Stages of the theory[edit]Uses and

Stages of the theory[edit]
Uses and gratifications theory was developed from a number of prior communication theories and research conducted by fellow theorists. Indog
Stage 1[edit]
In 1944 Herta Herzog began to look at the earliest forms of uses and gratifications with her work classifying the reasons why people chose specific types of media. For her study, Herzog interviewed soap opera fans and was able to identify three types of gratifications. The three gratifications categories, based on why people listened to soap operas, were emotional, wishful thinking, and learning.[15]
In 1970 Abraham Maslow suggested that uses and gratifications theory was an extension of the Needs and Motivation Theory. The basis for his argument was that people actively looked to satisfy their needs based on a hierarchy. These needs are organized as Maslow's Hierarchy of Needs in the form of a pyramid with the largest, most fundamental needs at the base and the need for self-actualization at the tip. From the bottom-up the pyramid contains Biological/Physical, Security/Safety, Social/Belonging, Ego/Self-Respect and Self-actualization at the top.[15]
In 1954 Wilbur Schramm developed the fraction of selection, a formula for determining which form of mass media an individual would select. The formula helped to decide the amount of gratification an individual would expect to gain from the medium over how much effort they had to make to achieve gratification.[15]
Stage 2[edit]
In 1969 Jay Blumler and Denis McQuail studied the 1964 election in the United Kingdom by examining people's motives for watching certain political programs on television. By categorizing the audience's motives for viewing a certain program, they aimed to classify viewers according to their needs in order to understand any potential mass-media effects.[4] The audience motivations they were able to identify helped lay the groundwork for their research in 1972 and eventually uses and gratifications theory.[15]
In 1972 Denis McQuail, Jay Blumler and Joseph Brown suggested that the uses of different types of media could be grouped into 4 categories. The four categories were: diversion, personal relationships, personal identity and surveillance.[15]
In 1973-74 McQuail, Blumler and Brown were joined by Elihu Katz, Michael Gurevitch and Hadassah Haas, in their media exploration. The collaborative research began to indicate how people saw the mass media.[15]
Stage 3[edit]
The most recent interest surrounding Uses and Gratifications Theory is the link between the reason why media is used and the achieved gratification.[15]
UGT researchers are developing the theory to be more predictive and explanatory by connecting the needs, goals, benefits, and consequences of media consumption and use along with individual factors.[15]
Work in UGT was trailblazing because the research of Katz, Blumler, and Gurevitch built on Herzog's research and caused a paradigm shift from how media influences people to how audiences use media, diminishing the dominance of the limited effects approach to mass media studies.[15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขั้นตอนของทฤษฎี [แก้ไข]
การใช้และความพึงพอใจทฤษฎีได้รับการพัฒนาจากจำนวนของทฤษฎีการสื่อสารและการวิจัยก่อนที่ดำเนินการโดยเพื่อนนักทฤษฎี indog
ขั้นตอนที่ 1 [แก้ไข]
ในปี 1944 เฮอร์ทา Herzog เริ่มที่จะมองไปที่รูปแบบที่เก่าแก่ที่สุดของการใช้งานและความพึงพอใจกับการทำงานของเธอในการจำแนกเหต​​ุผลที่คนเลือกประเภทเฉพาะของสื่อ สำหรับการศึกษาของเธอHerzog สัมภาษณ์แฟนละครและก็สามารถที่จะระบุสามประเภทของความพึงพอใจ ความพึงพอใจในสามประเภทขึ้นอยู่กับเหตุผลที่คนฟังละครน้ำเน่ามีอารมณ์คิดปรารถนาและการเรียนรู้. [15]
ในปี 1970 อับราฮัม Maslow ชี้ให้เห็นว่าการใช้งานและความพึงพอใจทฤษฎีเป็นส่วนหนึ่งของความต้องการและทฤษฎีแรงจูงใจพื้นฐานสำหรับการโต้แย้งของเขาก็คือการที่คนมองอย่างแข็งขันเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขาขึ้นอยู่กับลำดับชั้น ความต้องการเหล่านี้จะถูกจัดเป็นลำดับชั้นของ Maslow ของความต้องการในรูปแบบของปิรามิดที่ใหญ่ที่สุดที่มีความต้องการพื้นฐานที่สุดที่ฐานและความจำเป็นในการที่ตนเอง actualization ที่ปลาย จากล่างขึ้นพีระมิดมีชีวภาพ / ทางกายภาพการรักษาความปลอดภัย / ความปลอดภัยทางสังคม / เป็นเจ้าของอัตตา / ความเคารพตนเองและตนเอง actualization ที่ด้านบน. [15]
ในปี 1954 วิลเบอร์ Schramm การพัฒนาในส่วนของการเลือกสูตรสำหรับการกำหนดรูปแบบที่สื่อมวลบุคคลจะเลือก สูตรช่วยในการตัดสินใจจำนวนของความพึงพอใจของแต่ละคนจะคาดหวังที่จะได้รับจากสื่อไปเท่าใดความพยายามที่พวกเขาจะต้องทำเพื่อให้บรรลุความพึงพอใจ. [15]
ขั้นตอนที่ 2 [แก้ไข]
ในปี 1969 jay Blumler และ denis McQuail ศึกษา 1964 การเลือกตั้งในสหราชอาณาจักรโดยการตรวจสอบแรงจูงใจของผู้คนสำหรับการดูโปรแกรมทางการเมืองบางอย่างในโทรทัศน์ โดยจัดหมวดหมู่แรงจูงใจของผู้ชมสำหรับการดูโปรแกรมบางอย่างที่พวกเขามีวัตถุประสงค์เพื่อจำแนกผู้ชมตามความต้องการของพวกเขาเพื่อให้เข้าใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นมวลสื่อ[4] แรงจูงใจของผู้ชมที่พวกเขาสามารถที่จะระบุได้ช่วยวางรากฐานสำหรับการวิจัยของพวกเขาในปี 1972 และในที่สุดก็ใช้และความพึงพอใจทฤษฎี. [15] ในปี 1972
denis McQuail, jay Blumler และ joseph สีน้ำตาลชี้ให้เห็นว่าการใช้ประโยชน์จากชนิดที่แตกต่างกันของสื่อ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 หมวดหมู่ สี่ประเภทคือการเบี่ยงเบนความสัมพันธ์ส่วนบุคคลส่วนบุคคลและการเฝ้าระวัง[15]
ใน 1973-74 McQuail, Blumler และสีน้ำตาลมาสมทบกับอีลิฮูแคทซ์ไมเคิลและ gurevitch Hadassah haas, ในสื่อการสำรวจของพวกเขา วิจัยร่วมกันเริ่มที่จะแสดงให้เห็นว่าผู้คนเห็นสื่อมวล. [15]
ขั้นตอนที่ 3 [แก้ไข]
สนใจล่าสุดโดยรอบการใช้งานและความพึงพอใจทฤษฎีการเชื่อมโยงระหว่างเหตุผลว่าทำไมสื่อถูกนำมาใช้และประสบความสำเร็จในความพึงพอใจ. [15]
นักวิจัย Ugt องค์กรมีการพัฒนาทฤษฎีที่จะมีการทำนายและอธิบายโดยการเชื่อมต่อความต้องการของเป้าหมายผลประโยชน์และผลกระทบของการบริโภคสื่อและการใช้พร้อมกับปัจจัยส่วนบุคคล. [15]
