
อาคารห้องเรียนและพื้นที่ทั่วไปด้วยการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นสำหรับนักเรียน.
ดังแสดงในตารางที่ 3 สี่การศึกษาทั่วทั้งสามพื้นที่การเรียนรู้มีส่วนร่วมในงานวิจัยนี้ได้
ดำเนินการทั้งหมดเจ็ดซ้ำ ของการออกแบบเรียนรู้ร่วมกันกว่าสองแง่ สอง
ครูที่มีประสบการณ์จากทัศนศิลป์และอังกฤษเข้าร่วมกับสองครูต้นอาชีพ
จากวิทยาศาสตร์และภาษาอังกฤษนอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในการวิจัย