Relations between the generations a

Relations between the generations are not fixed or static and take new twists and turns over time as tensions rise and fall in response to changed circumstances and situations (see Gilbertson 2009). Of particular relevance are the shifts related to life-course change. Because most members of the second generation today are still young children, teenagers, and young adults, little has been written on relations with their immigrant parents as they move through the life course and set up families and households of their own or, in some cases, continue to live with their parents in extended family households (Kasinitz et al. 2008). As the second generation (and their parents) grow older, new conflicts may emerge or old ones may become intensified, for example, when mothers criticize adult daughters' childrearing techniques (Gilbertson 2009) or when aging and frail parents need support and care. Yet the literature suggests that reduction of conflict is more likely, at least while parents are still active and healthy, owing to the physical separation of the two generations when young people move out of the family home (Louie 2004, Park 2005) and because adult members of the second generation often reevaluate their earlier critical approaches as they assume parental roles (Waters & Sykes 2009) and daughters come to rely on mothers for advice, support, and sometimes, help with child care. In some immigrant groups, it is not uncommon for elderly immigrants to live for a significant period of time with their children and grandchildren in extended family households (Min 1998, Treas & Mazumdar 2004), and an important topic for further research is to explore grandparents' roles in these households and the relationships that develop among the three coresident generations, including how—and why—these patterns vary among national-origin groups.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นไม่คงที่ หรือแบบคงที่ และใช้บิดใหม่และเปลี่ยนช่วงเวลา ตามความตึงเครียดขึ้น และลงในการตอบสนองสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ (ดู Gilbertson 2009) ความเกี่ยวข้องเฉพาะมีกะที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรชีวิต เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ของรุ่นที่สองวันนี้ ยังเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาว น้อยได้ถูกเขียนในความสัมพันธ์กับการอพยพของพวกเขาผู้ปกครองย้ายผ่านหลักสูตรชีวิต และตั้งครอบครัวและครัวเรือน ของตนเอง หรือ ในบาง กรณี ยังคงอาศัยอยู่กับพ่อในครัวเรือนครอบครัวขยาย (Kasinitz et al. 2008) เป็นรุ่นที่สอง (และพ่อ) โต อาจเกิดความขัดแย้งใหม่ หรือคนเก่าอาจเป็น รุนแรง เช่น เมื่อมารดาวิพากษ์วิจารณ์ผู้ใหญ่ธิดาเล่มเทคนิค (Gilbertson 2009) หรือ เมื่อร่างกายอ่อนแอ และกำหนดอายุ ผู้ปกครองต้องสนับสนุน และดูแล แต่วรรณกรรมแนะนำว่า การลดความขัดแย้งมีแนวโน้ม น้อยในขณะที่พ่อแม่ยังคงใช้งานอยู่ และมีสุขภาพ ดี เนื่องจากการแยกทางกายภาพของรุ่นสองที่เมื่อคนหนุ่มสาวที่ย้ายจากบ้านครอบครัว (Louie 2004, 2005 ปาร์ค) และเนื่อง จากสมาชิกผู้ใหญ่ของรุ่นที่สองมัก reevaluate วิธีสำคัญก่อนหน้านี้ของพวกเขาพวกเขาสมมติบทบาทผู้ปกครอง (น้ำ & Sykes 2009) และลูกสาวมาพึ่งแม่แนะนำ สนับสนุน และ บางครั้งช่วยเหลือดูแลเด็ก ในบางกลุ่มอพยพ มันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้สูงอายุอพยพอยู่เป็นระยะเวลากับเด็กและลูกหลานในครัวเรือนครอบครัวขยาย (1998 นาที Treas & Mazumdar 2004), และหัวข้อสำคัญสำหรับการวิจัยต่อไปคือการ สำรวจบทบาทของปู่ย่าตายายในครัวเรือนเหล่านี้และความสัมพันธ์ที่พัฒนาในหมู่คนรุ่น coresident สาม รวมถึงวิธี — และทำไม — รูปแบบเหล่านี้แตกต่างกันระหว่างกลุ่มชาติกำเนิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นจะไม่คงที่หรือแบบคงที่และใช้บิดใหม่และจะเปิดในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นและตกอยู่ในการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ (ดู Gilbertson 2009) ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะมีการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงชีวิตแน่นอน เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ของรุ่นที่สองในวันนี้ยังคงมีเด็กเล็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่หนุ่มน้อยได้รับการเขียนเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับพ่อแม่ผู้อพยพของพวกเขาที่พวกเขาย้ายผ่านหลักสูตรชีวิตและการตั้งค่าครอบครัวและครัวเรือนของตนเองหรือในบางกรณี ยังคงอยู่กับพ่อแม่ของพวกเขาอยู่ในครัวเรือนครอบครัวขยาย (Kasinitz et al. 2008) ในฐานะที่เป็นรุ่นที่สอง (และพ่อแม่ของพวกเขา) โตขึ้นความขัดแย้งใหม่อาจเกิดหรือคนเก่าอาจจะกลายเป็นรุนแรงเช่นเมื่อแม่วิพากษ์วิจารณ์ลูกสาวผู้ใหญ่ 'เทคนิคการเลี้ยงดูเด็กอ่อน (Gilbertson 2009) หรือเมื่อริ้วรอยและผู้ปกครองอ่อนแอต้องการการสนับสนุนและการดูแลรักษา แต่วรรณกรรมที่แสดงให้เห็นการลดลงของความขัดแย้งที่มีโอกาสมากขึ้นอย่างน้อยขณะที่พ่อแม่ยังคงทำงานอยู่และมีสุขภาพดีเนื่องจากการแยกทางกายภาพของสองรุ่นเมื่อคนหนุ่มสาวย้ายออกจากบ้านของครอบครัว (หลุยปี 2004 ปาร์ค 2005) และเนื่องจากผู้ใหญ่ สมาชิกของรุ่นที่สองมักจะประเมินวิธีการที่สำคัญก่อนหน้านี้ขณะที่พวกเขาสวมบทบาทของผู้ปกครอง (น้ำและ Sykes 2009) และลูกสาวมาพึ่งพาแม่สำหรับคำแนะนำการสนับสนุนและบางครั้งช่วยในการดูแลเด็ก ในกลุ่มผู้อพยพบางส่วนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับการอพยพผู้สูงอายุที่จะมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญของเวลากับเด็กและลูกหลานของพวกเขาอยู่ในครัวเรือนครอบครัวขยาย (ต่ำสุดปี 1998 สมบัติและ Mazumdar 2004) และเป็นหัวข้อสำคัญสำหรับการวิจัยต่อไปคือการสำรวจปู่ย่าตายาย 'บทบาทสำคัญในการประกอบการเหล่านี้และความสัมพันธ์ที่พัฒนาในหมู่ที่สามรุ่น coresident รวมทั้งวิธีการและเหตุผลเหล่านี้รูปแบบแตกต่างกันระหว่างกลุ่มชาติกำเนิด