4. Concluding RemarksMalaysia’s gro

4. Concluding Remarks
Malaysia’s growth and development strategies have been generally consistent with all the
growth theories. But they have failed to deliver a high income nation status given the
problems highlighted in the preceding section. This could plausibly be due to the nonexistence
of the factors identified by the growth theories as vital for economic growth in
sufficient dosage. However though the challenges are tough, it is not all gloom and doom
for Malaysia. It merely needs to undertake structural reforms and fine tuning of its policies
with a strong political will. It is not too late for it to mobilize or harness the balance of its
natural resources in an optimal mix with the right human capital to propel it to the ranks of
high-income economies. It is imperative that the country needs to stay competitive internationally
in an increasingly challenging global environment. In a development process, it
could be the quality of human capital that matters. Other factors would fall in place and all
obstacles are surmountable once there are right people to steer the ship. Singapore is a fine
example with odds stacked against it way back in the 1960s.
The need for Malaysia to develop, manage and conserve its human resources well can
never be overemphasized. Global competition for skills and talent is set to intensify as both
advanced and developing nations are poised for a shortage of skilled workers. A recent
study by McKinsey Global Institute (MGI) projects that the world economy could encounter
an acute skills mismatch problem by 2020, when there would be a scarcity of
medium to high-skilled workers but a surplus of low-skilled workers. Specifically, the
world is expected to face a shortage of 38–40 million high-skilled workers. With respect to
developing countries, there could be a shortage of about 45 million medium-skilled
workers. In contrast, there is a potential surplus of 90–95 million low-skilled workers
globally by 2020.
As an external booster, it could strive to exploit opportunities from any tectonic shift in
the world economic power to Asia particularly China. China is spending massively on
developing scientific capabilities. It is second to the US in terms of the number of scientific
papers published. According to OECD estimates, China spends about US$154 billion a
Malaysia’s Economic Growth and Development
1450023-15
year on research and development from just US$30 billion a decade ago. The number of
patent filings in the US by China’s proprietors has also soared from just 90 in 1999–1655
in 2009. Apart from exploring for more regional market potentials, it could foster trade and
investment relationships with Russia, South America, the Middle East and Africa as they
have good growth prospects as well. In fact, emerging economies are projected to account
for more than half of the world’s GDP growth over the next decade.
For Malaysia to derive the potential benefits of globalization further, it should also have
strong administrative, institutional and organizational structures. Organizational success
and failure explain the progress and retrogression of societies (North, 1981, p. 59). Hence,
Professor Lim’s Trinity Growth Theory remains relevant to Malaysia.
