1. 2 กรกฎาคม 1997 (2540): รัฐบาลไทย

1. 2 กรกฎาคม 1997 (2540): รัฐบาลไทย ประกาศลอยตัวค่าเงินบาท จากระบบอัตราแลก
เปลี่ยนเดิมที่อัตราแลก เปลี่ยนคงที่แบบอิงตะกร้าเงิน ไว้ที่ 25 บาท ต่อ 1 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐ ทำ
ให้ HTC (เดิม คือ SUE)
ขาดทุนจากการลดค่าเงินบาท มากกว่า 3,500,000,000 บาท และเป็นผลขาดทุนสะสมมา
จนถึงปัจจุบัน
2. 23 ธันวาคม 2003 (2546): ผู้ถือใหญ่ของ SANYO Universal Electric PCL. [
ปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อเป็น Haier Electric (Thailand) PCL: HTC] ได้แก่ SANYO Groups และ
Premier Groups ได้เข้าทำสัญญาปรับ
โครงสร้างทางธุรกิจ โดยการระดมทุนเพื่อให้ได้เงินมาใช้หมุนเวียนในกิจการและเสริมสภาพ
คล่อง มีข้อตกลงที่สำคัญดังนี้
(1) บริษัทฯ (ปัจจุบัน คือ HTC) จะผลิตแต่ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ตู้เย็น และ
เครื่องซักผ้า
(2) SANYO Groups จะนำเงินมาลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุน อีก 2,000 ล้านบาท
และรับโอนกิจการผลิตตู้แช่ที่ฉะเชิงเทรา ไปดำเนินการ
(3) Premier Groups รับโอนกิจการการผลิตมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ /
เตาแก๊ส และตู้ทำน้ำร้อน-น้ำเย็น ไปดำเนินการ รับซื้อหุ้นสามัญที่บริษัทฯ ถืออยู่ในบริษัทย่อย ได้แก่
บริษัท ฉะเชิงเทรา คัสติ้งเวิค จำกัด
(ผลิตชิ้นส่วนคอมเพรสเซอร์) /บริษัท โมลด์ แอนด์ ได
แมนิวแฟคเจอริ่ง จำกัด (ผลิตแม่พิมพ์) รวมทั้ง รับซื้อทรัพย์สินที่ไม่ได้งานในกิจการ เช่น ที่ดินว่างเปล่า
ที่จังหวัดเลย /ที่ดินและบ้านพักพนักงานที่
อำเภอกบินทร์บุรี /ที่ดินและอาคารคลังสินค้าอัตโนมัติที่ฉะเชิงเทรา /
ที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานที่ฉะเชิงเทรา

3. ที่ดินและบ้านพักพนักงาน ที่ตำบลทุ่งโพธิ์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ก็เป็นทรัพย์สินที่
ต้องขายให้ "Premier Group” รายละเอียด ปรากฎใน Exhibit-B ในสัญญาตามแนบ
4. หลังจากที่ “SANYO Group” ซื้อหุ้นเพิ่มทุน ทำให้ SUE (ปัจจุบัน คือ HTC) กลายสภาพเป็น
บริษัทต่างด้าว (Foreign Company) ทำให้ถือกรรมสิทธิในที่ดินไม่ได้
(ยกเว้นที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงงานที่ได้รับการส่งเสริม การลงทุนจาก BOI) ต้องขายออกไปให้
บุคคลสัญชาติไทยภายใน 1 ปี นับแต่วันที่กลายสภาพเป็นบริษัทต่างด้าวและในช่วงเวลานั้น “Premier Group” ไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อที่ดินและบ้านพักพนักงานได้
5. 15 พฤศจิกายน 2004 (2547): “SANYO Group” และ “Premier Group” ได้ร่วมมือ
กันตั้งบริษัทไทย ได้แก่ Proactive Solution Company Limited (“PSC”) ขึ้นมาเพื่อรับซื้อที่ดิน
พร้อมบ้านพักพนักงาน
6. 30 พฤศจิกายน 2004 (2547): PSC กับ SUE ทำสัญญาซื้อเฉพาะที่ดิน จำนวน
423-1-33 ไร่ ในราคา 15 ล้านบาท ส่วนบ้านพักพนักงานนั้น SUE สามารถถือครองกรรมสิทธิได้ และ
จะซื้อจาก HTC ในภายหล
7. 9 ธันวาคม 2004 (2547): SUE ไปจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่ PSC และในขณะเดียวกัน
SUE ก็ทำสัญญาเช่าที่ดินทั้งหมด จำนวน 423-1-33 ไร่ จาก PSC เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของบ้านพักฯ มี
กำหนดเวลาการเช่า 6
เดือน และต่ออายุสัญญาคราวละ 6 เดือน
8. เนื่องด้วย “Premier Group” ตกลงที่จะซื้อที่ดินพร้อมบ้านพักพนักงาน ตามสัญญาปรับโครง
สร้างทางธุรกิจ ตามข้อ 2 และยังเข้าทำสัญญา Absolute right agreement ไว้กับ SUE ซึ่งมี
เงื่อนไขว่า ถ้า SUE จะขาย ที่ดินพร้อมบ้านพักพนักงาน ต้องเสนอขายให้แก่ “Premier Group” ก่อน
และเมื่อ “Premier Group” ยังไม่พร้อมที่จะซื้อ ที่ดินและบ้านพัก ดังนั้น PSC จึงต้องรอขายที่ดิน
และ SUE รอขายบ้านพักพนักงานให้แก่ “Premier Group” โดย SUE ก็ต้องต่อสัญญาซื้อขาย
บ้านพักพนักงานและสัญญาเช่าที่ดิน กับ PSC คราวละ 6 เดือน ตลอดมา

