Confucius said that he was not an i

Confucius said that he was not an innovator and that all of his teachings were merely rediscoveries of what had been true in the past. Society was said to have deviated from an earlier Golden Age, and it was his task to guide it back to its proper condition. Appeals to ancient authority were probably customary at the time, and it is not true that Confucius was merely relating ideas which had existed before. In fact, there is reason to believe that much of what Confucius taught was revolutionary at the time, as witnessed by the fact that after his death Chinese emperors attempted to suppress the spread of Confucianism by burning his books and executing Confucian scholars. However Confucianism and the teachings of Confucius eventually prevailed, and Confucianism eventually received Imperial sanction and came to be adopted as the state "religion" (the word religion is in quotes because there is debate whether Confucianism is actually a religion or is simply a system of philosophy.) The privileged position of Confucianism within Chinese society lasted for many centuries, until the Communist takeover, and had a profound influence on the development of China

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขงจื้อกล่าวว่า เขาไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มการ และให้ คำสอนของท่านทั้งหมดได้เพียง rediscoveries ของอะไรได้จริงในอดีต สังคมถูกว่า ได้ deviated จากโกลเด้นอายุก่อนหน้านี้ แล้วก็งานของเขาจะนำมันกลับสู่สภาพที่เหมาะสม อุทธรณ์เก็บโบราณถูกจารีตประเพณีอาจจะในเวลา และไม่เป็นความจริงว่า ลัทธิขงจื้อได้เพียงเกี่ยวกับความคิดที่มีอยู่ก่อน ในความเป็นจริง มีเหตุผลเชื่อว่า มากของลัทธิขงจื้อสอนถูกปฏิวัติในเวลา เป็นพยานข้อเท็จจริงว่า หลังความตายของพระองค์ จักรพรรดิหจีนพยายามระงับการแพร่กระจายของ Confucianism ด้วยการเขียนหนังสือ และดำเนิน Confucian นักวิชาการ แต่ Confucianism และคำสอนของลัทธิขงจื้อก็ตระหนัก และ Confucianism รับไปอิมพีเรียล และมาสามารถนำมาใช้เป็นสถานะ "ศาสนา" ในที่สุด (ศาสนาคำได้ในใบเสนอราคาได้เนื่องจากมีอภิปรายว่า Confucianism เป็นศาสนาจริง หรือเป็นเพียงระบบของปรัชญา) กินเวลาหลายศตวรรษ จนถึง takeover คอมมิวนิสต์ Confucianism ตำแหน่งอภิสิทธิ์ในสังคมจีน และมีอิทธิพลลึกซึ้งในการพัฒนาของจีน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขงจื้อกล่าวว่าเขาไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มและว่าทั้งหมดของคำสอนของเขาเป็นเพียง rediscoveries ของสิ่งที่ได้รับจริงในอดีตที่ผ่านมา สังคมก็บอกว่าจะผิดไปจากก่อนหน้านี้ยุคทองและมันเป็นงานของเขาที่จะเป็นแนวทางในการกลับไปอยู่ในสภาพที่เหมาะสม ดึงดูดความสนใจของผู้มีอำนาจในสมัย​​โบราณอาจจะเป็นประเพณีในเวลานั้นและมันก็ไม่เป็นความจริงที่ขงจื้อเป็นเพียงความคิดที่เกี่ยวข้องซึ่งมีอยู่ก่อน ในความเป็นจริงมีเหตุผลที่จะเชื่อว่าสิ่งที่สอนขงจื้อเป็นปฏิวัติในเวลาเท่าที่เห็นความจริงที่ว่าหลังจากการตายของจักรพรรดิจีนพยายามที่จะปราบปรามการแพร่กระจายของขงจื้อโดยการเผาไหม้หนังสือของเขาและการดำเนินงานนักวิชาการขงจื้อ แต่ขงจื้อและคำสอนของขงจื้อในที่สุดก็ชนะและขงจื้อในที่สุดก็ได้รับการอนุมัติอิมพีเรียลและก็จะนำมาเป็นรัฐ "ศาสนา" (ศาสนาคำว่าอยู่ในคำพูดเพราะมีการอภิปรายว่าขงจื้อเป็นจริงศาสนาหรือเป็นเพียงระบบของ ปรัชญา.) ตำแหน่งที่มีสิทธิพิเศษของขงจื้อในสังคมจีนกินเวลานานหลายศตวรรษจนกระทั่งการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์และมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อการพัฒนาของประเทศจีน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขงจื๊อกล่าวว่าเขาไม่ได้เป็นผู้ริเริ่ม และทั้งหมดของการสอนของเขาเป็นเพียง rediscoveries สิ่งที่ได้รับจริงในอดีต สังคมที่ถูกกล่าวว่ามีการเบี่ยงเบนจากก่อนหน้านี้ยุคทอง และมันเป็นงานของเขาที่จะนำมันกลับสู่สภาพที่เหมาะสมของ ศาลอุทธรณ์อำนาจโบราณเป็นจารีตประเพณีในเวลาและมันไม่เป็นความจริงว่า ขงจื๊อเป็นเพียงความคิดที่เกี่ยวข้องกับที่มีอยู่ก่อน ในความเป็นจริงมีเหตุผลที่จะเชื่อว่ามากของสิ่งที่ขงจื้อสอนคือการปฏิวัติในช่วงเวลาที่เป็นพยานความจริงที่ว่าหลังจากการตายของจักรพรรดิจีนพยายามหยุดยั้งการแพร่กระจายของขงจื้อ โดยเขียนหนังสือของเขาและตำแหน่งนักวิชาการ .อย่างไรก็ตาม ลัทธิขงจื้อ และคำสอนของขงจื๊อลัทธิขงจื๊อได้รับชัยชนะในที่สุดและในที่สุดราชสำนัก และมาเป็นลูกบุญธรรมเป็นรัฐ " ศาสนา " ( คำว่า ศาสนา คือ ในคำพูด เพราะมีการอภิปรายว่า ขงจื๊อเป็นศาสนาหรือเป็นเพียงระบบของปรัชญาตำแหน่งของขงจื๊อ ) สิทธิพิเศษในสังคมจีน เป็นเวลาหลายศตวรรษ จนกระทั่งการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ และได้อิทธิพลลึกซึ้งในการพัฒนาของประเทศจีน