However in the quest for a high income nation status, it can ill afford to totally ignore
the distributive aspect even though this may imply a slower progress towards a high
income status. It is imperative that its redistributive policy is still in place somehow.
Otherwise, the poor Malaysians will remain poor. Political instability, if it arises, could
spell the degeneration of a horse economy into a turtle economy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. หมายเหตุสรุปกลยุทธ์การเจริญเติบโตและพัฒนาของประเทศมาเลเซียได้โดยทั่วไปสอดคล้องกับการทฤษฎีการเจริญเติบโต แต่พวกเขาไม่สามารถจัดส่งสถานะประเทศรายได้สูงได้รับการปัญหาที่เน้นในส่วนก่อนหน้านี้ อาจเป็น เพราะ nonexistence ที่ plausiblyปัจจัยที่ระบุทฤษฎีการเจริญเติบโตเป็นความสำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในปริมาณเพียงพอ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความท้าทายยาก ไม่หยีและลงโทษทั้งหมดในมาเลเซีย เพียงแต่ต้องดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างระบบและนโยบายมีความแข็งแกร่งทางการเมือง ไม่สายเกินไปสำหรับการระดม หรือเทียมสมดุลของมันทรัพยากรธรรมชาติในการผสมเหมาะสมกับบุคลากรทางการขับเคลื่อนเพื่อไปประเทศร่ำรวย มันเป็นสิ่งจำเป็นที่ประเทศต้องพักการแข่งขันในระดับสากลในภาวะท้าทายมากขึ้น ในกระบวนการพัฒนา มันไม่มีคุณภาพของทุนมนุษย์ที่สำคัญ ปัจจัยอื่น ๆ จะตกอยู่ในสถานที่และทั้งหมดอุปสรรคมี surmountable เมื่อมีคนคัดท้ายเรือ สิงคโปร์ได้ปรับตัวอย่างราคาซ้อนกับมันทางกลับในปี 1960สำหรับประเทศมาเลเซียเพื่อพัฒนา จัดการ และอนุรักษ์ทรัพยากรบุคคลดีสามารถไม่มี overemphasized แข่งขันทักษะและความสามารถถูกตั้งค่าให้กระชับเป็นทั้งขั้นสูง และพัฒนาประเทศกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการขาดแคลนแรงงานฝีมือ ตัวล่าสุดศึกษาตามโครงการสถาบันสากลของ McKinsey (MGI) ที่เศรษฐกิจโลกอาจพบมีปัญหาตรงที่ทักษะเฉียบพลัน โดย 2020 เมื่อจะมีการขาดแคลนของปานกลางถึงสูงฝีมือแรงแต่ส่วนเกินของแรงงานทักษะต่ำ โดยเฉพาะ การคาดว่าโลกจะเผชิญปัญหาการขาดแคลนแรงงานสูง 38 – 40 ล้าน มี respect เพื่อประเทศกำลังพัฒนา อาจมีขาดประมาณ 45 ล้านฝีมือปานกลางคนงาน ในทางตรงกันข้าม ไม่เกินศักยภาพของแรงงานฝีมือต่ำ 90 – 95 ล้านทั่วโลก โดย 2020เป็นบูสเตอร์ที่ภายนอก มันอาจพยายามใช้โอกาสจากใด ๆ กะธรณีอำนาจทางเศรษฐกิจโลกเอเชียโดยเฉพาะจีน จีนจะใช้จ่ายอย่างหนาแน่นในพัฒนาความสามารถทางวิทยาศาสตร์ เป็นที่สองไปยังสหรัฐอเมริกาในแง่ของวิทยาศาสตร์เอกสารเผยแพร่ ตามการประเมินของ OECD จีนใช้ประมาณ 154 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นพัฒนาและเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซีย1450023-15ปีในการวิจัยและพัฒนาจากแค่ 30 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทศวรรษที่ผ่านมา จำนวนยื่นเอกสารแจ้งสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกาโดยจีนกล่าวได้นอกจากนี้ยังเพิ่มสูงขึ้นเพียง 90 ในปี 1999 – 1655ในปี 2552 จากการสำรวจศักยภาพตลาดภูมิภาคมากขึ้น มันสามารถส่งเสริมค้า และลงทุนความสัมพันธ์กับรัสเซีย อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเป็นพวกเขามีแนวโน้มเติบโตดีเช่นกัน ในความเป็นจริง การคาดการณ์เศรษฐกิจเกิดบัญชีกว่าครึ่งหนึ่งของการเจริญเติบโตของ GDP ของโลกกว่าทศวรรษถัดไปในมาเลเซียจะได้รับผลประโยชน์อาจเกิดขึ้นของโลกาภิวัตน์ต่อไป มันควรมีแข็งแรงดูแล สถาบัน และองค์กรโครงสร้างการ ความสำเร็จขององค์กรและความล้มเหลวอธิบายความคืบหน้าและ retrogression ของสังคม (เหนือ 1981, p. 59) ดังนั้นอาจารย์ Lim ทรีนีตี้เติบโตทฤษฎียังคงเกี่ยวข้องกับมาเลเซียอย่างไรก็ ตามในการแสวงหาสถานะประเทศรายได้สูง สามารถ ป่วยสามารถละเว้นทั้งหมดด้านแจกแจงแม้ว่านี้อาจเป็นสิทธิ์แบบคืบหน้าช้าไปมากสถานะของเงิน มันเป็นความจำเป็นว่า นโยบาย redistributive ยังเป็นสถานที่อย่างใดมิฉะนั้น มาเลเซียไม่ดียังคงยากจน ขาดเสถียรภาพทางการเมือง ถ้าเกิดขึ้น สามารถสะกดเสื่อมของม้าระบบเศรษฐกิจเข้าสู่เศรษฐกิจเต่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4. สรุปข้อสังเกตการเจริญเติบโตของประเทศมาเลเซียและกลยุทธ์การพัฒนาได้รับโดยทั่วไปสอดคล้องกับทฤษฎีการเจริญเติบโต แต่พวกเขาจะยังไม่ได้ส่งมอบสถานะประเทศที่มีรายได้สูงได้รับปัญหาเน้นในส่วนก่อนหน้านี้ เหตุผลนี้อาจเป็นเพราะ nonexistence ของปัจจัยที่ระบุโดยทฤษฎีการเจริญเติบโตเป็นสำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในปริมาณที่เพียงพอ อย่างไรก็ตามแม้ว่าความท้าทายที่ยากก็ไม่ได้ทั้งหมดเศร้าโศกและลงโทษมาเลเซีย มันเป็นเพียงความต้องการที่จะดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างและการปรับแต่งที่ดีของนโยบายที่มีความประสงค์ทางการเมืองที่แข็งแกร่ง มันไม่สายเกินไปสำหรับมันเพื่อระดมหรือควบคุมความสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติในการผสมผสานที่ดีที่สุดที่เหมาะสมกับทุนมนุษย์เพื่อขับเคลื่อนไปที่การจัดอันดับของเศรษฐกิจที่มีรายได้สูง มีความจำเป็นที่ประเทศต้องอยู่แข่งขันในระดับสากลในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายมากขึ้นทั่วโลก ในขั้นตอนการพัฒนาก็อาจจะเป็นคุณภาพของทุนมนุษย์ที่สำคัญว่า ปัจจัยอื่น ๆ ที่จะตกอยู่ในสถานที่และทุกอุปสรรคเอาชนะที่ครั้งหนึ่งเคยมีคนขวาเพื่อคัดท้ายเรือ สิงคโปร์เป็นดีตัวอย่างเช่นด้วยราคาซ้อนกันกับมันด้วยวิธีย้อนกลับไปในปี 1960. ความจำเป็นในการที่จะพัฒนาประเทศมาเลเซียการจัดการและอนุรักษ์ทรัพยากรมนุษย์ดีสามารถไม่ถูกเน้น การแข่งขันระดับโลกสำหรับทักษะและความสามารถในการตั้งค่าที่จะกระชับขณะที่ทั้งสองประเทศที่ทันสมัยและการพัฒนาจะทรงตัวสำหรับปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ล่าสุดการศึกษาโดยสถาบัน McKinsey ทั่วโลก (MGI) โครงการว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะพบปัญหาที่ไม่ตรงกันทักษะเฉียบพลันในปี2020 เมื่อจะมีการขาดแคลนของกลางให้กับแรงงานที่มีทักษะสูงแต่ส่วนเกินของแรงงานต่ำที่มีทักษะ โดยเฉพาะโลกที่คาดว่าจะต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลน 38-40000000 คนงานสูงที่มีทักษะ ด้วยความเคารพต่อประเทศกำลังพัฒนาอาจจะมีปัญหาการขาดแคลนประมาณ 45 ล้านกลางฝีมือแรงงาน ในทางตรงกันข้ามมีส่วนเกินที่อาจเกิดขึ้น 90-95 ล้านคนที่มีทักษะต่ำทั่วโลกโดยในปี2020 ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนภายนอกก็อาจจะมุ่งมั่นที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงเปลือกโลกใด ๆ ในอำนาจทางเศรษฐกิจโลกในเอเชียโดยเฉพาะจีน ประเทศจีนมีการใช้จ่ายอย่างหนาแน่นในการพัฒนาความสามารถทางวิทยาศาสตร์ มันเป็นครั้งที่สองไปยังสหรัฐอเมริกาในแง่ของจำนวนวิทยาศาสตร์เอกสารเผยแพร่ ตามการประมาณการของโออีซีดี, จีนใช้เวลาประมาณ US $ 154,000,000,000 มาเลเซียเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนา1450023-15 ปีในการวิจัยและพัฒนาจากสหรัฐ 30000000000 $ ทศวรรษที่ผ่านมา จำนวนของเอกสารที่ยื่นจดสิทธิบัตรในสหรัฐโดยเจ้าของของจีนนอกจากนี้ยังได้เพิ่มสูงขึ้นจาก 90 ใน 1999-1655 ในปี 2009 นอกเหนือจากการสำรวจศักยภาพของตลาดในภูมิภาคมากขึ้นก็จะส่งเสริมให้เกิดการค้าและการความสัมพันธ์การลงทุนกับรัสเซีย, South America, ตะวันออกกลางและ แอฟริกาขณะที่พวกเขามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีเช่นกัน ในความเป็นจริงประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่คาดว่าจะบัญชีสำหรับมากกว่าครึ่งหนึ่งของการเติบโตของ GDP