9. 31 มีนาคม 2007 (2550): “Haier Group” เข้ามาซื้อกิจการจาก “SANYO Group”
จึงได้เปลี่ยนชื่อคู่สัญญาในสัญญาการซื้อขายและเช่าที่ดินที่ทำไว้กับ PSC เป็น Haier Electric
(Thailand) Public Company Limited
(“HTC”) กล่าวคือ PSC จะซื้อบ้านจาก HTC ในราคา 28 ล้านบาท และ HTC เช่าที่ดิน
จาก PSC โดยจ่ายค่าเช่าให้ PSC ในอัตราเดือนละ 110,000 บาท รายละเอียดปรากฎตามสัญญาที่
แนบ
10. 26 พฤษภาคม 2010 (2553): ผู้บริหาร “Premier Group” (คุณดวงทิพย์) ได้มาพบ
Mr. Wu Yong ที่ HO ของ HTC เพื่อแจ้งว่า “Premier Group” พร้อมที่จะซื้อที่ดินจาก PSC และ
จะซื้อบ้านพักพนักงานจาก HTC โดยจะนัดประชุมกันเพื่อกำหนดเงื่อนไขการซื้อขายและการให้
HTC เช่าบ้านพักกลับมาให้พนักงานอยู่อาศัยต่อไป
11. 22 กรกฎาคม 2010 (2553): มีการประชุมร่วมกัน ระหว่างผู้แทน ของ “Premier
Group” ผู้แทนของ HTC และ ผู้แทนของ “SANYO Group” (ในนามของ PSC) ผลการประชุมสรุป
ได้ว่า HTC พร้อมที่จะขายบ้านพัก พนักงาน ในราคาตามสัญญา คือ 28 ล้านบาท และขอเช่ากลับ
โดยมีกำหนดเวลาการเช่า 25-30 ปี ซึ่ง “Premier Group” จะนำไปพิจารณา และเสนอราคาค่า
เช่า ทั้งนี้อาจจะให้เช่าได้ไม่นาน

12. 16 สิงหาคม 2010 (2553): “Premier Group” แจ้งเป็นหนังสือว่าจะซื้อบ้านพักพนักงาน
ในราคาตามสัญญาที่ HTC กับ PSC ตกลงกันไว้ คือ 28 ล้านบาท และเสนอราคาให้เช่าบ้านพักฯ
เฉพาะบ้านแฝด จำนวน 62 หลัง ในอัตราเดือนละ 180,000 บาท และบ้านทาวเฮ้าส์ จำนวน 150
หลัง ในอัตราเดือนละ 225,000 บาท (พร้อมที่ดินเฉพาะส่วนที่เป็นที่ตั้งของบ้านพักฯ) รวมเป็นเงิน
เดือนละ 405,000 บาท และจะเรียกเก็บเงิน ประกันการเช่ามีมูลค่าเท่ากับค่าเช่า 3 เดือน หรือ
เท่ากับ (405,000 x 3) 1,215,000 บาท รายละเอียดปรากฎตามหนังสือที่แนบ

13. 22 กันยายน 2010 (2553): HTC แจ้งเป็นหนังสือต่อ “Premier Group” เพื่อต่อรอง
ราคา โดยขอเช่าบ้านทาวเฮ้าส์ 1,300 บาท ต่อเดือน เป็นเงิน 195,000 บาท ต่อเดือน และขอเช่า
บ้านแฝด 1,800 บาท ต่อเดือน เป็นเงิน 111,600 บาท ต่อเดือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น
306,600 บาท ต่อเดือน กำหนดเวลาการเช่า 4 ปี และขอต่ออายุการเช่าได้คราวละ 4 ปี

14. 11 ตุลาคม 2010 (2553): “Premier Group” แจ้งตอบเป็นหนังสือว่าไม่ซื้อบ้านพัก
พนักงาน และให้อยู่บนที่ดินฟรี โดยไม่เสียค่าเช่า เป็นเวลา 2 ปี และเมื่อครบ 2 ปีแล้วให้รื้อถอนบ้าน
พักออกไป

15. 12 ตุลาคม 2010 (2553): PSC โดยทีมบริหารจาก “SANYO Group” แจ้งไม่ต่ออายุ
สัญญาเช่าที่ดิน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2010 (2553)

16. 29 ตุลาคม 2010 (2553): HTC แจ้งต่อ PSC ในฐานะคู่สัญญาจะซื้อจะขายบ้านพักพนักงาน
โดยให้ PSC ซื้อบ้านพักฯ ในราคาตามสัญญา คือ 28 ล้านบาท และขอเช่ากลับราคารวม 336,600
บาท

17. 22 พฤศจิกายน 2010 (2553): PSC ตอบกลับเป็นหนังสือว่า ค่าเช่าให้เป็นไปตามที่
“Premier Group” เสนอ

18. 26 พฤศจิกายน 2010 (2553): HTC แจ้ง Mr. Fumihisa Endo กรรมการ PSC ว่า
HTC ตกลงกับ “Premier Group” แล้ว PSC ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดิน

