ParapsychologyAnother possible sour

Parapsychology
Another possible source of evidence for the soul is parapsychology, the study of such unusual
phenomena as extrasensory perception (mind reading, remote viewing, or precognition) and
telekinesis (mind over matter). Such phenomena would be very difficult to explain from the
perspective of mind-brain identity, because they seem to violate basic principles of physics. For
example, telekinesis would require that brains somehow have the ability to influence external objects
through means other than the forces currently recognized by physics. Precognition would require some
way in which events in the future could cause changes in present brains. If parapsychological
phenomena are real, they would indeed provide empirical support for the hypothesis that there is
more to mind than brain.
Historically, efforts to validate parapsychology have not been even moderately successful.
Informal studies of extrasensory perception and telekinesis, such as performers who seem to bend
spoons just by looking at them, are worthless because of their lack of controls that rule out fraud and
selfdeception. When attempts have been made to conduct carefully controlled experimental tests of
extrasensory perception, the results have been at best very weak and open to many methodological
criticisms, such as sloppy design or statistical errors. Hence parapsychology provides no more
support for the existence of the soul than do séances and near-death experiences.
Consciousness
The real psychological phenomena that most seriously might support dualism concern conscious
experience. Your consciousness includes perceptual experiences such as colors, shapes, sounds,
tastes, smells, and touches. You are also often aware of emotional states (e.g., being happy or sad),
bodily feelings (pain, fullness after a meal), and thoughts (I am now reading this chapter). One of the
biggest remaining challenges for neuropsychology is to come up with a plausible explanation of how
such experiences arise from brain processes. Some materialist philosophers and behaviorist
scientists have attempted to stave off the challenge of consciousness by denying its existence, but for
most people the conscious aspect of perceiving, feeling, and thinking is undeniable. To ignore
consciousness would amount to admitting that it provides insurmountable evidence supporting the
soul hypothesis over mind-brain identity.
My strategy for dealing with the problem of explaining consciousness is first to refute arguments
that it cannot possibly be dealt with scientifically, a task pursued in the next section. The more
positive task of sketching what a neuropsychological explanation of consciousness might look like is
pursued in Chapter 5, on how brains feel. There I offer not a general theory of consciousness but
rather a neural model of one important kind of experience, emotional feeling. This model is still
highly provisional but at least suggests one plausible route that neuroscience can take to bring
