The nonspecificity of Jaffe's react

The nonspecificity of Jaffe's reaction causes falsely elevated creatinine results in the presence of protein, glucose, acetoacetate, ascorbic acid, guanidine, acetone, cephalosporins, ketone bodies, α-keto acids, and other organic compounds.[1][2] Ammonium is also an interferent; if the sample is plasma, care needs to be taken that ammonium heparin has not been used as an anticoagulant.[2] Nonspecificity is markedly decreased in urine samples since urine creatinine levels are much higher than blood and it generally does not contain significant levels of interfering chromogens.[2][6]
The Jaffe reaction's nonspecificity remains an important issue.[1] Diabetes patients are a high-risk population to develop chronic kidney disease (CKD) and, therefore, interferences from glucose and acetoacetate are of particular importance.[12]
Artifacts such as hemolysis, lipemia, and icteremia can also affect accuracy. Hemolysis releases Jaffe-reacting chromogens and therefore will falsely increase results.[2] Lipemia and icteremia can inhibit optical readings and falsely decrease values.[2] The procedure has developed over time with the intention to minimize these interferents.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

nonspecificity ปฏิกิริยา Jaffe ที่ทำให้สูงขึ้นเท็จผล creatinine ในการปรากฏตัวของโปรตีนกลูโคส acetoacetate, วิตามินซี, guanidine, อะซิโตน, cephalosporins ร่างกายคีโตนกรดα-keto และสารอินทรีย์อื่น ๆ . [1] [2] แอมโมเนียมเป็น ยัง interferent ถ้าตัวอย่างเป็นพลาสม่า, การดูแลจะต้องมีการดำเนินการที่แอมโมเนียมเฮยังไม่ได้นำมาใช้เป็นสารกันเลือดแข็ง[2] nonspecificity จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดในตัวอย่างปัสสาวะตั้งแต่ระดับปัสสาวะ creatinine สูงกว่าเลือดและโดยทั่วไปไม่ได้มีระดับที่มีนัยสำคัญของ chromogens รบกวน. [2] [6]
nonspecificity ปฏิกิริยา Jaffe ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ. [1] ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีประชากรมีความเสี่ยงสูงในการพัฒนาโรคไตเรื้อรัง (CKD) และดังนั้นรบกวนจากน้ำตาลกลูโคสและ acetoacetate มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง. [12]
สิ่งประดิษฐ์เช่น hemolysis, lipemia และ icteremia ยังสามารถส่งผลกระทบต่อความถูกต้อง เม็ดเลือดแดงแตกออก chromogens Jaffe ปฏิกิริยาและดังนั้นจึงเท็จจะเพิ่มผล. [2] และ lipemia icteremia สามารถยับยั้งการอ่านค่าแสงและลดลงเท็จ[2] ขั้นตอนที่มีการพัฒนาในช่วงเวลาที่มีความตั้งใจที่จะลด interferents เหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Nonspecificity ของ Jaffe ของปฏิกิริยาทำให้เกิดผลลัพธ์เท็จยกระดับ creatinine ในต่อหน้าของโปรตีน น้ำตาลกลูโคส acetoacetate กรดแอสคอร์บิค guanidine อะซิโตน cephalosporins คีโตนบอดีส์ α-keto กรด และสารประกอบอินทรีย์อื่น ๆ[1][2] แอมโมเนียเป็น interferent ถ้าตัวอย่าง พลาสมา ดูแลต้องนำว่า เฮพารินแอมโมเนียไม่ใช้ anticoagulant มี[2] Nonspecificity จะลดน้อยลงอย่างเด่นชัดในตัวอย่างปัสสาวะตั้งแต่ระดับ creatinine ปัสสาวะจะสูงกว่าเลือด และโดยทั่วไปเป็นระดับสำคัญของ chromogens รบกวน[2][6]
Nonspecificity Jaffe ปฏิกิริยายังคง เป็นประเด็นสำคัญ[1] ผู้ป่วยเบาหวานมีประชากรอิกพัฒนาโรคไตเรื้อรัง (CKD) และ จึง interferences acetoacetate และกลูโคสมีความสำคัญเฉพาะ[12]
สิ่งประดิษฐ์เช่น hemolysis, lipemia และ icteremia สามารถส่งผลต่อความถูกต้องได้ Hemolysis ปลด chromogens Jaffe ปฏิกิริยา และจะแอบเพิ่มผล[2] Lipemia และ icteremia สามารถยับยั้งแสงอ่าน และแอบลดค่า[2] มีพัฒนากระบวนการที่เวลาการลด interferents เหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

nonspecificity จากปฏิกิริยาของ jaffe creatinine ผิดจะทำให้ผลการยกระดับในการมีอยู่ของโปรตีนกลูโคส acetoacetate วิตะมินซี guanidine อะซีโตน cephalosporins ศพ ketone กรดกล้อง - keto และอื่นๆอินทรีย์.[ 1 ],[ 2 ] its ammonium ยังเป็น interferent หากตัวอย่างที่มีจอพลาสม่าการดูแลจะต้องถูกยึด its ammonium เป็นสิ่งไม่มีการนำไปใช้เป็นซึ่งต้านได้.[ 2 ] nonspecificity ลดลงคือความโดดเด่นในปัสสาวะตัวอย่างปัสสาวะ creatinine ตั้งแต่มีสูงกว่านี้มากกว่าเลือดและโดยทั่วไปจะไม่มีอย่างมีนัยสำคัญระดับของคลื่นสัญญาณรบกวน chromogens .[ 2 ][ 6 ]
ที่ jaffe ปฏิกริยาของ nonspecificity ยังคงอยู่ที่สำคัญปัญหา.[ 1 ]เป็นเบาหวานผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการพัฒนาประชากรเป็นโรคเรื้อรังไต()และทำให้มีสัญญาณรบกวนจาก acetoacetate กลูโคสและมีความสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่ง.[ 12 ]
งานศิลปะเช่น hemolysis lipemia icteremia และนอกจากนั้นยังสามารถส่งผลกระทบต่อความถูกต้องแม่นยำ สารบัญข่าว hemolysis chromogens jaffe - รับมือและดังนั้นจึงจะเพิ่มขึ้นผลไม่ถูกต้องตามกฎหมาย.[ 2 ] icteremia lipemia สามารถยับยั้งการทำงานและที่อ่านได้ออปติคอลไดรฟ์และไม่ถูกต้องตามกฎหมายลดค่า[ 2 ]ขั้นตอนที่ได้รับการพัฒนามาเวลาที่มีความประสงค์ที่จะลด interferents เหล่านี้