19. 29 พฤศจิกายน 2010 (2553): HTC แจ้ง “Premier Group” เป็นหนังสือว่าตกลงราค่า
เช่าตามที่ “Premier Group” เสนอมาเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2010 (2553) กล่าวคือ ตกลงที่จะ
ขายบ้านพักพนักงานในราคา 28 ล้านบาท และยินดีจ่ายค

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. 2 กรกฎาคม 1997 (2540): รัฐบาลไทยประกาศลอยตัวค่าเงินบาทจากระบบอัตราแลกเปลี่ยนเดิมที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่แบบอิงตะกร้าเงินไว้ที่ 25 บาทต่อ 1 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐก่อให้ HTC (เดิมคือฟ้อง) ขาดทุนจากการลดค่าเงินบาทมากกว่า 3,500,000,000 บาทและเป็นผลขาดทุนสะสมมาจนถึงปัจจุบัน2. 23 ธันวาคม 2003 (๒๕๔๖): ผู้ถือใหญ่ของซันโยยูนิเวอร์แซไฟฟ้าจำกัด(มหาชน) [ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นไฟฟ้าไฮเออร์ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน): HTC] ซันโยได้แก่กลุ่มและได้เข้าทำสัญญาปรับกลุ่มพรีเมียร์ โครงสร้างทางธุรกิจโดยการระดมทุนเพื่อให้ได้เงินมาใช้หมุนเวียนในกิจการและเสริมสภาพคล่องมีข้อตกลงที่สำคัญดังนี้ (1) บริษัทฯ (ปัจจุบันคือเอชทีซี) จะผลิตแต่ผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า (2) ซันโยกลุ่มจะนำเงินมาลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีก 2000 ล้านบาทและรับโอนกิจการผลิตตู้แช่ที่ฉะเชิงเทราไปดำเนินการ (3) พรีเมียร์กลุ่มรับโอนกิจการการผลิตมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ /เตาแก๊สและตู้ทำน้ำร้อนน้ำเย็นไปดำเนินการรับซื้อหุ้นสามัญที่บริษัทฯ ถืออยู่ในบริษัทย่อยได้แก่บริษัทฉะเชิงเทราคัสติ้งเวิคจำกัด (ผลิตชิ้นส่วนคอมเพรสเซอร์) /บริษัทโมลด์แอนด์ไดแมนิวแฟคเจอริ่งจำกัด (ผลิตแม่พิมพ์) รวมทั้งรับซื้อทรัพย์สินที่ไม่ได้งานในกิจการเช่นที่ดินว่างเปล่าที่จังหวัดเลย/ที่ดินและบ้านพักพนักงานที่ อำเภอกบินทร์บุรี/ที่ดินและอาคารคลังสินค้าอัตโนมัติที่ฉะเชิงเทรา /ที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานที่ฉะเชิงเทรา3. ที่ดินและบ้านพักพนักงานที่ตำบลทุ่งโพธิ์อำเภอกบินทร์บุรีจังหวัดปราจีนบุรีก็เป็นทรัพย์สินที่ต้องขายให้ "กลุ่มพรีเมียร์" รายละเอียดปรากฎในแสดง B ในสัญญาตามแนบ4. หลังจากที่ "กลุ่มซันโย" ซื้อหุ้นเพิ่มทุนทำให้ฟ้องกลายสภาพเป็น (ปัจจุบันคือเอชทีซี)ทำให้ถือกรรมสิทธิในที่ดินไม่ได้บริษัทต่างด้าว (บริษัทต่างประเทศ)ต้องขายออกไปให้ (ยกเว้นที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงงานที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ)ไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อที่ดินและบ้านพักพนักงานได้บุคคลสัญชาติไทยภายใน 1 ปีนับแต่วันที่กลายสภาพเป็นบริษัทต่างด้าวและในช่วงเวลานั้น "กลุ่มพรีเมียร์"5. 15 พฤศจิกายน 2004 (2547): "ซันโย กลุ่ม" และ "กลุ่มพรีเมียร์" ได้ร่วมมือกันตั้งบริษัทไทยได้แก่เชิงรุกโซลูชัน จำกัด ("PSC") ขึ้นมาเพื่อรับซื้อที่ดินพร้อมบ้านพักพนักงาน6. 30 พฤศจิกายน 2004 (2547): ดื่มด่ำ PSC ฟ้องทำสัญญาซื้อเฉพาะที่ดินจำนวน423-1-33 ไร่ในราคา 15 ล้านบาทส่วนบ้านพักพนักงานนั้นฟ้องสามารถถือครองกรรมสิทธิได้และจะซื้อจาก HTC ในภายหล7. 