ทุกวันนี้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เริ่มจะมีความยุ่งยากสลับซับซ้อน
เนื่องจากคอมพิวเตอร์และข้อมูล สารสนเทศต่างๆ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวผลิตภัณฑ์ ยกตัวอย่างเช่นโถส้วมในประเทศญี่ปุ่น ที่มีระบบชะล้างก้นอัตโนมัติ ที่สามารถปรับระดับแรงดันและอุณหภูมิได้ ในอนาคตผลิตภัณฑ์ เกือบทุกอย่าง จะเริ่มมีความฉลาดขึ้น ถ้าเราลองคิดถึงเครื่องเก็บเงินอัตโนมัติสำหรับที่จอดรถ สาธารณะ ที่มีความสามารถเตือนเจ้าของรถให้มาเติมเงินทุกครั้งเมื่อเวลาหมด มันก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ช่วยทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนสะดวกและสบายมากขึ้น และเนื่องจากปัจจัยด้านการเรียนรู้ ภาษา วัฒนธรรม และการสื่อสาร ความแตกต่างระหว่างการเรียนรู้ของคนก็เป็น องค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญ ผู้ใช้บางคนอาจจะใช้เวลาทั้งวันในการเรียนรู้ว่า เฟอร์นิเจอร์หรือ ผลิตภัณฑ์นั้นทำงานอย่างไร และเนื่องจากความสะดวกสบาย ที่มีมากขึ้นและอาจมีมากเกินไป จึงอาจส่งผลให้การใช้งานกับเฟอร์นิเจอร์ หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วและ ไร้ความหมาย ทำให้คนหลายคนละเลยกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้น การให้คุณค่าและเห็นถึง ความสำคัญกับสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวก็ลดน้อยลง ดังนั้นการศึกษา ด้านปฏิสัมพันธ์จึงเป็น จึงเป็นวิธีหนึ่ง ที่จะช่วยทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้งาน กับเฟอร์นิเจอร์หรือ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องในด้านการใช้งานและวัฒนธรรมของผู้ใช้งานได้มากขึ้น