Diabetes mellitus is on the rise in

Diabetes mellitus is on the rise in the United States with 8.3% of the population
currently affected by the disease. High rates of depression are common among
diabetes patients, complicating diabetes self-care. Inadequate self-care leads to
impaired glycemic control and disease complications. Social support has been
identified as a resource in managing diabetes self-care; however, associations among
psychological distress, diabetes self-care, and social support are not often studied for
adult patients with diabetes. The purpose of this study was to conduct a crosssectional,
secondary data analysis examining relationships among social support,
diabetes self-care, depressive symptoms and diabetes-related emotional distress for
222 diabetes participants (49.5% with type 1 and 50.5% with type 2 diabetes) in poor
glycemic control (HbA1c > 7.5%). The present study used data from the Joslin
Diabetes Center to assess associations among these variables. Negative associations
were found between social support and depressive symptoms as well as depressive
symptoms and self-care. However, no relationship was found between social support
and diabetes self-care. Therefore, the presence of depressive symptoms did not
mediate the relationship between social support and diabetes self-care. Results from
this study underscore the importance of considering psychosocial factors such as
depressive symptoms, diabetes-related emotional distress, and the role of social
support in diabetes treatment

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นเบาหวานเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาที่ 8.3% ของประชากรในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากโรค ภาวะซึมเศร้าในอัตราที่สูงอยู่ทั่วไปในหมู่ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซับซ้อนโรคเบาหวานดูแลตนเอง ไม่เพียงพอดูแลตนเองไปสู่ลดน้ำตาลควบคุมและโรคแทรกซ้อน ได้รับการสนับสนุนทางสังคมระบุว่าเป็นทรัพยากรในการจัดการดูแลตนเองโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของหมู่ความทุกข์ทางจิตใจ ดูแลตนเองโรคเบาหวาน และการสนับสนุนทางสังคมจะไม่มักจะศึกษาสำหรับผู้ป่วยผู้ใหญ่โรคเบาหวาน วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เป็นการ ดำเนินการ crosssectionalตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนทางสังคม การวิเคราะห์ข้อมูลรองดูแลตนเองโรคเบาหวาน อาการซึมเศร้า และความทุกข์ทางอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานสำหรับ222 คนโรคเบาหวาน (49.5% ชนิด 1 และ 50.5% มีโรคเบาหวาน 2 ชนิด) ในคนยากจนควบคุมน้ำตาล (HbA1c > 7.5%) การศึกษาใช้ข้อมูลจาก Joslinศูนย์เบาหวานประเมินความสัมพันธ์ของระหว่างตัวแปรเหล่านี้ ลบความสัมพันธ์ของถูกพบระหว่างการสนับสนุนทางสังคมและอาการซึมเศร้า เช่นซึมเศร้าอาการและการดูแลตนเอง อย่างไรก็ตาม พบไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนทางสังคมและดูแลตนเองโรคเบาหวาน ดังนั้น การปรากฏตัวของอาการซึมเศร้าไม่ได้ไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนทางสังคมและการดูแลตนเองโรคเบาหวาน ผลจากการศึกษานี้เน้นความสำคัญของการพิจารณาปัจจัยจิตวิทยาสังคมเช่นอาการซึมเศร้า ภาวะอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน และบทบาทของสังคมสนับสนุนในการรักษาโรคเบาหวาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคเบาหวานเป็นที่เพิ่มขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มี 8.3% ของประชากรที่