9 ธันวาคม 2004 (2547): SUE ไปจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่ PSC และในขณะเดียวกันSUE ก็ทำสัญญาเช่าที่ดินทั้งหมดจำนวน 423-1-33 ไร่จาก PSC เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของบ้านพักฯ มีกำหนดเวลาการเช่า 6 เดือนและต่ออายุสัญญาคราวละ 6 เดือน8. เนื่องด้วย "กลุ่มพรีเมียร์" ตกลงที่จะซื้อที่ดินพร้อมบ้านพักพนักงานตามสัญญาปรับโครงสร้างทางธุรกิจตามข้อ 2 และยังเข้าทำสัญญาขวาตกลงแน่นอนไว้กับซึ่งมีบางซื่อเงื่อนไขว่าถ้าจะขายที่ดินพร้อมบ้านพักพนักงานต้องเสนอขายให้แก่ "กลุ่มพรีเมียร์" ก่อนฟ้องและเมื่อ "กลุ่มพรีเมียร์" ยังไม่พร้อมที่จะซื้อที่ดินและบ้านพักจึงต้องรอขายที่ดินดังนั้น PSCและฟ้องร้องโดย "กลุ่มพรีเมียร์" รอขายบ้านพักพนักงานให้แก่ก็ต้องต่อสัญญาซื้อขายบางซื่อบ้านพักพนักงานและสัญญาเช่าที่ดินดื่มด่ำ PSC คราวละ 6 เดือนตลอดมา9. 31 มีนาคม 2007 (2550): "Haier กลุ่ม" เข้ามาซื้อกิจการจาก "กลุ่มซันโย"จึงได้เปลี่ยนชื่อคู่สัญญาในสัญญาการซื้อขายและเช่าที่ดินที่ทำไว้กับ PSC เป็นจำหน่ายไฟฟ้า(ประเทศไทย) บริษัทมหาชน จำกัด ("HTC") กล่าวคือ PSC จะซื้อบ้านจาก HTC ในราคา 28 ล้านบาทและ HTC เช่าที่ดินจาก PSC โดยจ่ายค่าเช่าให้ PSC ในอัตราเดือนละ 110,000 บาทรายละเอียดปรากฎตามสัญญาที่แนบ10. 26 พฤษภาคม 2010 (2553): ได้มาพบผู้บริหาร "พรีเมียร์ กลุ่ม" (คุณดวงทิพย์)นาย Wu Yong โฮจิมินห์นั้น ๆ HTC เพื่อแจ้งว่า "กลุ่มพรีเมียร์" พร้อมที่จะซื้อที่ดินจาก PSC และจะซื้อบ้านพักพนักงานจาก HTC โดยจะนัดประชุมกันเพื่อกำหนดเงื่อนไขการซื้อขายและการให้HTC เช่าบ้านพักกลับมาให้พนักงานอยู่อาศัยต่อไป11. 22 กรกฎาคม 2010 (2553): นั้น ๆ ระหว่างผู้แทนมีการประชุมร่วมกัน "พรีเมียร์กลุ่ม"ผู้แทนของ HTC และผู้แทนของ"กลุ่มซันโย" (ในนามของ PSC) ผลการประชุมสรุปได้ว่า HTC พร้อมที่จะขายบ้านพักพนักงานในราคาตามสัญญาคือ 28 ล้านบาทและขอเช่ากลับโดยมีกำหนดเวลาการเช่า 25-30 ปีซึ่ง "กลุ่มพรีเมียร์" จะนำไปพิจารณาและเสนอราคาค่าเช่าทั้งนี้อาจจะให้เช่าได้ไม่นาน12. 16 สิงหาคม 2010 (2553): "กลุ่มพรีเมียร์" แจ้งเป็นหนังสือว่าจะซื้อบ้านพักพนักงานในราคาตามสัญญาที่ HTC ดื่มด่ำ PSC ตกลงกันไว้คือ 28 ล้านบาทและเสนอราคาให้เช่าบ้านพักฯเฉพาะบ้านแฝดจำนวน 62 หลังในอัตราเดือนละ 180000 บาทและบ้านทาวเฮ้าส์จำนวน 150หลังในอัตราเดือนละ 225,000 บาท (พร้อมที่ดินเฉพาะส่วนที่เป็นที่ตั้งของบ้านพักฯ) รวมเป็นเงินเดือนละ 405,000 วรรคและจะเรียกเก็บเงินประกันการเช่ามีมูลค่าเท่ากับค่าเช่า 3 เดือนรายละเอียดปรากฎตามหนังสือที่แนบเท่ากับ 1,215,000 (405,000 x 3) บาท13. 22 กันยายน 2010 (2553): HTC แจ้งเป็นหนังสือต่อเพื่อต่อรอง "กลุ่มพรีเมียร์"ใช้โดยขอเช่าบ้านทาวเฮ้าส์ 1300 บาทต่อเดือนเป็นเงิน 195,000 บาทต่อเดือนและขอเช่าบ้านแฝด 1800 บาทต่อเดือนเป็นเงิน 111,600 รวมเป็นเงินทั้งสิ้นบาทต่อเดือน306,600 บาทต่อเดือนกำหนดเวลาการเช่า 4 ปีและขอต่ออายุการเช่าได้คราวละ 4 ปี14. 11 ตุลาคม 2010 (2553): "กลุ่มพรีเมียร์" แจ้งตอบเป็นหนังสือว่าไม่ซื้อบ้านพักพนักงานและให้อยู่บนที่ดินฟรีโดยไม่เสียค่าเช่าเป็นเวลา 2 ปีและเมื่อครบ 2 ปีแล้วให้รื้อถอนบ้านพักออกไป15. 12 ตุลาคม 2010 (2553): PSC โดยทีมบริหารจาก "กลุ่มซันโย" แจ้งไม่ต่ออายุสัญญาเช่าที่ดินโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2010 (2553)16. 29 ตุลาคม 2010 (2553): HTC แจ้งต่อ PSC ในฐานะคู่สัญญาจะซื้อจะขายบ้านพักพนักงานโดยให้ PSC ซื้อบ้านพักฯ ในราคาตามสัญญาคือ 28 ล้านบาทและขอเช่ากลับราคารวม 336,600วรรค17. 