Tradition is existing knowledge. A

Tradition is existing knowledge. A tradition is a group of related ideas that have lasted for a long time. In some cases people have spent that time trying to improve the ideas. We'll call that a dynamic tradition because it changes over time. In other cases, the focus has been on keeping the tradition exactly the same over time. We'll call that a static tradition because it does not change. Although these approaches are contradictory, some traditions are mixed.

Dynamic traditions are important because they contain some of our best knowledge. Today, they contain only the best ideas any participants have thought of in the whole history of the tradition. I don't mean they are perfect, but if they missed a good idea, it was despite people's efforts, not intentional. They do a pretty good job of gathering the best ideas, and keeping those around, and discarding ideas that are discovered to be mistaken. The reason dynamic traditions are especially valuable is the sheer amount of thought, criticism and error correction that has gone into them from many people.

Just because traditions contain valuable knowledge doesn't mean they are always right. Sometimes they aren't. I shouldn't defer to traditions just because a lot of smart people didn't see any way to improve them further. I should defer if I don't see any way to improve them further.

If I make up a new idea, and I don't see any way to improve it further (in 20 minutes of thought), then it's not particularly reliable. I could easily have missed something. With a tradition, perhaps thousands of people put in twenty minutes of thought, and some others put in years, so even if I don't see any way to improve things, and even if I don't know much about the subject, it has an advantage over just making something up myself.

All the knowledge in traditions can be intimidating. And no one has time to carefully and critically go through all the details of all the traditional knowledge they use. That's OK. But one should bear in mind two things. First, if something goes wrong — if there seems to be a problem — then relying on tradition isn't good enough. It's not working, and you'll need to tweak something or find another tradition. And second, a thoughtful person should critically evaluate some traditions. It's your choice which, but everyone ought to be good at something and have the experience of trying to improve some knowledge. Everyone should put some serious thought into some area. There isn't much point to life if I don't seriously think about some parts of it.

In the case of a disagreement, an appeal to tradition is invalid. The tradition might be wrong and someone thinks it is. To address that disagreement, I have to consider their criticism of the tradition, any alternative ideas they have, and any arguments in favor of the traditional idea, and then try to work out what is true. Traditions containing people's best ideas of the past won't always be the best ideas anyone thinks of in the future. The biggest value of traditions is they can often give useful ideas that are not controversial, or starting points which partially solve problems.

In a disagreement, although we can't say, "This is true because a lot of smart people didn't see anything wrong with it, and who are you to say they missed something?" the fact that something is a tradition is not irrelevant either. Dynamic traditions have, over the years, faced a lot of criticism. They often already include explanations of why common criticisms of the tradition are mistaken. Major traditions have existing literature that provides arguments and ideas on the subject. This literature can answer many disagreements, which are often made in ignorance.

When we find something wrong with a tradition, if at all possible we should improve the tradition, not abandon it. We should seek a way to modify the tradition but also retain existing knowledge. To keep the most existing knowledge, our change should be as small as possible to solve the problem. If we were to start over from scratch, we may avoid the flaw we found, but we're not perfect and our new ideas will contain other flaws. And new ideas won't have the benefit of decades or centuries of people trying to find and correct flaws. We should consequently be respectful of tradition even as we find errors in it, and try to improve it with new ideas of our own.

Static traditions are different. Although they've been around a long time, no one has been trying to find mistakes in them, so they aren't very useful. Nor are they innocuous. Consider: why does the static tradition still exist? Why didn't it disappear after its original advocates died? With a dynamic tradition, it's passed on to the next generation because people find it useful, and teach it. A static tradition, too, must have some mechanism for being passed on. But it can't be that people voluntarily learn it due to its usefulness. Because it never changes, and never corrects errors, it's not very use