ของโลกในช่วงทศวรรษหน้า. สำหรับมาเลเซียจะได้รับผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นของโลกาภิวัตน์ต่อไปก็ควรจะมีการบริหารจัดการที่แข็งแกร่งสถาบันและโครงสร้างองค์กร ความสำเร็จขององค์กรและความล้มเหลวอธิบายความคืบหน้าและถอยหลังของสังคม (ภาคเหนือ, 1981, น. 59) ดังนั้นศาสตราจารย์ทฤษฎีลิมทรินิตี้เจริญเติบโตยังคงเกี่ยวข้องกับมาเลเซีย. อย่างไรก็ตามในการแสวงหาสถานะประเทศที่มีรายได้สูงก็ป่วยสามารถที่จะละเลยโดยสิ้นเชิงในด้านการจำหน่ายแม้ว่านี้อาจบ่งบอกถึงความคืบหน้าช้าลงไปสู่ที่สูงสถานะรายได้ มีความจำเป็นที่นโยบาย redistributive ของมันยังคงอยู่ในสถานที่ใด. มิฉะนั้นชาวมาเลเซียที่ไม่ดีจะยังคงไม่ดี เสถียรภาพทางการเมืองถ้ามันเกิดขึ้นสามารถสะกดความเสื่อมของเศรษฐกิจม้าเข้าสู่เศรษฐกิจเต่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . สรุปข้อสังเกตการเจริญเติบโต
ของมาเลเซียและพัฒนากลยุทธ์ที่ได้รับโดยทั่วไปที่สอดคล้องกับทฤษฎีทั้งหมด
การเจริญเติบโต แต่พวกเขาจะล้มเหลวในการส่งมอบรายได้สูงประเทศสถานะให้
ปัญหาเน้นในที่ผ่านมาส่วน นี้จะยังคงเป็นเนื่องจากการขาดของปัจจัย
ระบุการเจริญเติบโตทฤษฎีสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจใน
ปริมาณเพียงพออย่างไรก็ตาม แม้ว่าความท้าทายที่ยาก มันไม่ได้เป็นทุกความสิ้นหวังและความตาย
สำหรับประเทศมาเลเซีย มันเป็นเพียงความต้องการที่จะดําเนินการปฏิรูปโครงสร้างและการปรับแต่งของนโยบาย
กับแข็งแรงทางการเมืองจะ มันยังไม่สายเกินไปสำหรับมันที่จะเคลื่อนหรือควบคุมความสมดุลของทรัพยากรทางธรรมชาติของมัน
ในการผสมที่เหมาะสมกับทุนของมนุษย์ถูกขับเคลื่อนให้มันจัดอันดับของ
ประเทศมีรายได้สูง .มันเป็นความจำเป็นที่ประเทศต้องการที่จะพักการแข่งขันในระดับสากล
ในแวดล้อมโลกที่ท้าทายมากขึ้น . ในกระบวนการพัฒนา ,
อาจจะเป็นคุณภาพของทุนมนุษย์ที่สำคัญ ปัจจัยอื่น ๆ จะตกอยู่ในสถานที่และอุปสรรคทั้งหมด
ซึ่งเอาชนะได้เมื่อมีคนขวาเพื่อคัดท้ายเรือ สิงคโปร์เป็นดี
ตัวอย่างอัตราต่อรองซ้อนกับวิธีกลับใน 1960
ต้องการมาเลเซียเพื่อพัฒนา การจัดการและอนุรักษ์ทรัพยากรมนุษย์ก็สามารถ
ไม่สามารถ overemphasized . การแข่งขันระดับโลกสำหรับทักษะและความสามารถพิเศษ ชุดกระชับทั้ง
ขั้นสูงและประเทศกำลังพัฒนาจะทรงตัวสำหรับการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ล่าสุด
การศึกษาโดยสถาบันทั่วโลก McKinsey ( mgi ) โครงการที่เศรษฐกิจโลกอาจเผชิญปัญหาเฉียบพลัน
ทักษะที่ไม่ตรงกัน โดย 2020 , เมื่อมีความขาดแคลน
ปานกลางถึงสูงและแรงงานที่มีทักษะ แต่เป็นส่วนเกินของแรงงานที่มีทักษะต่ำ โดย
โลกคาดว่าจะเผชิญกับการขาดแคลน 38 – 40 ล้านบาท สูง คนงานมีฝีมือ ด้วยความเคารพ
พัฒนาประเทศอาจจะมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะประมาณ 45 ล้านบาท )

ในทางตรงกันข้าม มีการนำศักยภาพของ 90 - 95 ล้านต่ำแรงงาน
ทั่วโลกโดย 2020 .
เป็นบูสเตอร์ภายนอก อาจพยายามใช้ประโยชน์จากโอกาสในการใด ๆจากกะ
ทางเศรษฐกิจโลกพลังเอเชียโดยเฉพาะประเทศจีน จีนจะใช้อย่างหนาแน่นบน
การพัฒนาความสามารถทางวิทยาศาสตร์มันเป็นครั้งที่สองกับเราในแง่ของจำนวนของวิทยาศาสตร์
เอกสารเผยแพร่ ตามการประมาณการ , จีนใช้เวลาประมาณ US $ 154 พันล้านการเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียและการพัฒนา


1450023-15 ปีในการวิจัยและพัฒนาจากแค่ US $ 30 พันล้านดอลลาร์ในทศวรรษที่ผ่านมา จำนวนสิทธิบัตรที่ยื่น
ในสหรัฐโดยเจ้าของจีนยังได้เพิ่มสูงขึ้นจาก 90 ใน 1999 – 1655
ในปี 2009นอกจากสำรวจศักยภาพตลาดในภูมิภาคมากขึ้น จะส่งเสริมการค้าและการลงทุน
ความสัมพันธ์กับรัสเซีย อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ขณะที่พวกเขา
มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีเช่นกัน ในความเป็นจริง ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่คาดว่าจะบัญชี
มากกว่าครึ่งหนึ่งของการเจริญเติบโตของ GDP ของโลกในช่วงทศวรรษหน้า .