Maize (Zea mays L.) is an important

Maize (Zea mays L.) is an important cereal crop in India grown in the wet (May to October) and dry (November to March) growing seasons over 8.93 million ha.[1] Maize is predominantly cultivated during the wet season in northern India, whereas it is cultivated continuously in both seasons in southern and some parts of central India. The wet season accounts for >70% of grain production. Three lepidopterans are among the major insect pests of maize. The spotted stem borer, Chilo partellus (Swinhoe), the pink stem borer, Sesamia inferens (Walker), and the earworm, Helicoverpa armigera (Hübner), pose limitations to the higher productivity of maize in India.[2] The avoidable losses due to C. partellus were estimated to be between 26.7 and 80.4% in different maize tracts of India,[3] and more recently C. partellus infestation in maize was estimated to range between 6 and 42% in different months of the wet season.[4] C. partellus is also a major pest in maize-growing areas of Africa, and the yield loss due to this stem borer in Kenya was estimated to be 12.9% of the annual maize harvest, with an economic value of $US 76 million.[5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้าวโพด (ซีเมส์แลน L.) เป็นพืชสำคัญธัญพืชในอินเดียปลูกเปียก (พฤษภาคมถึงตุลาคม) และแห้ง (พฤศจิกายนถึงมีนาคม) ฤดูกาลเติบโต 8.93 ล้านฮา [1] ข้าวโพดได้ส่วนใหญ่ปลูกในช่วงฤดูฝนในอินเดียภาคเหนือ ในขณะที่ปลูกอย่างต่อเนื่องทั้งในภาคใต้และบางส่วนของอินเดียกลาง บัญชีสำหรับการท่องเที่ยว > 70% ของการผลิตข้าว สาม lepidopterans ได้แก่แมลงศัตรูพืชที่สำคัญของข้าวโพด โรคด่างก้าน Chilo partellus (Swinhoe), โรคลำต้นสีชมพู Sesamia inferens (Walker), และ earworm, Helicoverpa armigera (Hübner), ก่อให้เกิดข้อจำกัดการทำผลผลิตข้าวโพดในประเทศอินเดีย [2] การสูญเสียที่หลีกเลี่ยงได้เนื่องจาก C. partellus ถูกประมาณ 26.7 และ 80.4% ในอินเดีย, [3] ซึ่งข้าวโพดแตกต่างกัน และยิ่งเพิ่ง C. partellus รบกวนในข้าวโพดประมาณช่วงระหว่าง 6 และ 42% ในเดือนที่แตกต่างของฤดูฝน [4] C. partellus เป็นศัตรูพืชสำคัญในพื้นที่ปลูกข้าวโพดของแอฟริกา และการสูญเสียผลผลิตเนื่องจากต้นกำเนิดนี้ ประเมินว่ามอดในเคนยาเป็น 12.9% ของการเก็บเกี่ยวข้าวโพดประจำปี มีค่าทางเศรษฐกิจ 76 ล้าน $US [5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้าวโพด (Zea mays L. ) เป็นธัญพืชที่สำคัญในอินเดียที่ปลูกในที่เปียก (พฤษภาคมตุลาคม) และแห้ง (พฤศจิกายนถึงมีนาคม) ฤดูกาลเติบโตมากกว่า 8,930,000 ฮ่า. [1] ข้าวโพดที่ปลูกส่วนใหญ่ในช่วงฤดู​​ฝนในภาคเหนือ อินเดียในขณะที่มันได้รับการปลูกฝังอย่างต่อเนื่องทั้งในซีซั่นส์ในภาคใต้และบางส่วนของภาคกลางของอินเดีย บัญชีสำหรับฤดูฝน> 70% ของการผลิตข้าว สาม lepidopterans อยู่ในหมู่แมลงศัตรูพืชที่สำคัญของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หนอนเจาะด่างลำต้น Chilo partellus (Swinhoe) หนอนเจาะสีชมพูลำต้น Sesamia inferens (วอล์คเกอร์) และ Earworm ที่ Helicoverpa armigera (Hübner) ก่อให้เกิดข้อ จำกัด ในการผลิตที่สูงขึ้นของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในอินเดีย. [2] การสูญเสียที่หลีกเลี่ยงได้เนื่องจาก ซี partellus ถูกคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 26.7 และ 80.4% ในผืนข้าวโพดต่าง ๆ ของอินเดีย [3] และอื่น ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ซี partellus รบกวนในข้าวโพดประมาณช่วงระหว่างวันที่ 6 และ 42% ในเดือนที่แตกต่างกันของฤดูฝน. [ 4] ซี partellus ยังเป็นศัตรูพืชที่สำคัญในพื้นที่ข้าวโพดเติบโตของแอฟริกาและสูญเสียผลผลิตเนื่องจากหนอนเจาะลำต้นนี้ในเคนยาก็จะประมาณ 12.9% ของการเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ประจำปีที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจของ $ ล้านเหรียญสหรัฐ 76 . [5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้าวโพด ( Zea mays L . ) ที่สำคัญคือธัญพืชในอินเดียปลูกฤดูฝน ( พฤษภาคม - ตุลาคม ) และฤดูแล้ง ( พฤศจิกายน - มีนาคม ) ฤดูกาลปลูกกว่า 8.93 ล้านไร่ [ 1 ] ข้าวโพดส่วนใหญ่ที่ปลูกในช่วงฤดูฝนในภาคเหนือของอินเดีย ในขณะที่มันเป็นอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลเพาะปลูกทั้งในภาคใต้และบางส่วน ในภาคกลางของอินเดีย ฤดูฝน > บัญชีสำหรับ 70% ของการผลิตเม็ด 3 lepidopterans อยู่ในหมู่หลักแมลงศัตรูข้าวโพด เห็นหนอนเจาะลำต้น , Chilo partellus ( swinhoe ) , หนอนกอสีชมพู sesamia inferens ( Walker ) , และ earworm , Helicoverpa armigera ( H ü bner ) ก่อให้เกิดข้อจำกัดในระดับผลผลิตของข้าวโพดในอินเดีย [ 2 ] หลีกเลี่ยงความสูญเสียเนื่องจาก C partellus ประมาณ 26.7 80.4 % และอยู่ระหว่าง ในที่แตกต่างกันจำนวนมากของข้าวโพดอินเดีย , [ 3 ] และมากขึ้นเมื่อเร็ว ๆนี้ . . partellus มาในปลูกข้าวโพดประมาณ 42 % ในช่วงระหว่าง 6 เดือนที่แตกต่างกันของฤดูฝน [ 4 ] C . partellus ยังเป็นศัตรูหลักในพื้นที่ปลูกข้าวโพดของแอฟริกาใต้ และการสูญเสียผลผลิตเนื่องจากนี้คือหนอนเจาะลำต้นในเคนยา คาดว่าจะเป็น 12.9 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตข้าวโพดประจำปีมีมูลค่า $ สหรัฐ 76 ล้าน [ 5 ]