22 พฤศจิกายน 2010 (2553): หน้าตอบกลับเป็นหนังสือว่าค่าเช่าให้เป็นไปตามที่เสนอ "กลุ่มพรีเมียร์"18. 26 พฤศจิกายน 2010 (2553): HTC แจ้งว่านาย Fumihisa Endo กรรมการ PSCHTC ตกลงกับ "กลุ่มพรีเมียร์" แล้ว PSC ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดิน19. 29 พฤศจิกายน 2010 (2553): HTC แจ้ง "กลุ่มพรีเมียร์" เป็นหนังสือว่าตกลงราค่าเช่าตามที่ "กลุ่มพรีเมียร์" เสนอมาเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2010 (2553) กล่าวคือตกลงที่จะขายบ้านพักพนักงานในราคา 28 ล้านบาทและยินดีจ่ายค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. 2 กรกฎาคม 1997 (2540): รัฐบาลไทยประกาศลอยตัวค่าเงินบาท
เปลี่ยนคงที่แบบอิงตะกร้าเงินไว้ที่ 25 บาทต่อ 1 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐทำ
ให้เอชทีซี (เดิมคือ SUE)
ขาดทุนจากการลดค่าเงินบาทมากกว่า 3,500,000,000 บาท 23 ธันวาคม 2003 (2546): ผู้ถือใหญ่ของซันโยยูนิเวอร์แซไฟฟ้า จำกัด [ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Haier Electric (Thailand) PCL: HTC] ได้แก่ SANYO กลุ่มและกลุ่มพรีเมียร์ มีข้อตกลงที่สำคัญดังนี้(1) บริษัท ฯ (ปัจจุบันคือเอชทีซี) จะผลิต แต่ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า(2) กลุ่มซันโยจะนำเงินมาลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีก 2,000 ไปดำเนินการ(3) กลุ่มพรีเมียร์ / เตาแก๊สและตู้ทำน้ำร้อน - น้ำเย็นไปดำเนินการรับซื้อหุ้นสามัญที่ บริษัท ฯ ถืออยู่ใน บริษัท ย่อย ได้แก่บริษัท ฉะเชิงเทราคัสติ้งเวิค จำกัด(ผลิตชิ้นส่วนคอมเพรสเซอร์) / บริษัท โมลด์แอนด์ไดแมนิวแฟค เจอริ่ง จำกัด (ผลิตแม่พิมพ์) รวมทั้ง เช่นที่ดินว่างเปล่าที่จังหวัดเลย ที่ดินและบ้านพักพนักงานที่ตำบลทุ่งโพธิ์อำเภอกบินทร์บุรีจังหวัดปราจีนบุรีก็เป็นทรัพย์สินที่ต้องขายให้ "พรีเมียร์กลุ่ม บริษัท " รายละเอียดปรากฎใน Exhibit-B ในสัญญาตามแนบ4. หลังจากที่ "ซันโยกลุ่ม บริษัท " ซื้อหุ้นเพิ่มทุนทำให้ SUE ( ปัจจุบันคือเอชทีซี) กลายสภาพเป็นบริษัท ต่างด้าว (บริษัท ต่างประเทศ) การลงทุนจากบีโอไอ) 1 ปี "พรีเมียร์กลุ่ม บริษัท " 15 พฤศจิกายน 2004 (2547): "กลุ่ม บริษัท ซันโย" และ "พรีเมียร์กรุ๊ป" ได้สัมพันธ์กับกันตั้ง บริษัท ไทยเชิงรุก ได้แก่ บริษัท โซลูชั่น จำกัด ("PSC") 30 พฤศจิกายน 2004 (2547): PSC กับ SUE ทำสัญญาซื้อเฉพาะที่ดินจำนวน423-1-33 ไร่ในราคา 15 ล้านบาทส่วนบ้านพักพนักงานนั้น SUE สามารถถือครองกรรมสิทธิได้และจะซื้อจากเอชทีซีในภายหล7. 9 ธันวาคม 2004 (2547): SUE ไปจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่ PSC และในขณะเดียวกันSUE ก็ทำสัญญาเช่าที่ดินทั้งหมดจำนวน 423-1-33 ไร่จาก PSC เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของบ้านพักฯ มีกำหนดเวลาการเช่า 6 เดือนและต่ออายุ สัญญาคราวละ 6 เดือน8. เนื่องด้วย "พรีเมียร์กลุ่ม บริษัท " ตามสัญญาปรับโครงสร้างทางธุรกิจตามข้อ 2 และยังเข้าทำสัญญาสัญญาไว้กับแอ็บโซลู SUE ซึ่งมีเงื่อนไขว่าถ้า SUE จะขายที่ดินพร้อมบ้านพักพนักงานต้องเสนอขายให้แก่ "พรีเมียร์กลุ่ม บริษัท " ก่อนและเมื่อ "พรีเมียร์กรุ๊ป" ยัง ไม่พร้อมที่จะซื้อที่ดินและบ้านพักดังนั้น PSC จึงต้องรอขายที่ดินและ SUE รอขายบ้านพักพนักงานให้แก่ "พรีเมียร์กรุ๊ป" โดย SUE กับ PSC คราวละ 6 เดือนตลอดมา9. วันที่ 31 มีนาคม 2007 (2550): "ไฮเออร์กรุ๊ป" เข้ามาซื้อกิจการจาก "ซันโย PSC เป็น Haier Electric (ประเทศไทย) จำกัด("HTC") กล่าวคือ PSC จะซื้อบ้านจากเอชทีซีในราคา 28 ล้านบาทและ HTC เช่าที่ดินจาก PSC โดยจ่ายค่าเช่าให้ PSC ในอัตราเดือนละ 110,000 บาทรายละเอียดปรากฎ ตามสัญญาที่แนบ10. 