Thus, the disengagement theory is b

Thus, the disengagement theory is based on two assumptions: First,
repeating morally violating behavior produces tolerance in individuals,
including resistance towards guilt and biased moral concerns. Thus, through
routinized aggression, moral disengagement may become crystallized, meaning
that people might become used to disengaging. It is thus likely that
individuals, who for some reason have stopped aggressing, might still hold
high levels of moral disengagement acceptance. Second, the theory states
that sustained aggression might escalate the disengagement process in that
the lack of feelings of guilt and remorse allows individuals to accept and
conduct still more inhumane behavior.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังนั้นทฤษฎีหลุดพ้นขึ้นอยู่กับสองสมมติฐานแรก
ทำซ้ำละเมิดศีลธรรมพฤติกรรมก่อความอดทนในบุคคล
รวมถึงความต้านทานต่อความรู้สึกผิดและความกังวลทางศีลธรรมลำเอียง ดังนั้นจากการ
รุกราน routinized, หลุดพ้นศีลธรรมอาจจะกลายเป็นก้อนซึ่งหมายความ
ว่าคนที่อาจจะกลายเป็นที่ใช้ในการปล่อย มันเป็นโอกาสที่ทำให้
บุคคลที่ด้วยเหตุผลบางอย่างได้หยุด aggressing ยังคงอาจจะเป็น
ระดับสูงของการยอมรับหลุดพ้นศีลธรรม ประการที่สองรัฐทฤษฎี
ที่ยั่งยืนรุกรานอาจบานปลายหลุดพ้นกระบวนการในการที่
ขาดความรู้สึกของความรู้สึกผิดและสำนึกผิดช่วยให้บุคคลที่จะยอมรับและ
ดำเนินการลักษณะการทำงานยังคงไร้มนุษยธรรมมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดังนั้นทฤษฎีผู้นำขึ้นอยู่กับสองสมมติฐานแรก มีพฤติกรรมสร้างความอดทน
ซ้ำละเมิดในบุคคล
รวมทั้งความต้านทานต่อความผิดและอคติเกี่ยวกับจริยธรรม ดังนั้น ด้วย
routinized ก้าวร้าว ผู้นำคุณธรรมอาจจะตกผลึก ความหมาย
ที่คนอาจจะใช้กำลังปล่อยยาน ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่
บุคคลที่เหตุผลบางอย่างหยุด aggressing อาจจะถือ
ระดับจริยธรรม เป็นแบบอย่างการยอมรับ ประการที่สอง รัฐทฤษฎี
ที่ยั่งยืนก้าวร้าวอาจบานปลายกระบวนการที่เป็นอิสระใน
ไม่มีความรู้สึกผิด และจะช่วยให้บุคคลที่จะรับ และอีกอย่างไร้มนุษยธรรม
กำกับพฤติกรรม