ทำงานใน Ugt ถูก trailblazing เพราะการวิจัยของแคทซ์, Blumler,และ gurevitch สร้างขึ้นบนการวิจัย Herzog และก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์จากวิธีการที่มีอิทธิพลต่อคนที่จะสื่อให้ผู้ชมวิธีการใช้สื่อลดน้อยลงการปกครองของวิธีการผลกระทบที่ จำกัด จากการศึกษาสื่อมวล. [15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขั้นตอนของทฤษฎี [แก้ไข]
gratifications และใช้ทฤษฎีได้รับการพัฒนาจากทฤษฎีการสื่อสารก่อนและงานวิจัยที่ดำเนินการ โดย theorists เพื่อน Indog
1 ขั้น [แก้ไข]
ในปี 1944 Herta Herzog เริ่มดูได้ในรูปแบบแรกสุดของการใช้และ gratifications เธอทำงานประเภทเหตุผลที่ทำไมคนเลือกเฉพาะชนิดของสื่อ การศึกษา Herzog สัมภาษณ์แฟนละคร และสามารถระบุ gratifications สามชนิด Gratifications สามประเภท ตามทำไมคนฟังน้ำเน่า ได้อารมณ์ wishful คิด และเรียนรู้[15]
แนะใน 1970 อับราฮัมมาสโลว์นำที่ ใช้และ gratifications ทฤษฎีเป็นส่วนขยายของความต้องการและแรงจูงใจทฤษฎีการ ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการโต้แย้งของเขาเป็นคนที่มองอย่างแข็งขันเพื่อตอบสนองความต้องการตามลำดับชั้น ความต้องการเหล่านี้จัดเป็นจำของมาสโลว์ลำดับชั้นของเป็นในรูปของพีระมิดกับความต้องการพื้นฐานที่สุด ที่ใหญ่ที่สุดที่ฐานต้อง self-actualization ที่ปลาย จากด้านล่างขึ้น ปิรามิดประกอบด้วยทางกายภาพ/ชีวภาพ ความปลอดภัย/ความปลอดภัย สังคม/เป็น สมาชิก อาตมา/Self-Respect ก Self-actualization ที่ด้านบน[15]
ใน 1954 Wilbur Schramm พัฒนาสัดส่วนของตัวเลือก สูตรสำหรับการกำหนดที่รูปแบบของสื่อมวลชนบุคคลจะเลือก สูตรช่วยในการตัดสินใจจำนวนพึงพอใจที่บุคคลคาดหวังว่าจะได้รับจากสื่อผ่านความพยายามมากว่าพวกเขาทำให้พึงพอใจ[15]
2 ขั้น [แก้ไข]
ใน 1969 Blumler เจย์และ Denis McQuail ศึกษาการเลือกตั้งปี 1964 ในสหราชอาณาจักร ด้วยการตรวจสอบประชาชนไม่สนคำครหาสำหรับดูโปรแกรมแน่นอนทางการเมืองทางโทรทัศน์ โดยไม่สนคำครหาของผู้ชมสำหรับการดูโปรแกรมบางประเภท พวกเขามุ่งในการจัดประเภทผู้ชมรักษาความเข้าใจผลกระทบของสื่อมวลชนใด ๆ อาจ[4] โต่งผู้ชมที่พวกเขาสามารถระบุช่วยวางส่วนวิจัยในปี 1972 และในที่สุดทฤษฎีการใช้และ gratifications[15]
แนะในปี 1972 Denis McQuail, Blumler เจย์ และ น้ำตาลโจเซฟนำว่า การใช้สื่อชนิดต่าง ๆ สามารถถูกจัดกลุ่มเป็น 4 ประเภท ได้สี่ประเภท: เปลี่ยนเส้นทาง ความสัมพันธ์ส่วนบุคคล เอกลักษณ์ส่วนบุคคล และการเฝ้าระวังการ[15]
เข้าร่วมใน 1973-74 McQuail, Blumler และน้ำตาลกับฮูทซ ไมเคิล Gurevitch และ Hadassah ทาง ในการสำรวจสื่อการ เริ่มการวิจัยร่วมกันเพื่อบ่งชี้ว่า คนเห็นสื่อมวลชน[15]
3 ขั้น [แก้ไข]
รอบใช้และทฤษฎี Gratifications ดอกเบี้ยล่าสุดเป็นการเชื่อมโยงระหว่างเหตุผลทำไมสื่อใช้และพึงพอใจทำได้[15]
นักวิจัย UGT ได้พัฒนาทฤษฎีที่จะอธิบาย และคาดการณ์มากขึ้น โดยการเชื่อมต่อความต้องการ เป้าหมาย ผลประโยชน์ และผลกระทบของการใช้สื่อ และใช้กับแต่ละปัจจัย[15]
งาน UGT ถูก trailblazing เนื่องจากการวิจัยของทซ Blumler และสร้างงานวิจัยของ Herzog Gurevitch และเกิดกระบวนทัศน์จากวิธีสื่อมีผลต่อคนใช้วิธีชมสื่อ ครอบงำวิธีจำกัดผลการศึกษาสื่อมวลชนลดลง[15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขั้นตอนของทฤษฎีที่[แก้ไข]
