การศึกษาวิธีการเพิ่มคุณภาพอำพันโดยต้มในน้ำมันเพื่อขจัดอากาศและการให้ความร้อนผ่านทราย เพื่อให้อำพันมีสีเข้มขึ้น ตัวอย่างอำพันที่นำมาศึกษาจากประเทศโปแลนด์จำนวน 20 ตัวอย่าง พบว่ามีลักษณะโปร่งใสถึงกึ่งโปร่งใส มีน้ำหนักอยู่ในช่วง 1.24 ถึง 10.20 กะรัต ค่าความถ่วงจำเพาะอยู่ระหว่าง 1.04 ถึง 1.05 ค่าดัชนีหักเหมีค่าระหว่าง 1.52 ถึง 1.54 (spot test) การเรืองแสงภายใต้รังสีอัลตราไวโอเลตเรืองแสงเป็นสีขาวอมฟ้าช่วงคลื่นยาว ส่วนในช่วงคลื่นสั้นไม่แสดงการเรืองแสง โดยนำอำพันจำนวน 20 ตัวอย่าง โดยแบ่งตัวอย่างเป็น 3 กลุ่ม ใช้เวลาในการต้มทั้งหมด 3 ชั่วโมง โดยกลุ่มที่ 1 ใช้อุณหภูมิ 110 องศาเซลเซียส กลุ่มที่ 2 ใช้อุณหภูมิ 130 องศาเซลเซียส และกลุ่มที่ 3 ใช้อุณหภูมิ 150 องศา ผลการศึกษาที่ได้นั้น ไม่ตรงกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ว่า เมื่อต้มอำพันในน้ำมันชนิดหนึ่งภายใต้ความดันบรรยากาศที่ 1 บรรยากาศ ในสภาวะปิดแล้วมลทินฟองอากาศในตัวอย่างอำพันจะเปลี่ยนเป็นมลทินที่ Sun spangle เมื่อเริ่มทำการทดลองปรากฏว่าอำพันเริ่มมีฟองอากาศเกิดขึ้นที่อุณหภูมิประมาณ 90 องศาเซลเซียส และเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ณ ที่อุณหภูมิประมาณ 120 องศาเซลเซียส อำพันบางส่วนจะเริ่มอ่อนตัว โดยที่เมื่อใช้เวลาเพิ่มขึ้น มลทินฟองอากาศจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น
การทดลองให้ความร้อนผ่านทรายเพื่อทำให้เพิ่มคุณภาพให้อำพันมีสีเข้ม ศึกษาโดยใช้อำพันจำนวน 20 ตัวอย่าง มาให้ความร้อนผ่านทรายที่บรรจุในภาชนะเหล็ก โดยปรับอุณหภูมิขึ้นอย่างช้าๆ โดยรักษาระดับอุณหภูมิอยู่ที่ 90-110 องศาเซลเซียสจากผลการศึกษาพบว่า อำพันที่ผ่านการเพิ่มคุณภาพสีของอำพันที่เข้มขึ้นเล็กน้อยโดยกระจายตัวเป็นหย่อม สีที่เข้มขึ้นนั้นเกิดที่บริเวณผิวของอำพันและบางตัวอย่างพบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสีอำพัน โดยยังคงมีสีเดิมเหมือนก่อนทำการทดลอง นอกจากนี้ยังพบว่ามีมลทินฟองอากาศเพิ่มขึ้นภายในอำพันอย่างเห็นได้ชัดเจน