Members of Collembola are normally

Members of Collembola are normally less than 6 mm (0.24 in) long, have six or fewer abdominal segments and possess a tubular appendage (the collophore or ventral tube) with eversible sticky vesicles, projecting ventrally from the first abdominal segment. The Poduromorpha and Entomobryomorpha have an elongated body, while the Symphypleona and Neelipleona have a globular body. Collembola lack a tracheal respiration system, which forces them to respire through a porous cuticle, to the notable exception of Sminthuridae which exhibit a rudimentary, although fully functional, tracheal system.[10]

Most species have an abdominal, tail-like appendage, the furcula, that is folded beneath the body to be used for jumping when the animal is threatened. It is held under tension by a small structure called the retinaculum and when released, snaps against the substrate, flinging the springtail into the air. All of this takes place in as little as 18 milliseconds.[11]

Springtails also possess the ability to reduce their body size by as much as 30% through subsequent ecdyses (molting) if temperatures rise high enough. The shrinkage is genetically controlled. Since warmer conditions increase metabolic rates and energy requirements in organisms, the reduction in body size is advantageous to their survival

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สมาชิกของ Collembola ปกติจะน้อยกว่า 6 มม. (0.24 นิ้ว) ยาว มีหก หรือน้อยกว่าส่วนหน้าท้อง และมีเป็นท่อ (collophore หรือท้องหลอด) กับอสุจิที่เหนียว eversible ฉายภาพบดบังจากท้องแรก Poduromorpha และ Entomobryomorpha มีตัวยาว Symphypleona และ Neelipleona มีตัวกลม Collembola ขาดระบบการใส่ท่อหายใจ ซึ่งทำให้พวกเขาลอยหนังมีรูพรุน เป็นข้อยกเว้นที่โดดเด่นของ Sminthuridae ที่ rudimentary แต่งาน ระบบการใส่ท่อ [10]ชนิดส่วนใหญ่มีการท้อง หางเหมือนเป็น furcula ที่พับอยู่ใต้ร่างกายที่จะใช้สำหรับกระโดดเมื่อสัตว์ถูกคุกคาม จะจัดขึ้นภายใต้ความตึงเครียด โดยโครงสร้างขนาดเล็กที่เรียกว่า retinaculum การ และเมื่อปล่อย จัดชิดกับพื้นผิว flinging เร็นในอากาศ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาในมิลลิวินาทีที่น้อยที่ 18 [11]Springtails ยังมีความสามารถในการลดขนาดของร่างกายได้มากถึง 30% ผ่านมา ecdyses (molting) ถ้าอุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงพอ พันธุกรรมได้ควบคุมการหดตัว เนื่องจากสภาพอากาศอบอุ่นเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารและความต้องการพลังงานในสิ่งมีชีวิต การลดขนาดของร่างกายเป็นประโยชน์เพื่อความอยู่รอดของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมาชิกของ Collembola เป็นปกติน้อยกว่า 6 มิลลิเมตร (0.24 ด้วย) นานมีหกหรือน้อยกว่าส่วนท้องและมีรยางค์ท่อ (คน collophore หรือหลอดท้อง) กับถุงเหนียว eversible ฉายช่องท้องจากส่วนท้องแรก Poduromorpha และ Entomobryomorpha มีร่างกายยาวในขณะที่ Symphypleona และ Neelipleona มีร่างกายเป็นรูปทรงกลม Collembola ขาดระบบหลอดลมหายใจซึ่งบังคับให้พวกเขาหายใจผ่านหนังกำพร้ามีรูพรุนเพื่อความทึ่งยกเว้น Sminthuridae ซึ่งแสดงพื้นฐานแม้จะทำงานอย่างเต็มที่ระบบหลอดลม. [10] สายพันธุ์ส่วนใหญ่มีท้องหางเหมือนรยางค์ที่ furcula ที่พับอยู่ใต้ร่างกายที่จะนำมาใช้สำหรับการกระโดดเมื่อสัตว์ถูกคุกคาม จะจัดขึ้นภายใต้ความตึงเครียดโดยโครงสร้างเล็ก ๆ ที่เรียก retinaculum และเมื่อปล่อยออกมายึดกับพื้นผิวเหวี่ยง springtail ไปในอากาศ ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในการเป็นเพียง 18 มิลลิวินาที. [11] springtails ยังมีความสามารถในการลดขนาดร่างกายของพวกเขาโดยเท่า 30% ผ่าน ecdyses ที่ตามมา (ลอกคราบ) ถ้าอุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงพอ การหดตัวจะถูกควบคุมพันธุกรรม เนื่องจากสภาพอากาศอบอุ่นเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารและความต้องการพลังงานในสิ่งมีชีวิต, การลดขนาดร่างกายเป็นประโยชน์ต่อการอยู่รอดของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมาชิกของคอลเลมโบลาโดยปกติจะน้อยกว่า 6 มม. ( 0.24 ) ยาว มีหกหรือน้อยกว่าและมีรยางค์ส่วนท้อง ( ventral collophore ท่อหรือหลอดเล็กเหนียว eversible ) , ครีบท้องยื่นจากส่วนท้องแรก การ poduromorpha entomobryomorpha ยาวและมีร่างกายในขณะที่ symphypleona และ neelipleona มีรูปร่างทรงกลม . คอลเลมโบลาขาดระบบการหายใจเป็นหลอดลมซึ่งบังคับให้หายใจผ่านผิวหนังที่มีรูพรุนเพื่อยกเว้นมีชื่อเสียงของ sminthuridae ซึ่งจัดแสดงเป็นพื้นฐาน แม้ว่าการทำงานอย่างเต็มที่ระบบหลอดลม [ 10 ]ชนิดส่วนใหญ่มีหาง เช่น หน้าท้อง ขา และเฟอร์คูล่า นั่นคือพับอยู่ใต้ร่างกายเพื่อใช้สำหรับการกระโดด เมื่อสัตว์ถูกคุกคาม มันถูกจัดขึ้นภายใต้ความตึงเครียดจากโครงสร้างเล็กๆที่เรียกว่า retinaculum และเมื่อปล่อยตัว ยึดกับพื้นผิวที่แมลงหางดีดเหวี่ยงไปในอากาศ ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในเล็กน้อยเป็น 18 มิลลิวินาที [ 11 ]springtails ยังมีความสามารถในการลดขนาดของร่างกายโดยเท่า 30% ผ่านตามมา ecdyses ( ลอกคราบ ) ถ้าอุณหภูมิสูงขึ้นนั่นเอง การหดตัวเป็นยีนที่ควบคุม เนื่องจากสภาวะอุ่น เพิ่มอัตราการเผาผลาญและความต้องการพลังงานในสิ่งมีชีวิต , การลดขนาดของร่างกาย เป็นประโยชน์ต่อการอยู่รอดของพวกเขา