26 พฤษภาคม 2010 (2553): ผู้บริหาร "พรีเมียร์กรุ๊ป" (คุณดวงทิพย์) ได้มาพบนายวูยองที่ HO ของเอชทีซีเพื่อแจ้งว่า "พรีเมียร์กรุ๊ป" พร้อมที่จะซื้อที่ดินจาก PSC และจะซื้อบ้านพักพนักงานจากเอชทีซี 22 กรกฎาคม 2010 (2553): มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้แทนของ "พรีเมียร์กรุ๊ป "ผู้แทนของเอชทีซีและผู้แทนของ" กลุ่ม บริษัท ซันโย "(ในนามของ PSC) ผลการวิทยาลัยอิสลามศึกษาสรุปได้ว่าเอชทีซีพร้อมที่จะขายบ้านพัก พนักงานในราคาตามสัญญาคือ 28 ล้านบาท 25-30 ปีซึ่ง "พรีเมียร์กลุ่ม บริษัท " จะนำไปพิจารณาและเสนอราคาค่าเช่าทั้งนี้รัตนาจะให้เช่าได้ไม่นาน12. 16 สิงหาคม 2010 (2553): "พรีเมียร์กลุ่ม บริษัท " HTC กับ PSC ตกลงกันไว้คือ 28 ล้านบาท จำนวน 62 หลังในอัตราเดือนละ 180,000 บาทและบ้านทาวเฮ้าส์จำนวน 150 หลังในอัตราเดือนละ 225,000 บาท รวมเป็นเงินเดือนละ 405,000 บาทและจะเรียกเก็บเงิน 3 เดือนหรือเท่ากับ (405,000 x 3) 1,215,000 บาทรายละเอียดปรากฎตามหนังสือที่แนบ13. 22 กันยายน 2010 (2553): HTC แจ้งเป็นหนังสือต่อ "พรีเมียร์กลุ่ม" เพื่อต่อรองราคาโดยขอเช่าบ้านทาวเฮ้าส์ 1,300 บาท ต่อเดือนเป็นเงิน 195,000 บาทต่อเดือนและขอเช่าบ้านแฝด 1,800 บาทต่อเดือนเป็นเงิน 111,600 บาทต่อเดือนรวมเป็นเงินทั้งสิ้น306,600 บาทต่อเดือนกำหนดเวลาการเช่า 4 ปีและขอต่ออายุการเช่าได้คราวละ 4 ปี14. 11 ตุลาคม 2010 (2553): "พรีเมียร์กลุ่ม บริษัท " และให้อยู่บนที่ดินฟรีโดยไม่เสียค่าเช่าเป็นเวลา 2 ปีและเมื่อครบ 2 ปีแล้วให้รื้อถอนบ้านออกไปพัก15. 12 ตุลาคม 2010 (2553): PSC โดยทีมบริหารจาก "กลุ่ม บริษัท ซันโย" แจ้งไม่ต่ออายุสัญญา เช่าที่ดินโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2010 (2553) 16. 29 ตุลาคม 2010 (2553): เอชทีซีแจ้งต่อ PSC PSC ซื้อบ้านพักฯ ในราคาตามสัญญาคือ 28 ล้านบาทและขอเช่ากลับราคารวม 336,600 บาท17. 22 พฤศจิกายน 2010 (2553): PSC ตอบกลับเป็นหนังสือว่าค่าเช่าให้เป็นไปตามที่"พรีเมียร์กรุ๊ป" เสนอ18. 26 พฤศจิกายน 2010 (2553): HTC แจ้งนาย Fumihisa Endo กรรมการ PSC ว่าHTC ตกลงกับ "พรีเมียร์กลุ่ม" แล้ว PSC ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดิน19. 29 พฤศจิกายน 2010 (2553): HTC แจ้ง "พรีเมียร์กลุ่ม บริษัท " เป็นหนังสือว่าตกลง ราค่าเช่าตามที่ "พรีเมียร์กรุ๊ป" เสนอมาเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2010 (2553) กล่าวคือตกลงที่จะขายบ้านพักพนักงานในราคา 28 ล้านบาทและยินดีจ่ายค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . 2 กรกฎาคม 1997 ( 2540 ) : รัฐบาลไทยประกาศลอยตัวค่าเงินบาทจากระบบอัตราแลก
เปลี่ยนเดิมที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่แบบอิงตะกร้าเงินไว้ที่ 25 บาทใหม่ให้ 1 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐทำ
ให้ HTC ( เดิมความฟ้อง )
ขาดทุนจากการลดค่าเงินบาทมากกว่า 3500000000 บาทจนถึงปัจจุบันและเป็นผลขาดทุนสะสมมา