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเพณีเป็นความรู้ที่มีอยู่ ประเพณีคือ กลุ่มของความคิดที่เกี่ยวข้องที่มีกินเวลานาน ในกรณีบาง คนได้ใช้เวลาที่พยายามปรับปรุงความคิด เราจะเรียกที่ประเพณีแบบไดนามิกได้เนื่องจากจะเปลี่ยนช่วงเวลา ในบางกรณี โฟกัสได้รักษาประเพณีทุกประการเดียวกันช่วงเวลา เราจะเรียกที่ประเพณีคง เพราะมันเปลี่ยนไม่ ถึงแม้ว่าวิธีเหล่านี้จะขัดแย้ง ประเพณีบางอย่างผสมกันประเพณีแบบไดนามิกมีความสำคัญเนื่องจากประกอบด้วยบางความรู้ที่ดีที่สุดของเรา วันนี้ ประกอบด้วยเฉพาะคิดดีที่สุดที่มีผู้เข้าร่วมได้คิดว่า ในประวัติศาสตร์ทั้งหมดของประเพณี อย่าหมาย จะสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าพวกเขาไม่มีความคิดที่ดี มันเป็นแม้ มีความพยายามของผู้คน โดยไม่ตั้งใจ พวกเขาทำงานดีของการรวบรวมความคิดดีที่สุด ทำให้คนรอบข้าง และละทิ้งความคิดที่มีการค้นพบคลาด เหตุผลแบบประเพณีมีคุณค่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ จำนวนการแก้ไขคิด วิจารณ์ และข้อผิดพลาดที่หายเข้าไปในนั้นจากหลายคนเลี่ยงเพียง เพราะประเพณีที่ประกอบด้วยคุณค่า ความรู้ไม่ได้หมายความ จะเสมอขวา บางครั้งพวกเขาไม่ ฉันไม่ควรตามประเพณีเพียง เพราะมากสมาร์ทไม่เห็นวิธีที่จะพัฒนาต่อไป ควรเลื่อนถ้าฉันไม่เห็นวิธีที่จะพัฒนาต่อไปถ้าฉันสร้างความคิดใหม่ ฉันไม่เห็นวิธีที่จะปรับปรุง เพิ่มเติม (ใน 20 นาทีคิด), แล้วก็ไม่ได้เชื่อถือได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉันสามารถเดินได้พลาดบางสิ่งบางอย่าง กับประเพณี อาจเป็นพันคนใน 20 นาทีคิด และบางคนใส่ในปี ดังนั้น แม้ว่าฉันไม่เห็นวิธีที่จะปรับปรุงสิ่ง และ แม้ไม่ทราบมากเกี่ยวกับเรื่อง จะได้เปรียบมากกว่าเพียงแค่การทำบางสิ่งบางอย่างขึ้นเองความรู้ทั้งหมดในประเพณีอาจสับสน และไม่มีเวลาที่จะไปถึงรายละเอียดทั้งหมดของความรู้แบบดั้งเดิมทั้งหมดที่พวกเขาใช้อย่างระมัดระวัง และถึง ไม่เป็นไร แต่หนึ่งควรติดในใจสองสิ่ง แรก ถ้าบางสิ่งบางอย่างผิดปกติซึ่งถ้ามีน่าจะ เป็นปัญหา — แล้วอาศัยประเพณีไม่ดีพอ ไม่ทำงาน และคุณจะต้องปรับแต่งอะไร หรือค้นหาประเพณีอื่น และสอง คนเด่นเหลือควรประเมินบางประเพณี เป็นทางเลือกของคุณที่ แต่ทุกคนควรจะได้สิ่งที่ดี และมีประสบการณ์ของการพยายามปรับปรุงความรู้บางอย่าง ทุกคนควรใส่ความคิดบางอย่างร้ายแรงในบางพื้นที่ ไม่จุดมากชีวิตถ้าผมไม่คิดว่า เกี่ยวกับบางส่วนของมันอย่างจริงจังในกรณีที่เป็นกัน การอ้อนประเพณีไม่ถูกต้อง ประเพณีอาจไม่ถูกต้อง และคนคิดเป็น ที่อยู่กันนั้น