ใช้ทฤษฎีและฝ่ายรุก,ได้รับการพัฒนาขึ้นจากจำนวนที่มีการวิจัยและทฤษฎีการสื่อสารก่อนดำเนินการโดยบรรดานักทฤษฎีเพื่อน indog
ระยะที่ 1 [แก้ไข]
ใน .1944 herta เช่นมองไปที่รูปแบบโดยเร็วที่สุดของฝ่ายรุก,และใช้กับงานของเธอแยกตาม ประเภท ต่างๆคือเหตุผลที่ว่าทำไมผู้คนจึงเลือก ประเภท ของสื่อ สำหรับการศึกษาของเธอเช่นพัดลม, Opera House ,สบู่ให้ สัมภาษณ์ และได้สามารถที่จะระบุถึงสาม ประเภท ของฝ่ายรุก, สาม ประเภท :ฝ่ายรุก,ที่ใช้ว่าเหตุใดผู้คนจะไปฟังโอเปร่าสบู่คิดคำอวยพรอารมณ์และการเรียนรู้.[ 15 ]
ใน 1970 อับราฮัมมัสที่แนะนำว่าทฤษฎีฝ่ายรุก,และใช้ก็เป็นการขยายตัวของแรงบันดาลใจและทฤษฎีความต้องการพื้นฐานสำหรับอาร์กิวเมนต์เขาก็ให้คนได้มองไปถึงความพึงพอใจในความต้องการด้านตามลำดับชั้น ความต้องการเหล่านี้จะถูกจัดเป็นลำดับชั้นของเงินเดือนของความต้องการในรูปแบบของพีระมิดที่มีความต้องการขั้นพื้นฐานที่สุดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฐานและความจำเป็นที่ในแบบบริการตัวเอง - เงินเดือนน้อยมากที่ปลาย จากด้านล่างขึ้นที่ปิรามิดที่ประกอบด้วยทางชีววิทยา/ทาง กายภาพ ด้านการรักษาความ ปลอดภัย /ความ ปลอดภัย ทางสังคม/ของอีโก้/ self-respect และ, Wilbur Cross schramm ด้วยตนเอง - เงินเดือนน้อยมากที่ด้านบนสุด.[ 15 ]
ในปี 1954 ได้พัฒนาส่วนของการเลือกสูตรที่สำหรับการกำหนดรูปแบบของสื่อมวลชนแต่ละบุคคลที่จะเลือก สูตรที่ช่วยในการตัดสินใจของแต่ละบุคคลความอิ่มใจที่คาดหวังว่าจะได้รับจากขนาดกลางที่มากกว่าว่าความพยายามที่จะทำให้ได้ความอิ่มใจ.[ 15 ]
ระยะที่ 2 [แก้ไข]
ในปี 1969 Jay blumler และเดนิส:ศึกษา 1964 การเลือกตั้งในประเทศอังกฤษโดยการสำรวจตรวจสอบถึงสาเหตุของประชาชนสำหรับการรับชมโปรแกรมทางการเมืองบางอย่างในโทรทัศน์ โดยการจัดชนิดถึงสาเหตุของผู้เข้าฟังการประชุมได้สำหรับการรับชมโปรแกรมบางอย่างที่พวกเขามีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งแยกผู้ชมตามความต้องการของลูกค้าในการสั่งซื้อเพื่อทำความเข้าใจถึงผลสื่อมวลชนได้[ 4 ]แรงจูงใจผู้เข้าฟังการประชุมได้ก็สามารถที่จะระบุได้ช่วยวางรากฐานสำหรับงานวิจัยของพวกเขาในปี 1972 และในท้ายที่สุดก็จะใช้และฝ่ายรุก,ทฤษฎี.[ 15 ]
ในปี 1972 เดนิส: Jay blumler และโยเซฟสีน้ำตาลที่แนะนำที่ใช้ใน ประเภท ที่แตกต่างกันของสื่อจะจัดกลุ่มเป็น 4 ประเภท สี่ ประเภท ที่มีความเบี่ยงเบนความสัมพันธ์ส่วนตัวการใช้งานด้านการตรวจจับและรหัสประจำตัวส่วนตัว[ 15 ]
ใน 1973-74 : blumler และสีน้ำตาลร่วมด้วยเอลีฮู Katz ,ไมเคิล gurevitch ฮาดาชาห์โรมแอนด์ฮาร์สและอยู่ในการสำรวจมีเดียของพวกเขา การประสานการทำงานร่วมกันการวิจัยเริ่มเพื่อระบุว่าประชาชนเห็นสื่อมวลชน.[ 15 ]
ระยะที่ 3 [แก้ไข]
มากที่สุดเมื่อไม่นานมานี้ดอกเบี้ยโดยรอบและใช้เป็นฝ่ายรุก,ทฤษฎีที่เชื่อมโยงระหว่างที่เหตุผลว่าทำไมสื่อและการใช้งานที่สามารถทำได้ความอิ่มใจ.[ 15 ]
นักวิจัย ugt มีการพัฒนาทฤษฎีที่จะเพิ่มเติมคาดการณ์เอาไว้แล้วและการอธิบายโดยการเชื่อมต่อผลและสิทธิประโยชน์เป้าหมายความต้องการของการ บริโภค สื่อและใช้พร้อมด้วยปัจจัยบุคคล.[ 15 ]
ทำงานใน ugt trailblazing เนื่องจากเป็นการวิจัยของ Katz , blumlergurevitch และสร้างขึ้นจากการวิจัยของเช่นและเกิดจากการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์จากการที่สื่อมีอิทธิพลต่อคนว่าบรรดาผู้รับใช้สื่อลดน้อยถอยลงการครอบงำของวิธีการผลที่มีจำกัดในการศึกษาข้อมูลมีเดีย.[ 15 ]