conscious experience within the scope of causal explanation. The difficulty of accounting for
consciousness is the major obstacle to my more general claim that mind-brain identity is part of the
best explanation of all the available evidence about mental phenomena, but I will try to show how
progress in overcoming it can be made. Other mental phenomena that are sometimes taken to show the
limitations of neural explanations will also be discussed in later chapters, including intuition
(Chapters 5 and 9) and free will (Chapter 6).
If consciousness can be explained by psychology and neuroscience, then the case for mind-brain
identity is overwhelming. I argued that we already have excellent starts on neural explanations for
perception, learning, memory, and other mental processes, such as reading. The main phenomena that
might support the alternative hypothesis that minds are souls, including reports of communication with
the dead, near-death experiences, and parapsychology, can be explained away as incidents of fraud
and error. Consciousness cannot be explained away, but Chapter 5 will point to paths that take it
seriously but suggest how scientific advances might occur.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Parapsychologyอีกแหล่งหลักฐานสำหรับจิตวิญญาณเป็น parapsychology การศึกษาดังกล่าวผิดปกติปรากฏการณ์เป็น extrasensory รับรู้ (อ่านจิตใจ การดูระยะไกล หรือ precognition) และtelekinesis (ใจกว่าเรื่อง) ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเป็นการยากที่จะอธิบายจากตำแหน่งการมองของสมองจิตใจตน เนื่องจากพวกเขาดูเหมือนจะขัดต่อหลักการพื้นฐานของฟิสิกส์ สำหรับตัวอย่าง telekinesis ต้องว่า สมองมีความสามารถในการมีอิทธิพลต่อวัตถุภายนอกอย่างใดโดยวิธีอื่นที่ไม่ใช่กองกำลังรู้จักฟิสิกส์ Precognition ต้องบางซึ่งเหตุการณ์ในอนาคตอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองมีวิธี ถ้า parapsychologicalปรากฏการณ์ที่เป็นจริง แน่นอนจะให้รวมการสนับสนุนสำหรับสมมติฐานที่มีขึ้นไปใจมากกว่าสมองประวัติ ความพยายามที่จะตรวจสอบ parapsychology ไม่ได้แม้แต่ค่อนข้างประสบความสำเร็จศึกษาเป็นความรับรู้ extrasensory telekinesis เช่นนักแสดงที่ดูเหมือนจะงอเพราะการขาดการควบคุมที่เลิกทุจริตจะสามหาวช้อน โดยการพวกเขา และselfdeception เมื่อพยายามทำการดำเนินการอย่างระมัดระวังควบคุมทดสอบทดลองรับรู้ extrasensory ผลได้รับในส่วนมากอ่อนแอ และเปิดหลาย methodologicalวิจารณ์ เช่นออกแบบชุ่ย ๆ หรือข้อผิดพลาดทางสถิติ ดังนั้น parapsychology ให้ไม่ได้สนับสนุนสำหรับการดำรงอยู่ของจิตวิญญาณมากกว่าทำ séances และประสบการณ์ใกล้ตายสำนึกปรากฏการณ์ทางจิตใจอย่างแท้จริงที่สุดอย่างจริงจังอาจสนับสนุน dualism กังวลสติประสบการณ์ สติของคุณมีประสบการณ์ perceptual สี รูปทรง เสียงรส กลิ่น และสัมผัส คุณก็มักจะทราบสถานะทางอารมณ์ (เช่น กำลังสุข หรือเศร้า),ร่างกายความรู้สึก (ความเจ็บปวด ความแน่นหลังอาหาร), และความคิด (ผมตอนนี้อ่านบทนี้) หนึ่งของการคงเหลือ การ neuropsychology ที่ใหญ่ที่สุดจะเกิดขึ้นกับคำอธิบายที่เป็นไปได้ของวิธีประสบการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากกระบวนการของสมอง ปรัชญา materialist และ behaviorist บางนักวิทยาศาสตร์ได้พยายาม stave ปิดความท้าทายของสติ โดยการปฏิเสธการดำรงอยู่ของมัน แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ด้านสติ perceiving ความรู้สึก และคิดจะปฏิเสธ เฉยสติจะยอดไป admitting ให้การสนับสนุนหลักฐาน insurmountable การสมมติฐานจิตผ่านตัวตนจิตใจสมองกลยุทธ์ในการจัดการกับปัญหาของการอธิบายสติของฉันเป็นครั้งแรกโต้อาร์กิวเมนต์ไม่อาจจะจัดการกับวิทยาศาสตร์ งานติดตามในส่วนถัดไป เพิ่มเติมบวกงานร่างสิ่งที่คำอธิบาย neuropsychological สติอาจดูเหมือนเป็นติดตามในบทที่ 5 ในสมองความรู้สึกอย่างไร มีฉันมีไม่ทฤษฎีทั่วไปของสติ แต่แต่ แบบประสาทชนิดหนึ่งที่สำคัญประสบการณ์ อารมณ์ความรู้สึก รุ่นนี้ยังคงเป็นสำรองสูงแต่น้อยแนะนำเส้นทางหนึ่งที่เป็นไปได้ว่าประสาทวิทยาศาสตร์สามารถไปนำประสบการณ์จิตสำนึกภายในขอบเขตของการอธิบายเชิงสาเหตุ ความยากของการลงบัญชีสำหรับสติเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะเคลมทั่วไปที่ตัวตนจิตใจสมองเป็นส่วนหนึ่งของการอธิบายทั้งหมดมีหลักฐานเกี่ยวกับปรากฏการณ์ของจิต ที่ดีที่สุด แต่จะพยายามแสดงวิธีความคืบหน้าในมากเพียงใดก็สามารถทำ ปรากฏการณ์ทางจิตอื่น ๆ ที่บางครั้งได้นำไปแสดงข้อจำกัดของคำอธิบายประสาทจะยังกล่าวในบทต่อไป รวมทั้งสัญชาตญาณ(บทที่ 5 และ 9) และ (6 บท) จะหากสติที่สามารถอธิบาย โดยจิตวิทยา และประสาทวิทยาศาสตร์ แล้วกรณีสมองจิตใจตัวมีมากมาย ฉันโต้เถียงว่า เราได้เริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในประสาทคำอธิบายสำหรับรับรู้ เรียนรู้ หน่วยความจำ และ กระบวนการทางจิตใจอื่น ๆ เช่นอ่าน ปรากฏการณ์หลักที่อาจสนับสนุนสมมติฐานอื่นที่จิตวิญญาณ รวมทั้งรายงานการสื่อสารด้วยประสบการณ์ตาย ใกล้ตาย และ parapsychology สามารถจะอธิบายเป็นเหตุการณ์ของการฉ้อโกงและข้อผิดพลาด สติไม่ถูกเพิก แต่บทที่ 4 จะชี้ไปที่เส้นทางมันอย่างจริงจัง แต่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์วิธีการแนะนำอาจเกิดขึ้นได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จิตศาสตร์อีกแหล่งที่มาของหลักฐานจิตวิญญาณเป็นจิตศาสตร์การศึกษาที่ผิดปกติดังกล่าวปรากฏการณ์เป็นโทรจิต(ใจอ่านดูจากระยะไกลหรืออนาคต) และจิต(ใจมากกว่าเรื่อง) ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเป็นเรื่องยากมากที่จะอธิบายจากมุมมองของตัวตนความคิดของสมองเพราะพวกเขาดูเหมือนจะละเมิดหลักการพื้นฐานของฟิสิกส์ สำหรับตัวอย่างเช่นจะต้องมีจิตที่สมองอย่างใดมีความสามารถในการมีอิทธิพลต่อวัตถุภายนอกผ่านทางอื่นที่ไม่ใช่หมายถึงกองกำลังได้รับการยอมรับในขณะนี้โดยฟิสิกส์ อนาคตจะต้องมีวิธีการที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองในปัจจุบัน หาก parapsychological ปรากฏการณ์เป็นจริงพวกเขาแน่นอนจะให้การสนับสนุนเชิงประจักษ์สมมติฐานที่ว่ามีมากขึ้นถึงใจกว่าสมอง. ในอดีตความพยายามที่จะตรวจสอบจิตศาสตร์ยังไม่ได้รับแม้จะประสบความสำเร็จพอควร. การศึกษานอกระบบของจิตและจิตเช่นนักแสดงที่ดูเหมือน จะโค้งงอช้อนเพียงโดยดูที่พวกเขาจะไร้ค่าเพราะพวกเขาขาดการควบคุมที่ออกกฎการทุจริตและselfdeception เมื่อความพยายามที่ได้รับการทำเพื่อดำเนินการควบคุมอย่างระมัดระวังการทดสอบทดลองจิต, ผลที่ได้รับที่ดีมากที่อ่อนแอและเปิดให้วิธีการจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์เช่นการออกแบบเลอะเทอะหรือข้อผิดพลาดทางสถิติ ดังนั้นจิตศาสตร์มีไม่มากการสนับสนุนสำหรับการดำรงอยู่ของจิตวิญญาณกว่าséancesและประสบการณ์ใกล้ตาย. สติปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาจริงว่าส่วนใหญ่อาจสนับสนุนอย่างจริงจังคู่ความห่วงใยใส่ใจประสบการณ์ จิตสำนึกของคุณรวมถึงประสบการณ์การรับรู้เช่นสีรูปร่างเสียงรสชาติกลิ่นและสัมผัส คุณยังมักจะตระหนักถึงอารมณ์ (เช่นความสุขหรือเศร้า) ความรู้สึกของร่างกาย (อาการปวดแน่นหลังอาหาร) และความคิด (ตอนนี้ฉันอ่านบทนี้) หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เหลืออยู่สำหรับไซโคเป็นที่จะเกิดขึ้นกับคำอธิบายที่น่าเชื่อถือของวิธีการประสบการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากกระบวนการทำงานของสมอง บางปรัชญาวัตถุนิยมและ behaviorist นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามที่จะขจัดความท้าทายของการมีสติโดยการปฏิเสธการดำรงอยู่ของมัน แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ในด้านจิตสำนึกของการรับรู้ความรู้สึกและความคิดที่จะปฏิเสธไม่ได้ ที่จะไม่สนใจสติจะเป็นจำนวนเงินยอมรับว่ามันมีหลักฐานผ่านไม่ได้สนับสนุนสมมติฐานจิตวิญญาณในตัวตนความคิดของสมอง. กลยุทธ์ของฉันในการจัดการกับปัญหาของการอธิบายสติเป็นครั้งแรกที่จะลบล้างข้อโต้แย้งว่ามันไม่อาจได้รับการจัดการทางวิทยาศาสตร์, งานติดตามใน ส่วนถัดไป ยิ่งงานในเชิงบวกของสิ่งที่ร่างคำอธิบายวิทยาของสติอาจมีลักษณะเช่นมีการติดตามในบทที่5 เกี่ยวกับวิธีสมองรู้สึก มีผมจะนำเสนอไม่ได้เป็นทฤษฎีทั่วไปของสติ แต่ค่อนข้างเป็นรูปแบบของระบบประสาทชนิดหนึ่งที่สำคัญของประสบการณ์ทางอารมณ์ความรู้สึก รูปแบบนี้ยังคงเป็นชั่วคราวสูงแต่อย่างน้อยแสดงให้เห็นเส้นทางหนึ่งที่เป็นไปได้ว่าประสาทสามารถใช้เพื่อนำประสบการณ์ที่มีสติอยู่ในขอบเขตของคำอธิบายสาเหตุ ความยากลำบากในการบัญชีสำหรับสติเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเรียกร้องของฉันทั่วไปมากขึ้นว่าตัวตนความคิดของสมองเป็นส่วนหนึ่งของคำอธิบายที่ดีที่สุดของทั้งหมดมีหลักฐานเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางจิตแต่ฉันจะพยายามที่จะแสดงให้เห็นว่ามีความคืบหน้าในการเอาชนะมันสามารถทำ ปรากฏการณ์ทางจิตอื่น ๆ ที่จะได้รับบางครั้งเพื่อแสดงข้อจำกัด ของคำอธิบายประสาทจะได้รับการกล่าวถึงในบทต่อมารวมถึงสัญชาตญาณ(บทที่ 5 และ 9) และจะฟรี (บทที่ 6). ถ้ามีสติสามารถอธิบายได้ด้วยจิตวิทยาและประสาทแล้ว กรณีสำหรับจิตใจสมองตัวตนเป็นอย่างดี ฉันถกเถียงกันอยู่ว่าเรามีการเริ่มต้นที่ดีในคำอธิบายประสาทการรับรู้, การเรียนรู้, หน่วยความจำและกระบวนการทางจิตอื่น ๆ เช่นการอ่าน ปรากฏการณ์สำคัญที่อาจสนับสนุนสมมติฐานทางเลือกที่มีจิตใจจิตวิญญาณรวมทั้งรายงานของการสื่อสารกับคนตายประสบการณ์ใกล้ตายและจิตศาสตร์สามารถอธิบายออกไปเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของการทุจริตและความผิดพลาด สติไม่สามารถอธิบายออกไป แต่บทที่ 5 จะชี้ไปที่เส้นทางที่จะใช้มันอย่างจริงจังแต่แนะนำวิธีการความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่อาจเกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ญาณวิเศษ
อื่นได้แหล่งที่มาของหลักฐานสำหรับชีวิตคือ parapsychology การศึกษาปรากฏการณ์ผิดปกติ
เช่นสัมผัสที่หก ( ใจการอ่าน การดูระยะไกลหรือหอบหิ้ว ) และ
Telekinesis ( จิตใจมากกว่าเรื่อง ) ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเป็นการยากมากที่จะอธิบายจากมุมมองของตัวสมอง
ใจเพราะพวกเขาดูเหมือนจะละเมิดหลักการพื้นฐานของฟิสิกส์ สำหรับ
ตัวอย่างจิตจะต้องให้สมองได้มีความสามารถในการมีอิทธิพลต่อวัตถุภายนอก
ด้วยวิธีอื่นมากกว่าการบังคับในขณะนี้ได้รับการยอมรับจากฟิสิกส์ การมองเห็นอนาคตจะต้องมี
วิธีซึ่งเหตุการณ์ในอนาคตอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองปัจจุบัน ถ้าปรากฏการณ์ parapsychological
จริง พวกเขาจะแน่นอนให้เชิงประจักษ์สนับสนุนสมมติฐานที่ว่ามี
เพิ่มเติมจิตใจมากกว่าสมอง .
