To investigate whether greater inta

To investigate whether greater intakes of calcium, vitamin D, or milk products may protect against ischemic heart disease mortality, the authors analyzed data from a prospective cohort study of 34,486 postmenopausal lowa women 55–69 years old and without a history of ischemic heart disease who completed a dietary questionnaire in 1986. Through 1994, 387 deaths due to ischemic heart disease were documented (International Classification of Diseases, Ninth Revision, codes 410–414, 429.2). The multivariate-adjusted relative risks for the highest versus the lowest quartiles of total calcium, vitamin D, and milk product intakes were as follows: 0.67 (95% confidence interval (CI) 0.47–0.94; p for trend = 0.09) for calcium, 1.41 (95% CI 0.93–2.15; p for trend = 0.12) for vitamin D, and 0.94 (95% CI 0.66–1.35; p for trend = 0.68) for milk products. The relative risk was 0.63 (95% CI 0.40–0.98) for high dietary calcium but no supplemental calcium intake and 0.66 (95% CI 0.36–1.23) for high supplemental calcium but low dietary calcium intake. These results suggest that a higher intake of calcium, but not of vitamin D or milk products, is associated with reduced ischemic heart disease mortality in postmenopausal women, and reduced risk may be achievable whether the higher intake of calcium is attained by diet, supplements, or both. Am J Epidemiol 1999;149:151–61.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การตรวจสอบว่า ภาคมากกว่าแคลเซียม วิตามินดี ผลิตภัณฑ์นมหรืออาจป้องกันโรคสำรอกตาย ผู้เขียนวิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษา cohort อนาคตผู้หญิง postmenopausal lowa 34,486 55-69 ปี และไม่ มีประวัติโรคหัวใจสำรอกที่กรอกแบบสอบถามอาหารในปี 1986 ผ่านปี 1994 387 เสียชีวิตเนื่องจากโรคหัวใจสำรอกได้เอกสาร (นานาประเภทของโรค ปรับปรุงไนน์ รหัส 410 – 414, 429.2) ญาติปรับ multivariate เสี่ยงสำหรับสูงสุดเมื่อเทียบกับ quartiles ต่ำของรวมแคลเซียม วิตามินดี และนมผลิตภัณฑ์ภาคมีดังนี้: 0.67 (ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 0.47 – 0.94; p สำหรับแนวโน้ม = 0.09) แคลเซียม 1.41 (95% CI 0.93-215 p สำหรับแนวโน้ม = 0.12) วิตามินดีและ 0.94 (95% CI 0.66 – 1.35; p สำหรับแนวโน้ม = 0.68) สำหรับผลิตภัณฑ์นม ความเสี่ยงสัมพัทธ์เป็น 0.63 (95% CI 0.40 – 0.98) อาหารแคลเซียมสูง แต่ไม่บริโภคแคลเซียมเพิ่มเติม และ 0.66 (95% CI 0.36-1.23) เสริมแคลเซียมสูงแต่การบริโภคอาหารแคลเซียมต่ำ ผลลัพธ์เหล่านี้แนะนำที่บริโภคสูงแคลเซียม แต่ไม่ D วิตามินหรือผลิตภัณฑ์นม เกี่ยวข้องกับการตายโรคสำรอกลดลงในสตรี postmenopausal และลดความเสี่ยงอาจจะทำได้ว่าบรรลุการบริโภคสูงของแคลเซียมจากอาหาร อาหารเสริม หรือทั้งสองอย่างได้ น. Epidemiol J 1999; 149:151-61

