การที่ มนุษย์นั้นมีความต้องการที่ไม่สิ้นสุดจึงทำให้ต้องมีเครื่องอำนวนความสะดวก สบายและนั้นเองก็เป็นหน้าที่หนึ่งของนักออกแบบ และนักออกแบบยังทำให้โลกมีความตื่นตัวที่จะรอคอยสิ่งใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นอยู่ ตลอดเวลา นักออกแบบจึงสามารถเป็นแรงขับเคลื่อนของสังคมเพราะการออกแบบเป็นสิ่งที่มี ความเชื่อมโยงกันกับสังคม นักออกแบบมีหลายประเภท ต่างกันไป เช่น ถ้าเราต้องการบ้านสักหลังเราก็ต้องให้นักออกแบบบ้านนั้นช่วยออกแบบบ้านที่เราพึงพอใจให้ นักออกแบบเฟอนิเจอร์ นักออกแบบลวดลายบนสิ่งของต่างๆ หรือ บนฝาผนัง ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆนั้นก็ถือว่าเป็นงานออกแบบอย่างนึง เพราะ ต้องถูกออกแบบให้ใช้งานได้สะดวก และ นักออกแบบนั้นก็มีหน้าที่ทำให้ผู้รับมีความรู้สึกทางอารมณ์ต่องานออกแบบ พูดอีกอย่าง คือ รู้สึกทางใจ ถ้าหากโลกนี้ไม่มีนักออกแบบ ทุกอย่างบนโลก คงไร้ซึ่ง สีสัน ความรู้สึกอารยธรรม แต่การเป็นนักออกแบบมันเป็นอ่ะไรที่ใครๆก็เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีใครถูก ใครผิด อย่างแท้จริง ไม่เหมือนวิชาชีพชนิดอื่นๆ ที่เราจำเป็นต้องเรียนโดยตรง เราต้องเรียนวิทยาศาสตร์ ถึงจะจบมาเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ต้องเรียนแพทย์ จึงจบมาเป็นหมอ ต้องจบวิศวะถึงจะมาทำงานเป็นวิศวกรได้ แต่หมอ วิศวกร นักฎหมาย นักวิทยาศาสตร์นั้น ทุกคนสามารถใช้เวลาว่างเขียนรูปได้ ทำกราฟิกได้ ฝึกเล่นเครื่องดนตรีได้ ใช้เวลากับงานอดิเรกศิลปะชนิดไหนก็ได้ รวมถึงการออกแบบอย่างใดอย่างหนึ่งได้ แต่คนเรียนออกแบบไม่สามารถไปเดินควบคุมเครื่องจักรเล่นๆในโรงงานได้ ไม่สามารถไปทดลองยาในห้องวิจัยได้ถ้าเราไม่รู้เรื่องนั้นๆเลย ไปผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจคนไข้เล่นยามว่างๆก็ไม่ได้ ไปจ่ายยาคนไข้เล่นๆยังไม่ได้เลย ดังนั้นนักออกแบบจึงถือได้ว่าเป็นอาชีพหนึ่งในสังคมเรา