Social media originated as strictly

Social media originated as strictly a personal tool that people used to interact with friends and family but were later passed through by some businesses that who wanted to take advantage of a popular new communication method to communicate to customers, for example, by sending e-mail or forward those coupons on Facebook and Twitter.
Social media includes web-based and mobile technologies used to turn communication into interactive conversation. Andreas Kaplan and Michael Haenlein define social media as "a group of Internet-based applications that build on the ideological and technological foundations of Web 2.0, and that allow the creation and exchange of user-generated content." There are several types of social media including magazines, internet forums, weblogs, social blogs, microblogging, wikis, podcasts, photographs or pictures, video, rating and social bookmarking.
According to the study from the University of Maryland, it suggested that social media services maybe addictive because the growth in social network patents is around 20% annually. Today, people spent 22% of their online time on social networking such as Facebook, Twitter, YouTube, and Weblog.
In 2011, there are over 50% of world population is under 30 years. If Facebook is a country, then it will become the third largest country in the world that which carrying more than 750 million users. Also, Facebook tops Google for weekly traffic in the U.S.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สังคมมาเป็นเด็ดขาดเครื่องมือส่วนตัวที่ผู้ใช้โต้ตอบกับเพื่อนและครอบครัว แต่ภายหลังถูกส่งผ่านผ่าน โดยธุรกิจบางที่ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากวิธีสื่อสารใหม่นิยมการสื่อสารกับลูกค้า เช่น โดยการส่งอีเมล์ หรือส่งคูปองเหล่านั้นบน Facebook และ Twitterสังคมรวมถึงเทคโนโลยีเว็บ และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการใช้สื่อสารในการสนทนาโต้ตอบ Andreas Kaplan และ Michael Haenlein กำหนดสื่อสังคมเป็น "กลุ่มของโปรแกรมประยุกต์ที่ใช้อินเทอร์เน็ตที่สร้างบนพื้นฐานอุดมการณ์ และเทคโนโลยีเว็บ 2.0 และการ อนุญาตการสร้างและการแลกเปลี่ยนของผู้ใช้สร้างเนื้อหา" มีหลายประเภทของสังคมรวมทั้งนิตยสาร อินเตอร์เน็ตฟอรั่ม ล็อก บล็อกสังคม microblogging เนื้อที่ พ็อดคาสท์ ภาพถ่าย หรือรูป ภาพ วิดีโอ จัดอันดับและใส่บุ๊คมาร์คสังคมตามการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ มันแนะนำที่สื่อสังคมออนไลน์บริการเสพติดอาจเนื่องจากการเจริญเติบโตในสังคมสิทธิบัตรประมาณ 20% ต่อปี วันนี้ คนใช้ 22% ของเวลาออนไลน์บนเครือข่ายสังคมเช่น Facebook, Twitter, YouTube และเว็บบล็อก ใน 2011 มีกว่า 50% ของประชากรโลกกว่า 30 ปี ถ้า Facebook เป็นประเทศ แล้วมันจะกลายเป็นประเทศที่สามที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ซึ่งดำเนินการให้ผู้ใช้มากกว่า 750 ล้านคน ยัง Facebook ท็อปส์ Google สำหรับเข้าชมรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สื่อสังคมมาเป็นอย่างเคร่งครัดเป็นเครื่องมือส่วนบุคคลที่คนใช้ในการติดต่อกับเพื่อนและครอบครัว แต่ต่อมาถูกส่งผ่านโดยธุรกิจบางอย่างที่ใครอยากจะใช้ประโยชน์จากวิธีการสื่อสารที่นิยมใหม่ในการสื่อสารกับลูกค้าตัวอย่างเช่นโดยการส่งอีเมล หรือส่งคูปองผู้ที่อยู่ใน Facebook และ Twitter.
สื่อสังคมรวมถึงเทคโนโลยีบนเว็บและมือถือที่ใช้ในการเปิดการสื่อสารในการสนทนาโต้ตอบ แอนเดรีแคปแลนและไมเคิล Haenlein กำหนดสื่อสังคมเป็น "กลุ่มการใช้งานอินเทอร์เน็ตตามที่สร้างบนพื้นฐานอุดมการณ์และเทคโนโลยีของ Web 2.0 และที่ช่วยให้การสร้างและการแลกเปลี่ยนเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น." มีหลายประเภทของสื่อทางสังคมรวมทั้งนิตยสารฟอรั่มอินเทอร์เน็ต, เว็บบล็อก, บล็อกสังคม, microblogging วิกิพอดคาสต์รูปภาพหรือรูปภาพ, วิดีโอ, การประเมินและสังคม bookmarking.
ตามการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ก็ชี้ให้เห็นว่าสื่อสังคม บริการอาจจะเสพติดเพราะการเจริญเติบโตในสิทธิบัตรเครือข่ายทางสังคมอยู่ที่ประมาณ 20% ต่อปี วันนี้คนใช้เวลา 22% ของเวลาออนไลน์ของพวกเขาบนเครือข่ายสังคมเช่น Facebook, Twitter, YouTube และเว็บบล็อก.
ในปี 2011 มีกว่า 50% ของประชากรโลกอายุต่ำกว่า 30 ปี ถ้า Facebook เป็นประเทศที่แล้วมันจะกลายเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่สามที่ดำเนินการมากกว่า 750 ล้านคน นอกจากนี้ท็อปส์ซู Facebook ของ Google สำหรับการเข้าชมรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกา