In early Dzogchen practice, one sho

In early Dzogchen practice, one should not strive to get enlightenment, since that is a form of desire and delusion.

Instead, one simply focused on the natural emptiness and purity of the mind. This is the Dzogchen conception of human nature.

However, Dzogchen eventually incorporated a lot of magical practices, including wrathful (fearsome) deities, and deities in erotic relationship.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในช่วงปฏิบัติ Dzogchen หนึ่งควรมุ่งมั่นไม่ได้ตรัสรู้ เนื่องจากเป็นรูปแบบของความต้องการและความเข้าใจผิดแทน หนึ่งก็เน้นธรรมชาติเปล่าและความบริสุทธิ์ของจิตใจ นี่คือความคิด Dzogchen ของธรรมชาติของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม Dzogchen ในที่สุดรวมของขลังปฏิบัติ รวมถึงเทวดาพล่าน (พิลึก) เทวดาในกามความสัมพันธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในทางปฏิบัติครันค์ต้นหนึ่งไม่ควรมุ่งมั่นที่จะได้รับการตรัสรู้เนื่องจากว่าเป็นรูปแบบของความปรารถนาและความเข้าใจผิด. แต่อย่างใดอย่างหนึ่งที่มุ่งเน้นเพียงความว่างเปล่าที่เป็นธรรมชาติและความบริสุทธิ์ของจิตใจ นี่คือความคิดครันค์ของธรรมชาติของมนุษย์. แต่ในที่สุดก็ครันค์นิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นเป็นจำนวนมากของการปฏิบัติที่มีมนต์ขลังรวมทั้งโมโห (น่ากลัว) เทพและเทพในความสัมพันธ์ที่เร้าอารมณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการปฏิบัติ dzogchen ต้นหนึ่งไม่ควรมุ่งมั่นที่จะได้ตรัสรู้ นั่นคือ รูปแบบของความปรารถนาและความหลง

แต่หนึ่งเพียงแค่เน้นความว่างเปล่าธรรมชาติและความบริสุทธิ์ของจิตใจ นี่เป็น dzogchen ความคิดของมนุษย์

แต่ dzogchen ในที่สุดรวมมากของการปฏิบัติที่มีมนต์ขลัง ทั้งโกรธเกรี้ยว ( พิลึก ) เทพ และเทพในความสัมพันธ์
เร้าอารมณ์