ConclusionFrom the obtained results

Conclusion
From the obtained results, using the conventional technique, the best yield % for the production of biodiesel from Jatropha oil was obtained using a methanol/oil molar ratio of 7.5:1, potassium hydroxide as catalyst (1.5%), and a reaction time of one hour with the reaction temperature maintained at 65 °C. The study also showed that the quality of the produced biodiesel satisfies the international American and European standards; hence, inedible vegetable oils such as Jatropha oil, produced by seed-bearing shrubs, can provide an alternative, and they do not have competing food uses.

The results showed that application of radio frequency microwave energy offers a fast, easy route to this valuable biofuel with advantages of enhancing the reaction rate and improving the separation process. The reaction time was reduced to 2 min instead of 150 minutes (90 min for the pretreatment process and 60 min for transesterification), because, by using the microwave technique, no pretreatment is required. The methodology also allows for the use of high free fatty acid content feedstock, including Jatropha oil. However, this will need time control, otherwise the yield may be affected.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สรุปจากได้รับผล การใช้เทคนิคทั่วไป, %ผลตอบแทนที่ดีที่สุดสำหรับการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันสบู่ดำมาใช้เมทานอลน้ำมันอัตราส่วนสบ 7.5:1 โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา (1.5%), และหนึ่งชั่วโมงในเวลาปฏิกิริยากับอุณหภูมิปฏิกิริยา 65 องศาเซลเซียส การศึกษายังแสดงให้เห็นว่า คุณภาพของไบโอดีเซลผลิตตรงตามมาตรฐานสากลที่อเมริกาและยุโรป ด้วยเหตุนี้ น้ำมันพืชกินไม่ได้เช่นน้ำมันสบู่ดำ ผลิต โดยเมล็ดเรืองพุ่ม สามารถให้ทางเลือก และจะไม่มีการแข่งขันการใช้อาหารผลการศึกษาพบว่า ประยุกต์ใช้พลังงานไมโครเวฟความถี่วิทยุที่มีเส้นทางอย่างรวดเร็ว ง่ายต่อการเชื้อเพลิงชีวภาพนี้มีคุณค่ากับข้อดีของการเพิ่มอัตราการเกิดปฏิกิริยา และการปรับปรุงกระบวนการแยก เวลาการเกิดปฏิกิริยาลดลง 2 นาทีแทน 150 นาที (90 นาที สำหรับกระบวนการเตรียม และ 60 นาทีสำหรับเพิ่ม), เนื่องจาก โดยใช้เทคนิคไมโครเวฟ ปรับสภาพไม่จำเป็น วิธีการยังช่วยให้การใช้กรดไขมันอิสระสูงวัตถุดิบเนื้อหา รวมถึงน้ำมันสบู่ดำ อย่างไรก็ตาม นี้จะต้องควบคุมเวลา มิฉะนั้น ผลผลิตอาจได้รับผลกระทบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุป
จากผลที่ได้รับโดยใช้เทคนิคการชุมนุมที่ดีที่สุดผลตอบแทน% สำหรับการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันสบู่ดำที่ได้รับใช้เมทานอล / น้ำมันอัตราส่วน 7.5: 1, โพแทสเซียมไฮดรอกไซเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา (1.5%) และเวลาการเกิดปฏิกิริยา หนึ่งชั่วโมงกับอุณหภูมิไว้ที่ 65 องศาเซลเซียส การศึกษายังพบว่าคุณภาพของไบโอดีเซลที่ผลิตที่สอดคล้องกับมาตรฐานอเมริกาและยุโรประหว่างประเทศ ด้วยเหตุนี้น้ำมันพืชกินไม่ได้เช่นน้ำมันสบู่ดำที่ผลิตโดยพุ่มไม้เมล็ดสามารถให้ทางเลือกและพวกเขาไม่ได้มีการแข่งขันการใช้อาหาร.

ผลการศึกษาพบว่าการประยุกต์ใช้พลังงานไมโครเวฟคลื่นความถี่วิทยุให้บริการที่รวดเร็วและเส้นทางที่ง่ายต่อการที่มีค่านี้ เชื้อเพลิงชีวภาพมีข้อได้เปรียบในการเพิ่มอัตราการเกิดปฏิกิริยาและการปรับปรุงกระบวนการแยก เวลาปฏิกิริยาถูกลดลงไป 2 นาทีแทนที่จะเป็น 150 นาที (90 นาทีสำหรับกระบวนการปรับสภาพและ 60 นาทีสำหรับ transesterification) เพราะโดยใช้เทคนิคไมโครเวฟไม่จำเป็นต้องมีการปรับสภาพ วิธีนี้ยังช่วยให้การใช้กรดไขมันวัตถุดิบเนื้อหาสูงฟรี, รวมทั้งน้ำมันสบู่ดำ แต่นี้จะต้องควบคุมเวลามิฉะนั้นอัตราผลตอบแทนที่อาจได้รับผลกระทบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุปจากผลการทดลองใช้เทคนิคธรรมดา ดีที่สุด ผลตอบแทน % สำหรับการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันสบู่ดำได้โดยใช้เมทานอลน้ำมันอัตราส่วนโดยโมลของ 7.5:1 โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ( 1.5% ) และปฏิกิริยาเวลาหนึ่งชั่วโมงกับอุณหภูมิเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 65 องศา ผลการศึกษายังพบว่า คุณภาพของไบโอดีเซลที่ผลิตตรงตามมาตรฐานยุโรปและอเมริกา ดังนั้น น้ำมันพืชบริโภค เช่น น้ำมันสบู่ดำ , ผลิตโดยเมล็ดพันธุ์เรืองพุ่ม สามารถ ให้ ทางเลือก และพวกเขาไม่ได้มีการแข่งขันอาหารใช้ผลการศึกษาพบว่า การใช้วิทยุความถี่ไมโครเวฟพลังงานเสนออย่างรวดเร็ว เส้นทางเชื้อเพลิงชีวภาพที่มีคุณค่านี้ง่ายกับข้อดีของการเพิ่มอัตราการเกิดปฏิกิริยา และปรับปรุงกระบวนการแยก ปฏิกิริยาเวลาเหลือ 2 นาที แทนที่จะเป็น 150 นาที ( 90 นาทีสำหรับการประมวลผล และ 60 นาที สำหรับกระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่น ) เพราะ โดยใช้เทคนิคไมโครเวฟไม่มีภาวะจำเป็น และยังช่วยให้สำหรับการใช้กรดไขมันอิสระสูงขึ้น รวมทั้งน้ำมันสบู่ดำ . อย่างไรก็ตาม , นี้จะต้องควบคุมเวลา มิฉะนั้นผลผลิตอาจได้รับผลกระทบ