2 23 ธันวาคม 2003 ( 2546 ) : ผู้ถือใหญ่ของซันโยไฟฟ้าสากล จำกัด [
ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Haier ไฟฟ้า ( ประเทศไทย ) จำกัด ( มหาชน ) : HTC ] ได้แก่กลุ่มและ
ซันโยพรีเมียร์ กลุ่มได้เข้าทำสัญญาปรับ
โครงสร้างทางธุรกิจโดยการระดมทุนเพื่อให้ได้เงินมาใช้หมุนเวียนในกิจการและเสริมสภาพมีข้อตกลงที่สำคัญดังนี้

คล่อง( 1 ) บริษัทฯ ( ปัจจุบันความ HTC ) จะผลิตแต่ผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ตู้เย็นเครื่องซักผ้าและ

( 2 ) ซันโย กลุ่มจะนำเงินมาลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีก 2000 ล้านบาทไปดำเนินการ

และรับโอนกิจการผลิตตู้แช่ที่ฉะเชิงเทรา( 3 ) พรีเมียร์ กลุ่มรับโอนกิจการการผลิตมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ /
เตาแก๊สและตู้ทำน้ำร้อน - น้ำเย็นไปดำเนินการรับซื้อหุ้นสามัญที่บริษัทฯถืออยู่ในบริษัทย่อยได้แก่ฉะเชิงเทราคัสติ้งเวิคจำกัด

บริษัท( ผลิตชิ้นส่วนคอมเพรสเซอร์ ) / บริษัทโมลด์แอนด์ได
แมนิวแฟคเจอริ่งจำกัด ( ผลิตแม่พิมพ์ ) รวมทั้งรับซื้อทรัพย์สินที่ไม่ได้งานในกิจการเช่นที่ดินว่างเปล่าที่จังหวัดเลย / ที่ดินและบ้านพักพนักงานที่

อำเภอกบินทร์บุรี / ที่ดินและอาคารคลังสินค้าอัตโนมัติที่ฉะเชิงเทรา /
ที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานที่ฉะเชิงเทรา

3ที่ดินและบ้านพักพนักงานที่ตำบลทุ่งโพธิ์อำเภอกบินทร์บุรีจังหวัดปราจีนบุรีก็เป็นทรัพย์สินที่
ต้องขายให้ " พรีเมียร์ กรุ๊ป " รายละเอียดปรากฎใน exhibit-b ในสัญญาตามแนบ
4หลังจากที่ " ซันโย กลุ่ม " ซื้อหุ้นเพิ่มทุนทำให้ซู ( ปัจจุบันความ HTC ) กลายสภาพเป็น
บริษัทต่างด้าว ( บริษัทต่างชาติ ) ทำให้ถือกรรมสิทธิในที่ดินไม่ได้
( ยกเว้นที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงงานที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ) ต้องขายออกไปให้
1 . บุคคลสัญชาติไทยภายในนับแต่วันที่กลายสภาพเป็นบริษัทต่างด้าวและในช่วงเวลานั้น " พรีเมียร์ กรุ๊ป " ไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อที่ดินและบ้านพักพนักงานได้
5 15 พฤศจิกายน 2004 ( 2547 ) : " ซันโย " พรีเมียร์ กรุ๊ป " กลุ่ม " และได้ร่วมมือ
กันตั้งบริษัทไทยได้แก่เชิงรุกโซลูชั่น จำกัด ( " PSC " ) ขึ้นมาเพื่อรับซื้อที่ดิน
พร้อมบ้านพักพนักงาน
6 30 พฤศจิกายน 2004 ( 2547 ) : PSC กับฟ้องทำสัญญาซื้อเฉพาะที่ดินจำนวน
423-1-33 ไร่ 15 ในราคาล้านบาทส่วนบ้านพักพนักงานนั้นฟ้องสามารถถือครองกรรมสิทธิได้และ
จะซื้อจาก HTC ในภายหล
7 9 ธันวาคม 2004 ( 2547 ) : ฟ้องไปจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่ PSC และในขณะเดียวกัน
ฟ้องก็ทำสัญญาเช่าที่ดินทั้งหมดจำนวน 423-1-33 ไร่จาก PSC เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของบ้านพักฯคอนโด
6
กำหนดเวลาการเช่าเดือนและต่ออายุสัญญาคราวละ 6 เดือน
8เนื่องด้วย " พรีเมียร์ กรุ๊ป " ตกลงที่จะซื้อที่ดินพร้อมบ้านพักพนักงานตามสัญญาปรับโครง
สร้างทางธุรกิจตามข้อ 2 และยังเข้าทำสัญญาแน่นอนใช่ข้อตกลงไว้กับฟ้องซึ่งมี
เงื่อนไขว่าถ้าฟ้องจะขายที่ดินพร้อมบ้านพักพนักงานต้องเสนอขายให้แก่ " พรีเมียร์ กรุ๊ป " ก่อน
และเมื่อ " พรีเมียร์ กรุ๊ป " ยังไม่พร้อมที่จะซื้อที่ดินและบ้านพักดังนั้น PSC จึงต้องรอขายที่ดิน
และฟ้องรอขายบ้านพักพนักงานให้แก่ " พรีเมียร์ กรุ๊ป " โดยฟ้องก็ต้องต่อสัญญาซื้อขาย
บ้านพักพนักงานและสัญญาเช่าที่ดินกับ PSC คราวละเดือนตลอดมา 6

9 31 มีนาคม 2007 ( 2550 ) : " Haier Group " เข้ามาซื้อกิจการจาก " ซันโย กลุ่ม "
จึงได้เปลี่ยนชื่อคู่สัญญาในสัญญาการซื้อขายและเช่าที่ดินที่ทำไว้กับ PSC เป็น Haier ไฟฟ้า
( ประเทศไทย ) จำกัด ( มหาชน )
( " HTC " ) กล่าวคือ PSC จะซื้อบ้านจาก HTC ในราคา 28 ล้านบาทและ HTC เช่าที่ดิน
จาก PSC โดยจ่ายค่าเช่าให้ PSC ในอัตราเดือนละ 110 , 000 บาทแนบรายละเอียดปรากฎตามสัญญาที่