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อตรวจสอบว่าการบริโภคที่มากขึ้นของแคลเ​​ซียมวิตามินดีหรือผลิตภัณฑ์นมอาจช่วยป้องกันการเสียชีวิตขาดเลือดโรคหัวใจผู้เขียนได้วิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษากลุ่มที่คาดหวังของ 34486 ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน Lowa 55-69 ปีและไม่มีประวัติของโรคหัวใจขาดเลือดที่ เสร็จแบบสอบถามอาหารในปี 1986 ผ่านปี 1994, 387 เสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคหัวใจขาดเลือดได้รับการบันทึก (จำแนกระหว่างประเทศของโรค Revision เก้า, รหัส 410-414, 429.2) ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องหลายตัวแปรปรับที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับควอไทล์ต่ำสุดของแคลเ​​ซียมรวมวิตามินดีและนมการบริโภคสินค้าที่มีดังนี้ 0.67 (95% ช่วงความเชื่อมั่น (CI) 0.47-0.94, p สำหรับแนวโน้ม = 0.09) สำหรับแคลเซียม 1.41 (95% CI 0.93-2.15, p สำหรับแนวโน้ม = 0.12) สำหรับวิตามิน D และ 0.94 (95% CI 0.66-1.35, p สำหรับแนวโน้ม = 0.68) สำหรับผลิตภัณฑ์นม ความเสี่ยงเป็น 0.63 (95% CI 0.40-0.98) สำหรับอาหารที่มีแคลเซียมสูง แต่ปริมาณแคลเซียมไม่เสริมและ 0.66 (95% CI 0.36-1.23) สำหรับเสริมแคลเซียมสูง แต่ปริมาณแคลเซียมต่ำอาหาร ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าการบริโภคที่สูงขึ้นของแคลเ​​ซียม แต่ไม่ของวิตามินดีหรือผลิตภัณฑ์นมที่เกี่ยวข้องกับการลดอัตราการตายของโรคหัวใจขาดเลือดในสตรีวัยหมดประจำเดือนและลดความเสี่ยงที่อาจจะทำได้ไม่ว่าจะเป็นปริมาณที่สูงขึ้นของแคลเ​​ซียมจะบรรลุโดยการรับประทานอาหาร, อาหารเสริม หรือทั้งสองอย่าง Am J Epidemiol 1999 149: 151-61

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อตรวจสอบว่า มากกว่าการบริโภคแคลเซียม วิตามินดี หรือ ผลิตภัณฑ์จากนม อาจป้องกันผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบจากผู้เขียนได้วิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาที่คาดหวังของการหมดระดู สตรีศึกษา 34486 โลวา 55 ) อายุ 69 ปี และไม่มีประวัติของโรคหลอดเลือดหัวใจที่กรอกแบบสอบถามอาหารใน 1986 ผ่านปีเธอเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้จัดหมวดหมู่ของโรคระหว่างประเทศเก้าการเปลี่ยนแปลงรหัส 410 ( 414 429.2 , ) มีตัวแปรหลายตัวปรับราคาความเสี่ยงสูงสุดเมื่อเทียบกับคว ไทล ถูกที่สุดแคลเซียมรวมวิตามินดี และผลิตภัณฑ์อาหารนมมีดังนี้ : 0.67 ( ช่วงความเชื่อมั่น 95% ( CI ) 0.47 – 0.94 ; P สำหรับแนวโน้ม = 0.09 ) แคลเซียม , 1.41 ( 95% CI 1.5 – 215 ; p = 0.12 ) สำหรับแนวโน้มสำหรับวิตามิน D และ 0.94 ( 95% CI 0.66 ) 1.35 ; P สำหรับแนวโน้ม = 0.68 ) สำหรับผลิตภัณฑ์นม เสี่ยงสัมพัทธ์เท่ากับ 0.63 ( 95% CI 0.40 - 0.98 ) ให้ใยอาหารสูง แคลเซียม แต่ไม่เสริมแคลเซียมและ 0.66 ( 95% CI 0.36 ( 1.23 ) สูง เสริมแคลเซียม แต่ต่ำ แคลเซียมจากอาหาร . ผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การบริโภคที่สูงขึ้นของแคลเซียม แต่ไม่ใช่วิตามินผลิตภัณฑ์ D หรือนมมีความเกี่ยวข้องกับการลดอัตราการตายของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบในผู้หญิงวัยทอง และลดความเสี่ยงที่อาจจะได้ว่า ยิ่งบริโภคแคลเซียมจะได้จากอาหาร อาหารเสริม หรือทั้งสองอย่าง เป็น epidemiol 1999 J ; 149:151 – 61