ฉันได้วิจารณ์ประเพณี ความคิดใด ๆ อื่นได้ และอาร์กิวเมนต์ใด ๆ สามารถคิดแบบดั้งเดิมของพวกเขา และพยายามทำงานเป็นจริง ประเพณีที่ประกอบด้วยความคิดดีของคนในอดีตจะเสมอไม่คิดดีที่สุดที่ทุกคนคิดว่า ของในอนาคต ค่าที่ใหญ่ที่สุดของประเพณีเป็นพวกเขามักจะสามารถให้ความคิดที่เป็นประโยชน์ที่ไม่แย้ง หรือจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาบางส่วนผิดใจกับ แม้ว่าเราไม่สามารถพูด "คือจริงมากสมาร์ทไม่เห็นอะไรผิดปกติกับมัน คุณว่าพวกเขาพลาดบางสิ่งบางอย่างคือใคร" ความจริงที่ว่า สิ่งที่เป็นประเพณีไม่ได้ไม่เกี่ยวข้องอย่างใดอย่างหนึ่ง ประเพณีแบบไดนามิกได้ ปี ต้องเผชิญมากวิจารณ์ พวกเขามักจะรวมคำอธิบายของเหตุการดาวตามปกติทั่วไปวิจารณ์ของประเพณี ประเพณีที่สำคัญมีวรรณคดีที่มีอยู่ที่มีอาร์กิวเมนต์และความคิดในเรื่อง วรรณกรรมนี้สามารถตอบในความขัดแย้ง ซึ่งมักจะทำในความไม่รู้เมื่อเราค้นหาบางสิ่งบางอย่างที่ผิดประเพณี ถ้าที่เป็นไปได้เราควรปรับปรุงประเพณี ละทิ้งไม่ เราควรแสวงหาวิธีการแก้ไขประเพณี แต่ยัง รักษาความรู้ที่มีอยู่ เพื่อให้ความรู้ที่มีอยู่มากที่สุด การเปลี่ยนแปลงของเราควรเป็นขนาดเล็กที่สุดที่จะแก้ปัญหา ถ้าเราเริ่มต้นจากรอยขีดข่วน เราอาจหลีกเลี่ยงปัญหาที่พบ แต่เราไม่สมบูรณ์แบบ และความคิดของเราใหม่จะประกอบด้วยข้อบกพร่องอื่น ๆ และความคิดใหม่จะไม่มีประโยชน์ของทศวรรษหรือศตวรรษของคนที่พยายามค้นหา และแก้ไขข้อบกพร่อง เราจึงควรเคารพของประเพณีแม้ขณะที่เราพบข้อผิดพลาดใน และพยายามที่จะปรับปรุง ด้วยแนวคิดใหม่ของเราเองประเพณีคงแตกต่างกัน ถึงแม้ว่าพวกเขาได้รับรอบนาน ไม่มีการพยายามหาข้อผิดพลาดใน ดังนั้นพวกเขาไม่ได้มีประโยชน์มาก ไม่มีพวกเขา innocuous พิจารณา: ทำไมประเพณีคงยังมีอยู่หรือไม่ ทำไมไม่ได้หายไปหลังจากเดิมสนับสนุนตาย มีประเพณีแบบไดนามิก จะถูกส่งผ่านไปบนให้รุ่นต่อไปเนื่องจากคนพบว่ามีประโยชน์ และสอนมัน ประเพณีคง เกินไป ต้องมีกลไกบางอย่างได้ผ่าน แต่ก็ยังไม่ว่า คนสมัครใจเรียนรู้มันเนื่องจากประโยชน์ของ เพราะมันไม่เคยเปลี่ยนแปลง และไม่แก้ไขข้อผิดพลาด ไม่ใช้มาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเพณีความรู้ที่มีอยู่ เป็นประเพณีที่เป็นกลุ่มของความคิดที่เกี่ยวข้องที่ได้กินเวลานานเป็นเวลานาน ในบางกรณีคนที่ได้ใช้เวลาที่พยายามที่จะปรับปรุงความคิด เราจะเรียกว่าเป็นประเพณีแบบไดนามิกเพราะการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป ในกรณีอื่น ๆ โฟกัสที่ได้รับในการรักษาประเพณีเหมือนกันเมื่อเวลาผ่านไป เราจะเรียกว่าเป็นประเพณีที่คงเพราะมันไม่ได้เปลี่ยน แม้ว่าวิธีการเหล่านี้มีความขัดแย้งบางประเพณีผสม. ประเพณีแบบไดนามิกที่มีความสำคัญเพราะพวกเขามีบางส่วนของความรู้ที่ดีที่สุดของเรา วันนี้พวกเขามีเพียงความคิดที่ดีที่สุดเข้าร่วมใด ๆ ที่มีความคิดของในประวัติศาสตร์ทั้งของประเพณี ผมไม่ได้หมายความว่าพวกเขามีความสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าพวกเขาไม่ได้รับความคิดที่ดีก็คือแม้จะพยายามของผู้คนที่ไม่ได้เจตนา พวกเขาจะได้งานที่ดีงามของการรวบรวมความคิดที่ดีที่สุดและทำให้คนรอบข้างและทิ้งความคิดที่มีการค้นพบที่จะเข้าใจผิด เหตุผลประเพณีแบบไดนามิกที่มีคุณค่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือจำนวนเงินที่แท้จริงของความคิดวิจารณ์และแก้ไขข้อผิดพลาดที่ได้ไปเป็นพวกเขาจากคนจำนวนมาก. เพียงเพราะประเพณีที่มีคุณค่ามีความรู้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเสมอ บางครั้งพวกเขาไม่ได้ ฉันไม่ควรเลื่อนประเพณีเพียงเพราะคนจำนวนมากที่สมาร์ทไม่เห็นทางใดทางหนึ่งในการปรับปรุงพวกเขาต่อไป ฉันควรจะเลื่อนถ้าฉันไม่เห็นวิธีการปรับปรุงใด ๆ ที่พวกเขาต่อไป. ถ้าฉันทำขึ้นเป็นความคิดใหม่และฉันไม่เห็นทางที่จะปรับปรุงเพิ่มเติมใด ๆ (ใน 20 นาทีของความคิด) แล้วก็ไม่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉันได้อย่างง่ายดายอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้รับ กับประเพณีบางทีหลายพันคนใส่ในยี่สิบนาทีของความคิดและคนอื่น ๆ ใส่ในปีที่ผ่านมาดังนั้นแม้ว่าฉันไม่เห็นทางที่จะปรับปรุงสิ่งใด ๆ และแม้ว่าผมจะไม่ได้รู้มากเกี่ยวกับเรื่องที่มัน มีความได้เปรียบมากกว่าเพียงแค่การทำสิ่งที่ตัวเองขึ้น. ความรู้ในประเพณีสามารถข่มขู่ และไม่มีใครมีเวลาในการอย่างระมัดระวังและอย่างยิ่งผ่านไปทุกรายละเอียดของทุกความรู้ดั้งเดิมที่พวกเขาใช้ มันโอเค. แต่สิ่งหนึ่งที่ควรจำไว้สองสิ่ง ก่อนถ้ามีอะไรผิดพลาด - ถ้าดูเหมือนว่าจะมีปัญหา - แล้วอาศัยประเพณีไม่ดีพอ มันไม่ได้ทำงานและคุณจะต้องปรับแต่งบางสิ่งบางอย่างหรือหาประเพณีอื่น และครั้งที่สองเป็นคนที่มีน้ำใจอย่างยิ่งควรประเมินบางประเพณี มันเป็นทางเลือกที่ของคุณ แต่ทุกคนควรจะเป็นสิ่งที่ดีที่และมีประสบการณ์ในการพยายามที่จะพัฒนาความรู้บางอย่าง ทุกคนควรใส่บางคิดอย่างจริงจังในบางพื้นที่ ที่มีอยู่ไม่มากจุดที่จะมีชีวิตถ้าฉันไม่ได้คิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับบางส่วนของมัน. ในกรณีของความขัดแย้งที่อุทธรณ์ประเพณีไม่ถูกต้อง ประเพณีอาจจะผิดและคนที่คิดว่ามันเป็น