10 26 พฤษภาคม 2010 ( 2553 ) : ผู้บริหาร " พรีเมียร์ กรุ๊ป " ( คุณดวงทิพย์ ) ได้มาพบ
คุณโฮ ยอง วู ที่ของ HTC เพื่อแจ้งว่า " พรีเมียร์ กรุ๊ป " พร้อมที่จะซื้อที่ดินจาก PSC และ
จะซื้อบ้านพักพนักงานจาก HTC HTC เช่าบ้านพักกลับมาให้พนักงานอยู่อาศัยต่อไปโดยจะนัดประชุมกันเพื่อกำหนดเงื่อนไขการซื้อขายและการให้

1122 กรกฎาคม 2010 ( 2553 ) : มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้แทนของ " พรีเมียร์
กลุ่ม " ผู้แทนของ HTC และผู้แทนของ " ซันโย กลุ่ม " ( ในนามของ PSC ) ผลการประชุมสรุป
ได้ว่า HTC พร้อมที่จะขายบ้านพักพนักงานในราคาตามสัญญาความ 28 ล้านบาทและขอเช่ากลับ
โดยมีกำหนดเวลาการเช่า 25-30 . ซึ่ง " พรีเมียร์ กรุ๊ป " จะนำไปพิจารณาและเสนอราคาค่า
เช่าทั้งนี้อาจจะให้เช่าได้ไม่นาน

12 16 สิงหาคม 2010 ( 2553 ) : " พรีเมียร์ กรุ๊ป " แจ้งเป็นหนังสือว่าจะซื้อบ้านพักพนักงาน
ในราคาตามสัญญาที่ HTC กับ PSC ตกลงกันไว้ความ 28 ล้านบาทและเสนอราคาให้เช่าบ้านพักฯ
เฉพาะบ้านแฝดจำนวน 62 หลังในอัตราเดือนละ 180 , 000 บาทและบ้านทาวเฮ้าส์จำนวน 150
หลังในอัตราเดือนละ 225 ,000 บาท ( พร้อมที่ดินเฉพาะส่วนที่เป็นที่ตั้งของบ้านพักฯ ) รวมเป็นเงิน
เดือนละเฮลท์บาทและจะเรียกเก็บเงินประกันการเช่ามีมูลค่าเท่ากับค่าเช่า 3 เดือนค็อค
เท่ากับ ( เฮลท์ x 3 ) 1215000 บาทรายละเอียดปรากฎตามหนังสือที่แนบ

13 . 22 กันยายน 2010 ( 2553 ) : HTC แจ้งเป็นหนังสือต่อ " พรีเมียร์ กรุ๊ป " เพื่อต่อรอง
ราคาโดยขอเช่าบ้านทาวเฮ้าส์ 1300 บาทต่อเดือนเป็นเงิน 195000 บาทต่อเดือนและขอเช่า
บ้านแฝด 1800 บาทต่อเดือนเป็นเงิน 111 ,600 บาทต่อเดือนรวมเป็นเงินทั้งสิ้น
306600 บาทต่อเดือนกำหนดเวลาการเช่า 4 . และขอต่ออายุการเช่าได้คราวละ 4 .

14 11 ตุลาคม 2010 ( 2553 ) : " พรีเมียร์ กรุ๊ป " แจ้งตอบเป็นหนังสือว่าไม่ซื้อบ้านพัก
พนักงานและให้อยู่บนที่ดินฟรีโดยไม่เสียค่าเช่าเป็นเวลา 2 . และเมื่อครบ 2 ปีแล้วให้รื้อถอนบ้าน
พักออกไป

15 12 ตุลาคม 2010 ( 2553 ) : PSC โดยทีมบริหารจาก " ซันโย กลุ่ม " แจ้งไม่ต่ออายุ
สัญญาเช่าที่ดินโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2010 ( 2553 )

16 29 ตุลาคม 2010 ( 2553 ) : HTC แจ้งต่อ PSC ในฐานะคู่สัญญาจะซื้อจะขายบ้านพักพนักงาน
โดยให้ PSC ซื้อบ้านพักฯในราคาตามสัญญาความ 28 ล้านบาทและขอเช่ากลับราคารวมบาท 336600

1722 พฤศจิกายน 2010 ( 2553 ) : PSC ตอบกลับเป็นหนังสือว่าค่าเช่าให้เป็นไปตามที่
" พรีเมียร์ กรุ๊ป " เสนอ

18 26 พฤศจิกายน 2010 ( 2553 ) : HTC แจ้งคุณ fumihisa Endo กรรมการ PSC ว่า
HTC ตกลงกับ " พรีเมียร์ กรุ๊ป " แล้ว PSC ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดิน

1929 พฤศจิกายน 2010 ( 2553 ) : HTC แจ้ง " พรีเมียร์ กรุ๊ป " เป็นหนังสือว่าตกลงราค่า
เช่าตามที่ " พรีเมียร์ กลุ่ม “เสนอมาเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2010 ( 2553 ) กล่าวคือตกลงที่จะ
ขายบ้านพักพนักงานในราคา 28 ล้านบาทและยินดีจ่ายค