2.5phrCTS-t-ENR and 5phrCTS-t-ENR s

2.5phrCTS-t-ENR and 5phrCTS-t-ENR showed a uniformly
dispersed CTS in the ENR matrix. It is quite noticeable that CTS goes
through a breakage as shown in SEM Fig. 1 (c) rather than pull out
suggesting a good immobilization of the CTS which tally with our
tensile data. Where else the 10 phrCTS-t-ENR shows that the CTS
are aggregated causing agglomeration in the ENR matrix. Even the
CTS agglomerates at high loading but yet the CTS are not pulled out
indicating that the acetic acid used to partially dissolve CTS actually
plays a role in the immobilization of CTS in ENR matrix. Whereby,
the latex starts to coagulate quite fast due to the presence of acid
and it entraps the CTS preventing it from phasing out.
Percentage of elongation at break (Fig. 4) increases with the
increase in CTS content up to 2.5 phr. Beyond 2.5 phr of CTS loading
the formation of homogenous filler is tougher and therefore the
dispersion of CTS filler becomes less homogenous which leads to
poor interaction between matrix and filler. Besides that the CTS
reduces the molecular mobility of polymer chains also results in a

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.5phrCTS-t-ENR และ 5phrCTS-t-ENR พบสม่ำเสมอCTS กระจายในเมตริกซ์ ENR จะเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่า CTS ไปโดยแตกเป็นแสดงใน SEM มะเดื่อ 1 (c) มากกว่าดึงออกการตรึงดีของ CTS ที่เค้าแนะนำของเราแรงดึงข้อมูล ที่ไหนที่ 10 phrCTS-t-ENR แสดงให้เห็นว่าที่ CTSจะมีสะสมก่อให้เกิดการรวมตัวกันในเมตริกซ์ ENR แม้แต่การCTS agglomerates ที่การโหลดสูง แต่ยัง CTS ถูกดึงออกระบุว่า กรดอะซิติกใช้บางส่วนละลาย CTS จริงบทบาทในการตรึงของ CTS ในเมทริกซ์ ENR โดยน้ำยางเริ่มแข็งตัวค่อนข้างรวดเร็วเนื่องจากการปรากฏตัวของกรดและมัน entraps CTS ที่ป้องกันจากการร่ายเปอร์เซ็นต์การยืดที่ (รูป 4) เพิ่มขึ้นกับการเพิ่มเนื้อหา CTS ถึง 2.5 phr เกิน 2.5 phr. ของ CTS โหลดการก่อตัวของฟิลเลอร์ที่เป็นเนื้อเดียวกันจะยากขึ้นดังนั้นการการกระจายของฟิลเลอร์ CTS กลายเป็นเนื้อเดียวกันน้อยซึ่งนำไปสู่ปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเมตริกซ์และฟิลเลอร์ นอกจากนั้น CTSลดจำนวนโมเลกุลของพอลิเมอร์โซ่ยังผลในการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.5phrCTS-T-ENR และ 5phrCTS-T-ENR แสดงให้เห็นเหมือนกัน
แยกย้ายกัน CTS ในเมทริกซ์ ENR มันค่อนข้างเห็นได้ชัดว่า CTS ไป
ผ่านความแตกแยกดังแสดงในรูปที่ SEM 1 (ค) แทนที่จะดึงออกมา
แนะนำการตรึงที่ดีของ CTS ซึ่งนับกับเรา
ข้อมูลแรงดึง ไม่มีที่ไหนที่ 10 phrCTS-T-ENR แสดงให้เห็นว่า CTS
มีการรวบรวมก่อให้เกิดการรวมตัวกันในเมทริกซ์ ENR แม้
agglomerates CTS ที่โหลดสูง แต่ยัง CTS ยังไม่ได้ดึงออกมา
แสดงให้เห็นว่ากรดอะซิติกที่ใช้ในการละลายบางส่วน CTS จริง
มีบทบาทในการตรึง CTS ใน ENR เมทริกซ์ เหตุ
น้ำยางจะเริ่มแข็งตัวค่อนข้างเร็วเพราะการปรากฏตัวของกรด
และ entraps CTS ป้องกันจากการยุติการ.
ร้อยละของความยืดเมื่อขาด (รูปที่. 4) เพิ่มขึ้นกับการ
เพิ่มขึ้นในเนื้อหา CTS ถึง 2.5 PHR นอกเหนือจาก 2.5 PHR ของ CTS โหลด
การก่อตัวของฟิลเลอร์เป็นเนื้อเดียวกันจะรุนแรงและทำให้
การกระจายตัวของ CTS ฟิลเลอร์จะกลายเป็นเนื้อเดียวกันน้อยซึ่งนำไปสู่
​​การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้น่าสงสารเมทริกซ์และฟิลเลอร์ นอกจากนี้ส่วน CTS
ช่วยลดการเคลื่อนไหวของโมเลกุลโซ่ลิเมอร์นอกจากนี้ยังส่งผลในการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และ 2.5phrcts-t-enr 5phrcts-t-enr แสดงอย่างสม่ำเสมอกระจาย CTS ใน ENR เมทริกซ์ มันค่อนข้างชัดเจนว่า เรา ไปผ่านการแตกดังแสดงในรูปที่ 1 ( ค ) ซึ่งมากกว่าการดึงออกแนะนำการตรึงดีของ CTS ซึ่งสอดคล้องกับของเราข้อมูล แรงดึง แล้วอีก 10 phrcts-t-enr แสดงว่าใกล้จะก่อให้เกิดการรวมใน ENR เมทริกซ์ แม้cts รวมโหลดสูง แต่ยังคาดหวังไม่ได้ดึงออกระบุว่า กรดที่ใช้บางส่วนละลายเราจริง ๆบทบาทในการตรึงก๊าซใน ENR เมทริกซ์ โดยที่ยางเริ่มจับตัวเป็นก้อนค่อนข้างรวดเร็วเนื่องจากมีกรดและมันทำให้ติดกับดักที่ CTS ป้องกันจากปัญหาออกค่าร้อยละของการยืดตัวที่จุดแตกหัก ( รูปที่ 4 ) เพิ่มด้วยเพิ่มใน CTS เนื้อหาถึง 2.5 phr . เกิน 2.5 ส่วนต่อของ CTS โหลดการยึดเกาะตัวเป็นรุนแรงและดังนั้นการกระจายของ CTS ตัวน้อยกลายเป็นเนื้อเดียว ซึ่งนำไปสู่ปฏิสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างเมทริกซ์และสารเติมแต่ง นอกจากนี้ที่ใกล้ลดการเคลื่อนย้ายโมเลกุลของพอลิเมอร์โซ่ยังมีผลใน