เพื่อแก้ไขความขัดแย้งนั้นผมต้องพิจารณาการวิจารณ์ของพวกเขาจากประเพณีความคิดใด ๆ ที่พวกเขามีทางเลือกและการขัดแย้งใด ๆ ในความโปรดปรานของความคิดแบบดั้งเดิมและจากนั้นพยายามที่จะทำงานออกจากสิ่งที่เป็นจริง ประเพณีที่ดีที่สุดที่มีความคิดของผู้คนในอดีตที่ผ่านมาจะไม่เสมอความคิดที่ดีที่สุดที่ทุกคนคิดว่าในอนาคต ค่าที่ใหญ่ที่สุดของประเพณีคือพวกเขามักจะสามารถให้ความคิดที่มีประโยชน์ที่ไม่ได้ขัดแย้งหรือจุดเริ่มต้นซึ่งบางส่วนแก้ปัญหา. ในความขัดแย้งถึงแม้ว่าเราไม่สามารถพูดได้ว่า "นี่คือความจริงเพราะผู้คนจำนวนมากสมาร์ทไม่เห็น อะไรผิดปกติกับมันและคุณเป็นใครที่จะบอกว่าพวกเขาพลาดอะไร? " ความจริงที่ว่าสิ่งที่เป็นประเพณีที่ไม่ได้เป็นอย่างใดอย่างหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง ประเพณีแบบไดนามิกได้มากกว่าปีที่ผ่านมาต้องเผชิญกับจำนวนมากของการวิจารณ์ พวกเขามักจะแล้วรวมคำอธิบายว่าทำไมการวิพากษ์วิจารณ์ทั่วไปของประเพณีจะเข้าใจผิด ประเพณีที่สำคัญมีวรรณกรรมที่มีอยู่ที่มีการขัดแย้งและความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ วรรณกรรมนี้สามารถตอบความขัดแย้งจำนวนมากซึ่งมักจะทำในความโง่เขลา. เมื่อเราพบสิ่งผิดปกติกับประเพณีถ้าเป็นไปได้เราควรปรับปรุงประเพณีที่ไม่ละทิ้งมัน เราควรหาวิธีการที่จะปรับเปลี่ยนประเพณี แต่ยังคงไว้ซึ่งความรู้ที่มีอยู่ เพื่อให้ความรู้ที่มีอยู่มากที่สุดในการเปลี่ยนแปลงของเราควรจะเป็นขนาดเล็กที่สุดในการแก้ปัญหา ถ้าเราจะเริ่มต้นจากรอยขีดข่วนเราอาจหลีกเลี่ยงข้อบกพร่องที่เราพบ แต่เราไม่ได้สมบูรณ์แบบและความคิดใหม่ของเราจะมีข้อบกพร่องอื่น ๆ และความคิดใหม่จะไม่ได้รับประโยชน์จากทศวรรษที่ผ่านมาหรือศตวรรษของคนพยายามที่จะค้นหาและข้อบกพร่องที่ถูกต้อง เราจึงควรจะเคารพประเพณีแม้ในขณะที่เราพบข้อผิดพลาดในนั้นและพยายามที่จะปรับปรุงมันด้วยความคิดใหม่ ๆ ของเราเอง. ประเพณีคงมีความแตกต่าง แม้ว่าพวกเขาจะได้รับรอบเป็นเวลานานไม่มีใครได้รับการพยายามที่จะหาข้อผิดพลาดในพวกเขาดังนั้นพวกเขาจะไม่ได้มีประโยชน์มาก หรือพวกเขาจะไม่มีอันตราย พิจารณา: ทำไมประเพณีแบบคงที่ยังคงอยู่? ทำไมไม่ได้หายไปหลังจากที่ผู้สนับสนุนเดิมเสียชีวิต? กับประเพณีแบบไดนามิกก็ส่งต่อไปยังรุ่นต่อไปเพราะคนพบว่ามีประโยชน์และสอน เป็นประเพณีที่คงที่มากเกินไปจะต้องมีกลไกบางอย่างสำหรับการถูกส่งต่อ แต่มันไม่สามารถเป็นไปได้ว่าคนที่สมัครใจเรียนรู้มันเนื่องจากการประโยชน์ของมัน เพราะมันไม่เคยเปลี่ยนแปลงและไม่เคยแก้ไขข้อผิดพลาดก็ไม่ได้ใช้งานมาก