ในอดีต ความพยายามที่จะตรวจสอบ parapsychology ไม่ได้แม้แต่ในทางการศึกษาประสบความสำเร็จ
คนมีโทรจิต และจิต เช่น นักแสดง ที่ดูเหมือนจะงอ
ช้อนเพียงโดยดูที่พวกเขา จะไร้ค่า เพราะการขาดการควบคุมที่แยกแยะการฉ้อโกงและ
selfdeception .เมื่อความพยายามได้รับการทำที่จะดำเนินการควบคุมอย่างระมัดระวัง ทดลองทดสอบ
จังหวัดบันเตน ผลลัพธ์ที่ได้ในที่สุด อ่อนแอมาก และเปิดให้มีการวิพากษ์วิจารณ์วิธีการ
มากมาย เช่น ลายเลอะเทอะหรือข้อผิดพลาดทางสถิติ เพราะญาณวิเศษให้ไม่มี
สนับสนุนการดำรงอยู่ของจิตวิญญาณมากกว่า S éกันใกล้กับประสบการณ์ชีวิตและสติ

.ที่แท้จริงของจิตที่เกิดมากที่สุดอย่างจริงจังอาจจะสนับสนุนคู่กับสติ
ประสบการณ์ สติของคุณรวมถึงการรับรู้ประสบการณ์ เช่น สี รูปร่าง เสียง
รส กลิ่น และสัมผัส คุณมักจะตระหนักถึงสภาวะทางอารมณ์ เช่น การมีความสุขหรือเศร้า )
ความรู้สึกทางร่างกาย ( ความเจ็บปวด , ความบริบูรณ์ หลังอาหาร ) และความคิด ( ตอนนี้ผมอ่านบทนี้แล้ว ) หนึ่งของ
ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่เหลืออยู่สำหรับลุ่มหลงคือมากับคำอธิบายมาว่า
เช่นประสบการณ์เกิดขึ้นจากกระบวนการทางสมอง นักปรัชญาและนักวิทยาศาสตร์บางวัตถุนิยม behaviorist
ได้พยายามที่จะขจัดความท้าทายของจิตสำนึก โดยปฏิเสธการมีตัวตนของมัน แต่สำหรับ
คนส่วนใหญ่ด้านจิตสำนึกของการรับรู้ ความรู้สึก และการคิดอย่างปฏิเสธไม่ได้ ละเว้น
สติจะเป็นจํานวนเงินยอมรับว่ามันมีหลักฐานสนับสนุนสมมติฐาน insurmountable
วิญญาณมากกว่าตัวตนสมองจิตใจ
กลยุทธ์สำหรับการจัดการกับปัญหาของการอธิบายสติเป็นครั้งแรกเพื่อหักล้างข้อโต้แย้ง
นั่นมันไม่สามารถจะถูกจัดการทางวิทยาศาสตร์ , งานติดตามในส่วนถัดไป ยิ่ง
บวกงานวาดรูปอะไรอธิบายการทดสอบสติอาจจะดูเหมือนเป็น
ติดตามในบทที่ 5 เรื่องสมองรู้สึก ผมเสนอทฤษฎีทั่วไปแห่งสติแต่
แทนที่จะเป็นแบบจำลองประเภทหนึ่งที่สำคัญของประสบการณ์ ความรู้สึกทางอารมณ์ รุ่นนี้ยังคง
สูงชั่วคราวแต่อย่างน้อยหนึ่งเส้นทางที่เป็นไปได้ว่าสมองสามารถใช้เพื่อนำ
ประสบการณ์ภายในขอบเขตของการอธิบายเชิงสาเหตุ ความยากของการบัญชี
สติเป็นอุปสรรคสำคัญของฉันทั่วไป อ้างว่า ตนมองไว้เป็นส่วนหนึ่งของคำอธิบายที่ดีที่สุดของทั้งหมดของหลักฐานเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางจิต
, แต่ฉันจะพยายามที่จะแสดงวิธีการในการเอาชนะ
ความคืบหน้าสามารถทำ ปรากฏการณ์ทางจิตอื่น ๆที่บางครั้งถ่ายให้
ข้อจำกัดของคำอธิบายประสาทก็จะถูกกล่าวถึงในบทต่อมา รวมถึงสัญชาตญาณ
( บทที่ 5 และ 9 ) และจะฟรี ( บทที่ 6 ) .
ถ้าสติสามารถอธิบายได้โดยจิตวิทยาและประสาทวิทยาศาสตร์ แล้วกรณีของตัวตน สมอง จิตเป็นอย่างดี ผมเสนอว่าเราต้องเริ่มอธิบายยอดเยี่ยมสำหรับ
ประสาทการรับรู้ การเรียนรู้ การจำ และกระบวนการทางจิตอื่น ๆเช่นการอ่าน ปรากฏการณ์ที่อาจจะสนับสนุนทางเลือกหลัก
สมมติฐานที่ว่า จิตวิญญาณ รวมทั้งรายงานของการสื่อสารกับ
ตายใกล้ประสบการณ์ความตายและญาณวิเศษ สามารถอธิบายออกไปเป็นปัญหาของการทุจริต
และข้อผิดพลาด ไม่สามารถติได้ แต่บทที่ 5 จะชี้ไปยังเส้นทางที่ใช้มันอย่างจริงจัง แต่แนะนำว่า
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อาจจะเกิดขึ้น