of glycerol co-digestion with diges

of glycerol co-digestion with digestate, as compared to digestate
alone. The hydraulic retention time for co-digestion was determined
to be 32 days using Eq. (1) and when the glycerol was
loaded at 33% of the total OLR of the reactor, no inhibitory effects
were evident. The maximum Biological Methane Potential (BMP)
for glycerol co-digested with digestate samples was 766 ± 42
ml/gVS as shown in Fig. 1. The digestate alone reached a maximum
methane production of 112 ± 14 ml/gVS. The average difference
between the two samples was 608 ml/gVS, which is 7 times as
much as the gas production of digestate alone. This indicates that
glycerol adds significant methane production when co-digested
with digestate, and does not show short term toxicity effects when
loaded at 33% of the total OLR. Crude glycerol co-digestion with
various substrates has been reported to increase gas output in
BMP and CSTR tests (Astals et al., 2011; Heaven et al., 2011).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ของกลีเซอรย่อยอาหารร่วมกับ digestate เมื่อเทียบกับ digestateคนเดียว กำหนดเวลาเก็บข้อมูลไฮดรอลิกสำหรับย่อยอาหารร่วมจะ ใช้ Eq. (1) และเมื่อกลีเซอรที่มี 32 วันโหลด 33% OLR รวมของปล่อย ไม่มีผลลิปกลอสไขเห็นได้ชัด สูงสุดชีวภาพมีเทนมีศักยภาพ (BMP)สำหรับกลีเซอรต้องร่วมกับตัวอย่าง digestate 766 ± 42มล./gVS มาก Fig. 1 สูงสุดถึง digestate คนเดียวผลิตมีเทนของ 112 ± 14 ml/gVS ความแตกต่างค่าเฉลี่ยระหว่างตัวอย่างทั้งสองถูก ml 608/gVS ซึ่งเป็นครั้งที่ 7มากเป็นการผลิตก๊าซของ digestate คนเดียว นี้หมายถึงกลีเซอรเพิ่มผลิตมีเทนที่สำคัญเมื่อต้องร่วมdigestate และจะไม่ดูสั้นความเป็นพิษผลเมื่อโหลด 33% OLR รวม กลีเซอรดิบย่อยอาหารร่วมด้วยพื้นผิวต่าง ๆ มีรายงานว่า เพิ่มผลผลิตก๊าซในทดสอบ BMP และ CSTR (Astals et al., 2011 สวรรค์ et al., 2011)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กลีเซอรอลร่วมกับการย่อยอาหารย่อยสลายเมื่อเทียบกับ Digestate
เพียงอย่างเดียว เวลากักเพื่อร่วมการย่อยอาหารที่ถูกกำหนด
ให้เป็น 32 วันโดยใช้สมการ (1) และกลีเซอรอลเมื่อถูก
โหลดที่ 33% ของทั้งหมด OLR ของเครื่องปฏิกรณ์ไม่มีผลยับยั้ง
ชัดเจน สูงสุดทางชีวภาพก๊าซมีเทนที่มีศักยภาพ (BMP)
สำหรับกลีเซอรอลร่วมกับกลุ่มตัวอย่างย่อยย่อยสลายเป็น 766 ± 42
มิลลิลิตร / GVS ดังแสดงในรูป 1. ย่อยสลายเพียงอย่างเดียวถึงสูงสุด
ของการผลิตก๊าซมีเทน 112 ± 14 มิลลิลิตร / GVS ความแตกต่างของค่าเฉลี่ย
ระหว่างสองกลุ่มตัวอย่างคือ 608 มิลลิลิตร / GVS ซึ่งเป็น 7 ครั้งเป็น
มากที่สุดเท่าที่ผลิตก๊าซย่อยสลายเพียงอย่างเดียว นี้บ่งชี้ว่า
กลีเซอรอลจะเพิ่มการผลิตก๊าซมีเทนอย่างมีนัยสำคัญเมื่อร่วมย่อย
กับย่อยสลายและไม่ได้แสดงความเป็นพิษผลกระทบในระยะสั้นเมื่อ
โหลดที่ 33% ของทั้งหมดอินทรีย์ กลีเซอรอลดิบร่วมการย่อยอาหารที่มี
พื้นผิวต่าง ๆ ได้รับการรายงานที่จะเพิ่มการส่งออกก๊าซใน
BMP และการทดสอบ CSTR (Astals et al, 2011;.. สวรรค์ et al, 2011)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ของกลีเซอรอล จำกัด digestate การย่อยอาหารด้วย เทียบกับ digestate
อยู่คนเดียว เวลาเก็บกักสำหรับการย่อยอาหาร Co ตั้งใจ
เป็น 32 วันใช้อีคิว ( 1 ) และเมื่อกลีเซอรอลคือ
โหลดที่ 33 % ของอัตราโดยรวมของเครื่องปฏิกรณ์ ไม่มีผลการยับยั้ง
ได้ประจักษ์ มีศักยภาพสูงสุด ชีวภาพ ( BMP )
สำหรับกลีเซอรอล Co ย่อยตัวอย่าง digestate คือ 766 ± 42
มิลลิลิตร / gvs ดังแสดงในรูปที่ 1 การ digestate คนเดียวถึงสูงสุด
การผลิตก๊าซมีเทนของ 112 ± 14 มิลลิลิตร / gvs . มีความแตกต่างระหว่างสองจำนวน 608
มล. / gvs ซึ่งเป็น 7 เท่า
มากเป็นก๊าซที่ผลิต digestate คนเดียว นี้บ่งชี้ว่า กลีเซอรอลจะเพิ่มการผลิตก๊าซมีเทน (

digestate เมื่อ Co ย่อยที่มีและไม่แสดงฤทธิ์ความเป็นพิษในระยะสั้นเมื่อ
โหลดที่ 33 % ของอัตรารวม Crude กลีเซอรอล Co การย่อยอาหารด้วย
พื้นผิวต่าง ๆได้รับการรายงานเพื่อเพิ่มผลผลิตก๊าซใน
BMP แบบซีเอสทีอาร์ ( astals et al . , 2011 ; สวรรค์ et al . , 2011 )