ได้รับผลกระทบจากโรค อัตราที่สูงของภาวะซึมเศร้าเป็นเรื่องธรรมดาในหมู่
ผู้ป่วยโรคเบาหวานแทรกซ้อนโรคเบาหวานการดูแลตนเอง การดูแลตนเองไม่เพียงพอจะนำไปสู่
​​การด้อยค่าการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและโรคแทรกซ้อน การสนับสนุนทางสังคมที่ได้รับการ
ระบุว่าเป็นทรัพยากรในการจัดการโรคเบาหวานการดูแลตนเองนั้น อย่างไรก็ตามสมาคมท่ามกลาง
ความทุกข์ทางจิตใจโรคเบาหวานการดูแลตนเองและการสนับสนุนทางสังคมมักจะไม่ศึกษาสำหรับ
ผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่มีโรคเบาหวาน วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้มีการดำเนินการ crosssectional,
การวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนทางสังคม
โรคเบาหวานการดูแลตนเองอาการซึมเศร้าและโรคเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับความทุกข์ทางอารมณ์สำหรับ
ผู้เข้าร่วมโรคเบาหวาน 222 (49.5% มีประเภทที่ 1 และ 50.5% ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ) ในยากจน
การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (HbA1c> 7.5%) การศึกษาครั้งนี้ใช้ข้อมูลจาก Joslin
โรคเบาหวานศูนย์เพื่อประเมินสมาคมระหว่างตัวแปรเหล่านี้ สมาคมเชิงลบ
ของเขาถูกพบระหว่างการสนับสนุนและความซึมเศร้าอาการทางสังคมเช่นเดียวกับซึมเศร้า
อาการและการดูแลตนเอง อย่างไรก็ตามไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนทางสังคม
และโรคเบาหวานการดูแลตนเอง ดังนั้นการปรากฏตัวของอาการซึมเศร้าไม่ได้
เป็นสื่อกลางความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนทางสังคมและโรคเบาหวานการดูแลตนเองที่ ผลลัพธ์ที่ได้จาก
การศึกษาครั้งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพิจารณาปัจจัยทางจิตสังคมเช่น
อาการซึมเศร้าโรคเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับความทุกข์ทางอารมณ์และบทบาทของสังคม
การสนับสนุนในการรักษาโรคเบาหวาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคเบาหวานเป็นที่ขึ้นในสหรัฐอเมริกากับ 8.3 % ของประชากรขณะนี้ได้รับผลกระทบจากโรค อัตราสูงของภาวะซึมเศร้าทั่วไประหว่างการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน แทรกซ้อนโรคเบาหวาน ด้านการดูแลตนเอง ไปสู่ความบกพร่องในการควบคุมระดับน้ำตาล และ โรค ภาวะแทรกซ้อน ได้รับการสนับสนุนทางสังคมระบุเป็นทรัพยากรในการจัดการ การดูแลตนเองในโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม สมาคมจิตทุกข์ การดูแลตนเอง โรคเบาหวาน และการสนับสนุนทางสังคม มักจะไม่ศึกษาสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา crosssectional ,การวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนทางสังคมการดูแลตนเอง โรคเบาหวาน โรคซึมเศร้า อาการโรคเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับทุกข์ทางจิตใจสำหรับ222 โรคเบาหวานร่วม ( 49.5 เปอร์เซ็นต์ 50.5 % ประเภท 1 และเบาหวานชนิดที่ 2 ) ไม่ดีการควบคุมระดับน้ำตาล ( 1 ) > 7.5 % ) การศึกษาครั้งนี้ใช้ข้อมูลจาก Joslinศูนย์เบาหวานเพื่อประเมินสมาคมระหว่างตัวแปรเหล่านี้ สมาคมลบพบระหว่างแรงสนับสนุน ทางสังคม และภาวะซึมเศร้า รวมทั้ง โรคซึมเศร้าอาการและการดูแลตนเอง อย่างไรก็ตาม พบว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างแรงสนับสนุนทางสังคมและการดูแลตนเองผู้ป่วยเบาหวาน ดังนั้น การแสดงตนของอาการโรคซึมเศร้าไม่ได้ไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนทางสังคมกับพฤติกรรมการดูแลตนเองผู้ป่วยเบาหวาน ผลจากการศึกษานี้เน้นย้ำความสำคัญของการพิจารณาปัจจัยด้านจิตสังคม เช่นอาการของโรคซึมเศร้า โรคเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับทุกข์ทางจิตใจ และบทบาททางสังคมสนับสนุนในการรักษาเบาหวาน