Our class resumes Thursday and Frid

Our class resumes Thursday and Friday regular schedule, and this week’s topic touches on the power of “WE” over “ME or I.” Theoretically speaking, “We” represent the entire group of 2 or more people while “I” only represent “ourselves,” just me alone, which carries weaker support. Everyone is supposed to give me a situation where using “WE” is more appropriate. In a family, workplace, society, organizations, or wherever human beings exist, we put a strong force on a place that lives by rules.

For example, “We do not want you to yell across the table, while we all are having dinner!, do you understand?”, said a mother. We live by and need to hang on to the rules set by our family, and the situation given is pretty obvious to discern that those people at the table, most likely your parents, tell you not to yell while eating, not just your father or mother alone but both or more.

Another situation, let’s say the company wanted us to help conserve energy, so everyone were obligated to stick with the campaign asking to disconnect computers before going home. By only you collaborating on this isn’t enough, so they’re gonna need to have as many people as possible to reinforce the campaign. The company finally can save up to thousands of dollars a year.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประจำวันพฤหัสบดีและวันศุกร์เริ่มเรียน และหัวข้อสัปดาห์นี้สัมผัสพลังของ "เรา" "ฉันหรือฉัน" "เรา" พูดตามหลักวิชา แสดงทั้งกลุ่มอย่าง น้อย 2 คนในขณะที่ "เรา" แสดงเฉพาะ "ตนเอง เพียงแค่ฉันคนเดียว ซึ่งดำเนินการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง ทุกคนควรให้แก่สถานการณ์ใช้ "เรา" เป็นที่เหมาะสม ในครอบครัว ทำงาน สังคม องค์กร หรือที่ใดก็ ตามที่มนุษย์มีอยู่ เราแข็งแรงอยู่ตามกฎ ตัวอย่าง, "เราไม่ต้องตะโกนข้ามตาราง ในขณะที่เรา ทั้งหมดจะมีอาหารค่ำ!, คุณเข้าใจไหม? ", กล่าวว่า แม่ เราอาศัยอยู่ด้วย และต้องวางบนกฎตั้ง โดยครอบครัวของเรา และสถานการณ์ที่กำหนดชัดสวยแยกแยะว่า ผู้คนที่ตาราง มัก พ่อแม่บอกไม่ให้ร้องในขณะรับประทานอาหาร ไม่ใช่แค่คุณพ่อ หรือมารดาคนเดียวแต่ทั้งสองอย่างหรือมากกว่า สถานการณ์ ลองกล่าวว่าบริษัทต้องการให้เราเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน ดังนั้นทุกคนก็จะติดกับแคมเปญที่ร้องขอการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ก่อนเข้าหน้าแรก โดยคุณ ร่วมมือนี้ไม่เพียงพอ เพื่อพวกเขาจะต้องมีคนเป็นจำนวนมากเป็นไปหนุนเสริมการ บริษัทในที่สุดสามารถบันทึกถึงพันดอลลาร์ต่อปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชั้นเรียนของเราดำเนินต่อพฤหัสบดีและวันศุกร์เวลาปกติและในสัปดาห์ที่สัมผัสกับหัวข้อนี้ในพลังของ "เรา" มากกว่า "ME หรือ I. " ทฤษฎีการพูดว่า "เรา" เป็นตัวแทนของทั้งกลุ่มของ 2 คนหรือมากกว่าในขณะที่ "ผม" เท่านั้นเป็นตัวแทน " ตัวเราเอง "เพียงฉันคนเดียวซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการปรับตัวลดลง ทุกคนควรจะให้ฉันสถานการณ์ที่การใช้ "เรา" มีความเหมาะสมมากขึ้น ในครอบครัวที่ทำงานสังคมองค์กรหรือที่ใดก็ตามที่มนุษย์มีอยู่เราใส่แรงในสถานที่ที่อาศัยอยู่ตามกฎ. ยกตัวอย่างเช่น "เราไม่ต้องการให้คุณตะโกนข้ามโต๊ะในขณะที่เราทุกคนจะมีอาหารค่ำ ! คุณเข้าใจไหม? "แม่กล่าวว่า เราอาศัยอยู่โดยต้องแขวนในกฎระเบียบที่กำหนดโดยครอบครัวของเราและสถานการณ์ให้เป็นที่ชัดเจนสวยที่จะมองเห็นว่าคนเหล่านั้นที่โต๊ะส่วนใหญ่พ่อแม่ของคุณบอกคุณไม่ได้ตะโกนในขณะที่การรับประทานอาหารที่ไม่เพียง แต่คุณพ่อของคุณหรือ แม่เพียงอย่างเดียว แต่ทั้งสองคนหรือมากกว่า. ในอีกสถานการณ์หนึ่งสมมติว่า บริษัท ต้องการให้เราที่จะช่วยให้การอนุรักษ์พลังงานเพื่อให้ทุกคนได้รับการผูกพันที่จะต้องยึดติดอยู่กับการรณรงค์ขอให้ตัดการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะกลับบ้าน โดยเพียงคุณเท่านั้นที่ทำงานร่วมกันในนี้ไม่เพียงพอดังนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องอยากที่จะมีคนจำนวนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ที่จะเสริมสร้างการรณรงค์ บริษัท ในที่สุดก็สามารถบันทึกได้ถึงหลายพันดอลลาร์ต่อปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชั้นเรียนของเราสมัครงานวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ปกติตารางเวลาและหัวข้ออาทิตย์นี้สัมผัสกับพลังของ " เรา " มากกว่า " ผมหรือฉัน " ทุกคนพูด " เรา " เป็นตัวแทนของกลุ่มทั้ง 2 คนหรือมากกว่า ในขณะที่ " ผม " แทน " ตัวเรา " แค่ฉันคนเดียว ซึ่งมีการสนับสนุน weaker . ทุกคนควรจะให้สถานการณ์ที่ใช้ " เรา " จะเหมาะกว่า ในครอบครัวสถานที่ทำงาน , สังคม , องค์กร , หรือที่ใดก็ตามที่เป็นมนุษย์อยู่ เราใส่แรงมากในสถานที่ที่อาศัยอยู่ได้โดยกฏ

ตัวอย่างเช่น " เราไม่ได้ต้องการให้คุณตะโกนข้ามโต๊ะ ในขณะที่เรากินข้าวเย็น ! คุณเข้าใจมั้ย " บอกแม่ เราอยู่ด้วย และจะต้องขึ้นอยู่กับกฎที่กำหนดโดยครอบครัวของเราและสถานการณ์ที่ได้รับค่อนข้างชัดเจน แยกแยะได้ว่าผู้ที่โต๊ะ ส่วนใหญ่พ่อแม่ของคุณบอกคุณไม่ได้ที่จะตะโกนขณะกิน ไม่ใช่แค่พ่อหรือแม่คนเดียว แต่สองคนหรือมากกว่า

อีกสถานการณ์หนึ่ง สมมติว่า บริษัท ต้องการให้เราช่วยอนุรักษ์พลังงาน ดังนั้น ทุกคนมีหน้าที่ที่จะติดกับแคมเปญขอตัดการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ก่อนกลับบ้านโดยเฉพาะคุณร่วมมือนี้ไม่เพียงพอ ดังนั้นพวกเขาจะต้องมีคนมากที่สุดเพื่อเสริมสร้างแคมเปญ บริษัท ก็สามารถบันทึกหลายพันดอลลาร์ต่อปี